หัวหน้าพูดคุยสันติสุข พบปะมวลชนฟังความเห็น
พร้อมเดินหน้าต่อเนื่องชี้เป็นนโยบายระดับชาติ
สำนักข่าวอะลามี่ : หัวหน้าพูดคุยสันติสุข ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นที่ปัตตานี ยืนยันการพูดคุยสันติสุข จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นนโยบายระดับชาติ
วันที่ 25 ก.ค.63 ที่ โรงแรมซีเอสปัตตานี ตานี พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วย พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4/ เลขานุการร่วมคณะพูดคุย จชต.และคณะฯ ได้ร่วมประชุมกับคณะประสานงานระดับพื้นที่และรับฟังข้อเสนอแนะ จากตัวแทน 9 กลุ่ม
ประกอบด้วยกลุ่มงานศาสนาและวัฒนธรรม กลุ่มงานการศึกษา กลุ่มงานวิชาการ กลุ่มงานพัฒนาชุมชน และเศรษฐกิจฐานราก กลุ่มงานเด็ก เยาวชน และสตรี กลุ่มงานสื่อมวลชน การสื่อสาร และเทคโนโลยี กลุ่มงานยุติธรรม กลุ่มงานปกครองท้องที่และท้องถิ่น กลุ่มงานความมั่นคงและองค์กรภาครัฐ
ทั้งนี้ เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะของแต่ละกลุ่ม เกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยแต่ละกลุ่มที่เข้าร่วมประชุมต่างมีแนวความคิดที่ความหลากหลาย และเป็นประโยชน์ ต่อการแก้ปัญหาในพื้นที่ ซึ่งทางคณะพูดคุยสันติสุข จะได้นำข้อคิดเห็นต่างๆที่ได้รับ นำไปวิเคราะห์กลั่นกรองให้ตกผลึก และรวบรวมให้เป็นแนวความคิดและความต้องการของภาคประชาชน เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูล สำหรับการพูดคุยที่จะมีขึ้นในครั้งต่อไป
ภายหลังจากการประชุมรับฟังความคิดเห็น จากภาคส่วนต่างๆ หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า แม้ว่าในช่วงของสถานการณ์ โควิด -19 จะเป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง แต่ยังคงมีการติดต่อประสานงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ผู้อำนวยความสะดวก ใช้วิธีติดต่อสื่อสารด้วยวิธีต่างๆ รวมถึงการติดต่อพูดคุยกับ กลุ่ม BRN
“ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้การพูดคุยต้องหยุดชะงัก ซึ่งในช่วงของสถานการณ์โควิต - 19 ที่ผ่านมา คณะพูดคุยเพื่อสันติสุข ยังได้รับสัญญาณจาก BRN ในเชิงบวก ในเรื่องการยุติความรุนแรง ซึ่งได้มีการนำเสนอก่อนที่จะเกิด สถานการณ์ โควิต-19 แล้ว “ พล.อ.วัลลภ กล่าวและว่า
ขณะเดียวกัน ทางเลขาธิการสหประชาชาติ มีแนวคิดว่าในช่วงสถานการณ์โควิด -19 ประเทศที่มีเหตุการณ์ความรุนแรง ควรมีการแก้ไขปัญหา จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก่อน ซึ่งรัฐบาลไทยไม่ว่าจะเป็นในระดับนโยบายหรือในระดับของพื้นที่ รวมทั้งทุกภาคส่วนได้ทุ่มเท ทรัพยากร และบุคลากร เข้าทำการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ดังที่ทุกท่านได้รับทราบแล้วว่าการแก้ไขปัญหาของทางรัฐบาลและทุกภาคส่วน ได้รับการชื่นชมจากนานาชาติ ที่ร่วมกันในแก้ปัญหาจนสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย
ในขณะเดียวกัน ในช่วงที่ผ่านมาในภาพรวมของเหตุการณ์ในพื้นที่ลดลงมาก ซึ่งทางรัฐบาลก็กำลังประเมินว่าสถานการณ์ที่ลดลงนั้น แท้จริงเกิดจากอะไร อาจจะเกิดจากสถานการณ์โควิด หรือ การประกาศของ BRN หรือประชาชนในพื้นที่ที่จะต้องให้ความเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาโควิดของตัวเองก่อน
“ อย่างไรก็ตามหากปัญหาสถานการณ์โควิดที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ยังยืดเยื้อออกไปอีก ก็ต้องมีวิธีการอื่น นอกจากการพูดคุยบนโต๊ะ ซึ่งยืนยันได้ว่า พูดคุยสันติสุข จะไม่หยุดชะงัก เพราะเป็นนโยบายระดับชาติ ซึ่งรัฐบาลได้บรรจุไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ ฉะนั้นความต่อเนื่องจึงต้องมีอย่างแน่นอน " พลเอก วัลลภ หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข กล่าว.