The Alami Report
Home   /   The Alami Report  /   อ่านคำแนะนำแพทย์ช่วงเดือนรอมฎอน

แพทย์เตือนถือศิลอดด้วยความเครียด ระวังจะอาจอันตรายต่อสูขภาพ

             สำนักข่าวอะลามี่: ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเสรีรักษ์ ยันข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ผู้ที่ถือศีลอดด้วยจิตใจที่ศรัทธาและใจอิ่มเอิบในเดือนรอมฎอน จะไม่กระทบกับสภาพร่างกาย แถมในสมองจะมีเอ็นดอร์ฟิน หลั่งออกมา ทำให้ร่างกายจะปลอดภัย แต่ทางตรงกันข้าม ถ้าถือศีลอดด้วยความเครียด ฮอร์โมนสเตียรอยด์ และ อะดีร์นาลีน ก็จะหลั่งออกมา อาจมีอาการปวดท้องหรือ มีแผลในกระเพาะอาหารได้ อันตรายต่อร่างกายตามมาด้วย

            นายแพทย์มานิตย์  ศิริกังวานกุล  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเสรีรักษ์ ให้สัมภาษณ์ สำนักข่าวอะลามี่ พร้อมแนะนำด้านสุขภาพต่อชาวไทยมุสลิมที่อยู่ในช่วงการถือศิลอด โดยกล่าวแสดงความยินดีกับพี่น้องชาวมุสลิมทุกท่าน ที่เดือนรอมฎอน หมุนกับมาเยือนพวกเราอีกครั้งหนึ่ง

            “ ผมเองถึงไม่ได้เป็นชาวมุสลิมแต่ก็มีความรู้สึกชื่นชม และปลื้มใจใจทุกครั้งที่ได้เห็นชาวมุสลิมทุกท่านตั้งใจถือศีลอดกัน ด้วยความศรัทธาในองค์อัลเลาะห์ ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของทุกคน รวมถึงตัวผมเองด้วย”

            โดยธรรมดาแล้วคนที่มีสุขภาพแข็งแรงทุกคนสามารถถือศีลอดได้ทุกคน ดังนั้นจึงใคร่แนะนำทุกท่านที่จะถือศีลอด กรุณาตรวจสอบตัวเองก่อนว่าท่านมีสุขภาพแข็งแรงดีหรือไม่ หรือ มีภาวะบางอย่างที่อาจเป็นอันตรายจากการถือศีลอดอยู่หรือเปล่า มีปัญหาทางด้านสุขภาพบางอย่าง ที่อาจทำให้เราเกิดอันตรายได้ถ้ามิได้ป้องกันไว้ก่อน เช่น ท่านที่เป็นเบาหวาน, โรคหลอดเลือด หรือ โรคแผลในกระเพาะอาหาร เป็นต้น    

           ทั้งนี้หมายความว่าถ้าท่านทราบล่วงหน้าก่อน และมีการป้องกันที่เหมาะสมท่านก็จะถือศีลอดได้ด้วยความปลอดภัย

            มีอาชีพการงานบางอย่างที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก ถ้าเราไม่ได้รับประทานน้ำเลยเป็นเวลานานๆ เช่น ท่านที่ต้องทำงานหนักกลางแดด ที่ร้อนจัด เป็นเวลาทั้งวัน ท่านจะเสียน้ำและเกลือแร่ในร่างกายไปมาก ถ้าทนไม่ได้จริงๆ ท่านก็อาจจำเป็นต้นละศีลอดในวันนั้นๆเสียเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันต่อๆไป น่าจะเหมาะสมกว่า

 

-การถือศีลอดในมุมมองของแพทย์ให้โทษหรือประโยชน์อย่างไรต่อร่างกาย

          นายแพทย์มานิตย์  : เราต้องเข้าใจก่อนว่าข้อกำหนดทางศาสนาในทุกข้อนั้นมุ่งเน้น ที่จะพัฒนาพวกเราให้เจริญขึ้นทางด้านจิตใจ ถ้าคนเรามีจิตใจที่ดีที่เจริญ สังคมก็จะอยู่อย่างมีความสุข การถือศีลอด ก็น่าจะมีจุดมุ่งหมายที่จะฝึกให้พวกเรามีความอดทน อดกลั้น ต่อความหิว

          ถ้าเราสามารถอดทนต่อความหิว ซึ่งแรงกระตุ้นที่ยิ่งใหญ่ได้ เราก็น่าจะอดทนต่อแรงยั่วยุจากความโลภ หรือ ความเห็นแก่ตัวต่างๆได้เช่นกัน  ดังนั้น ผมจึงมีความเชื่อว่า การถือศีลอดนั้นมีประโยชน์ต่อการพัฒนาจิตใจของพี่น้องชาวมุสลิมอย่างแน่นอน

            สำหรับในแง่ร่างกาย เมื่อเราอดอาหารได้สักประมาณ 5-6 ชั่วโมง กระเพาะอาหารของเราก็จะเริ่มว่าง และน้ำตาลในเลือดของเราก็จะเริ่มลดระดับลงจากปกติเล็กน้อย ซึ่งร่างกายจะตอบสนองโดยการหลั่งฮอร์โมนแห่งความเครียด เช่น สเตียรอยด์(steroid) และ อะดีร์นาลีน (adrenalin)ออกมา  เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำตาลในเลือด

           ขณะเดียวกันก็จะมีการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารมากขึ้น กรดที่ออกมาในกระเพาะอาหารที่ว่างก็อาจทำให้เกิดการอักเสบของกระเพาะอาหาร หรืออาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ในบางราย

            ฟังดูแล้วก็น่ากลัวเหมือนกัน แต่อย่าเพิ่งตกใจมาก…..!!!

            มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชัดเจนว่า เวลาที่คนเรามีความสุข ความอิ่มเอมใจอย่างสุดซึ้ง สมองของเราก็จะหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขที่มีชื่อว่าเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) ออกมาเช่นกัน เอ็นดอร์ฟินที่หลั่งออกมาจากสมอง จะเป็นตัวป้องกันไม่ให้เกิดการทำร้ายร่างกายจากฮอร์โมนแห่งความเครียด ดังกล่าวข้างต้น

            จะเห็นได้ว่าถ้าท่านถือศีลอด ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ ด้วยความศรัทธาที่มีต่อองค์อัลเลาะห์อย่างมั่นคง ท่านจะมีความสุข ความอิ่มเอมใจ ในสมองของท่านจะมีเอ็นดอร์ฟิน หลังออกมา ร่างกายของท่านก็จะปลอดภัย

            ในทางตรงกันข้าม ถ้าท่านถือศีลอดด้วยความเครียด นั่งดูเวลาแต่ว่าเมื่อไรพระอาทิตย์จะตกดิน นึกถึงแต่อาหารมื้อกลางคืนที่อยากรับประทาน ฮอร์โมนสเตียรอยด์ และอะดีร์นาลีน ก็จะหลั่งออกมา กรดในกระเพาะอาหารของท่านก็จะมาก ท่านก็อาจมีอาการปวดท้อง หรือ มีแผลในกระเพาะอาหารก็ได้ รวมทั้งอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดศีรษะ ใจสั่น เครียดกังวล เป็นต้น

-มีข้อแนะนำในเรื่องการทานยาสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคประจำตัวอย่างไรเมื่อผู้ป่วยต้องการถือศีลอด จะต้องรับประทานยาอย่างไร

        นายแพทย์มานิตย์  : เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากเพราะยาเป็นสิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปร่างกายและอาจมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายเราได้ โดยผมมีข้อแนะนำ ดังนี้

        1.สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องกระเพาะอาหาร ตื่นนอนมาตอนเช้าท่านควรรับประทานยาลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้น ยาจะออกฤทธิ์ได้ประมาณ 12 ชั่วโมง ก็จะทำให้กระเพาะอาหารของท่านไม่มีกรดมารบกวนมาก สำหรับตอนเย็น ก่อนรับประทานอาหารก็อาจจะรับประทานยาอีก1 ครั้งก็ได้

        2.ผู้ป่วยเบาหวาน ที่แพทย์สั่งยาฉีด หรือยารับประทานให้ก่อนหรือหลังอาหารเช้า, กลางวัน, เย็น เป็นต้น ท่านจะต้องปรับเปลี่ยนเวลาไปเป็นเวลาก่อนหรือหลังอาหาร ที่ท่านรับประทานจริงๆ ไม่เช่นนั้น ท่านอาจมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไปจนอาจเกิดอันตรายได้

         3.ท่านที่เป็นโรคหลอดเลือดตีบ แพทย์มักสั่งยาป้องกันการจับตัวกันของเกร็ดเลือด เช่น ยา แอสไพริน เป็นต้น ซึ่งก็ต้องรับประทานหลังอาหารที่ท่านรับประทานจริง เช่น อาจจะเปลี่ยนไปรับประทานยาหลังอาหารมื้อค่ำ เป็นต้น

        4. สำหรับยาปฏิชีวนะ หรือยาลดความดันโลหิต ยาลดไขมัน ก็อาจรับประทานได้ในเวลาก่อนพระอาทิตย์ขึ้น หรือ หลังพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งน่าจะเป็นเวลาใกล้เคียงกับฉลากยา

-อยากทราบว่าในผลอินทผาลัม มีประโยชน์อย่างไร

        นายแพทย์มานิตย์  : หลังละศีลอดในแต่ละวัน เราควรรับประทานอาหารแต่เพียงครั้งละน้อยเพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว ไม่ควรรับประทานมากๆในครั้งแรกเลยที่เดียว เพราะอาจทำให้กระเพาะอาหารปรับตัวไม่ทัน

            สำหรับอินทผาลัมนั้น เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์มาก เพราะมีน้ำตาลมาก หลังจากที่เราอดอาหารมานาน พอรับประทานน้ำตาลที่มีรสหวานร่างกายก็จะสดชื่น อินทผาลัม ยังอุดมไปด้วยเกลือแร่ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เช่น เหล็ก,สังกะสี,โปแตสเซียม,ฟอสฟอรัส,แมกนีเซียม เป็นต้น

             อินทผาลัม เป็นผลไม้ที่มีกาก(Fiber)มาก จึงทำให้รักษาระบบขับถ่าย ช่วยลดอาการท้องผูกได้ดี นอกจากนั้นเคยมีงานวิจัยพบว่า อินทผาลัม ยังอาจมีฤทธิ์ป้องกันการถูกทำลายของเยื่อบุกระเพาะอาหารได้ด้วย

            “ ผมเชื่อในคำกล่าวของท่าน ศาสดามุฮัม มัด ที่ให้รับประทานอินทผาลัม ในตอนเช้าก่อนถือศีลอด และถ้าจะให้ดี หลังละศีลอด ก็ควรรับประทานอินทผาลัม ร่วมกับผักผลไม้ต่างๆให้พออิ่ม ส่วนอาหารอื่นๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งจำพวกไขมัน อาจไม่ต้องรับประทานก็ได้”

            ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ และด้วยศรัทธาที่มั่นคงต่อ องค์พระอัลเลาะห์ ประกอบกับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จะทำให้พี่น้องมุสลิมทุกท่านที่ถือศีลอดมีจิตใจที่ดีงาม มีสุขภาพที่แข็งแรง และมีสังคมที่มีความสุขตลอดไป

-ในเดือนรอมฎอน นี้ทางโรงพยาบาลมีกิจกรรมอะไรบ้าง หรือโปรแกรมอะไรเศษอย่างไรบ้าง

         นายแพทย์มานิตย์  : สำหรับในเดือนรอมฎอน นี้ ทางโรงพยาบาลเสรีรักษ์ ได้จัดโปรแกรมตรวจสุขภาพสำหรับท่านที่มีความต้องการตรวจเช็คสุขภาพเพื่อเตรียมความพร้อม ก่อนและหลังการถือศีลอดด้วยโปรแกรมตรวจสุขภาพในราคา 2,800 บาท ตลอดตั้งแต่วันที่  1 ก.ค. 54 – 30 ก.ย. 54