ไอเอส...เหยื่อของใคร
บันฑิตย์ สะมะอุน
+++++
มองดูประเทศที่เคยมีบทบาทสำคัญต่ออาณาจักรอิสลามในอดีตอย่างอิรักและซีเรีย ให้เกิดมุมสะท้อนหลายแง่มุม
มุมหนึ่ง....ทำให้คิดว่าเกิดขบวนการต่อสู้โดยอ้างอิงถึงคำว่าอิสลาม/มุสลิมหรือสัญลักษณ์ทางศาสนาที่เกี่ยวข้องกับคำว่าอิสลามหรือมุสลิม เช่น กลุ่มไอเอส (Islamic State of Iraq and Greater Syria) ที่กำลังสร้างความแตกแยกและความรุนแรงในอิรักและซีเรียด้วยการปฏิบัติการแบบไร้เหตุผลและไร้มนุษยธรรม โดยมีความพยายามชักนำเข้าสู่ประเด็นขัดแย้งทางศาสนาหรือลัทธิทางศาสนา(ชีอะฮ์/ซุนนีย์) หรือจุดกระแสความแตกแยกที่รุนแรงทางเชื้อชาติถึงขั้นสงครามกลางเมือง
ปัญหาที่เห็นชัดอย่างหนึ่งคือการกระทำของกลุ่มไอเอสดำเนินไปบนเส้นทางของการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจน ซึ่งไม่ต่างอะไรกับพฤติกรรมของสหรัฐฯ และพันธมิตรที่เข้ารุกรานอิรักในอดีตที่ผ่านมา
นั่นเป็นความคิดหนึ่งที่เกิดกระแสสงสัยว่า กลุ่มไอเอส คือ กลุ่มที่ถูกสร้างโดยสหรัฐฯและอิสราเอล อหมายถึงว่าเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของกลุ่มไอเอส ล้อตามวัตถุประสงค์ดั้งเดิมของสหรัฐฯ และอิสราเอลที่มีต่อภูมิภาคตะวันออกกลางหรือโลกมุสลิม หรือไม่
หรือเป็นเพียงความต้องการให้กลุ่มไอเอสเป็นเพียงเหยื่อล่อเพื่อให้กลุ่มต่างๆ ทั้งในอิรักและซีเรียรวมถึงประเทศข้างเคียงที่มีหลายกลุ่มออกมาต่อสู้และต่อต้าน และหากมองถึงวันนี้ยังไม่มีกลุ่มใดหลงทางหรือหิวโหยพอที่จะกล้าฮุบเหยื่อนั้นได้
เพราะหากเหยื่อถูกฮุบเมื่อไหร่ ความรุนแรงหรือสงครามกลางเมืองเป็นเรื่องที่น่าระวัง
เหยื่อหนึ่งชิ้นสามารถดึงความสนใจให้หลายกลุ่มเข้ามาสนใจเหยื่อล่อดังกล่าว แต่เหยื่อล่อในปัจจุบันดูจะขายไม่ออก และถูกอ่านออกว่ามันเป็นเหยื่อปลอมที่ถูกสร้างขึ้น
การจะฮุบเหยื่อจริงแม้จะเจ็บตัวบ้างก็ยังได้รับรสชาติจริงๆ ของเหยื่อต่างจากเหยื่อปลอมที่เมื่อฮุบแล้วมันทั้งเจ็บและยิ่งหิวโหย
ประเทศในโลกมุสลิมได้รับบทเรียนจากการหลอกด้วยเหยื่อล่อมาอย่างโชกโชนเหยื่อล่อในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเหยื่อจากฝ่ายใด จึงถูกมองออกตั้งแต่เริ่มปล่อยเหยื่อแล้ว
เป็นเรื่องแปลกที่กลุ่มไอเอสได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติที่เข้ามาเป็นแนวร่วม ทั้งชาวตะวันตก ยุโรป หรือเอเชียซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นชาติที่มีสัมพันธ์อันดีกับสหรัฐฯนั่นเอง ที่ประกาศว่าจะเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มไอเอสหรือต่อต้านกลุ่มไอเอส
กลุ่มไอเอสที่ปฏิบัติการณ์อย่างไร้มนุษยธรรมด้วยการอ้างถึงอิสลามหรือจะสร้างระบบการปกครองดั้งเดิมในรูปแบบของคอลีฟะฮ์ขึ้นในอิรักและซีเรีย แต่ในทางกลับกันประชาชนอาหรับหลายประเทศพยายามต่อสู้ให้ได้มาซึ่งระบอบประชาธิปไตย
ความต้องการการปกครองที่ต่างกันระหว่างประชาชนเจ้าของประเทศกับมหาอำนาจที่เคยมีอิทธิพลในประเทศ
ชัยชนะของประชาธิปไตยในประเทศโลกมุสลิมถูกวางไว้ให้เป็นเหมือนเหยื่อปลอมที่สร้างขึ้นไว้หลอกล่อให้หลงเคลิ้ม ไม่ต่างจากการเรียกแขกของกลุ่มไอเอสที่อ้างอิงถึงระบบอิสลามแบบดั้งเดิม(ระบบคอลีฟะฮ์) ซึ่งเป็นระบบการปกครองในอุดมคติของมุสลิมที่เคยนำความยิ่งใหญ่มาสู่อาณาจักรอิสลามในอดีต เพื่อหวังให้กลุ่มต่างๆ หลงเคลิ้มไปกับการขายฝันถึงระบบดังกล่าว
เพราะถึงจะอย่างไรก็ตามอย่างน้อยประชาธิปไตยก็ยังสร้างโอกาสกับประชาชน ให้ได้มีสิทธิในการแสดงออกและเสนอความต้องการของประชาชนได้มากกว่าระบบอื่น แม้ประชาธิปไตยจะไม่ใช่ระบบการปกครองที่สมบูรณ์แบบสำหรับประเทศในโลกมุสลิมก็ตาม
ถึงวันนี้อังกฤษและสหรัฐฯ เผยตัวตนที่ชัดเจนว่าจะส่งกองกำลังของตนเข้าไปต่อสู้กับกลุ่มไอเอส ซึ่งที่สุดแล้ว ความเสียหายและเลือดเนื้อชีวิตคงนองท่วมแผ่นดิน โดยไม่ต้องคิดให้มากว่า ไอเอสคือกลุ่มของใคร หรือไอเอสเป็นเหยื่อของใคร ............