“โป๋ย” ศักดิ์ชาย ดีนาน
โดย: ภานุชนาถ
.. ผู้กำกับภาพยนตร์สายเลือดไทย ที่มีแรงบันดาลใจมากมายสู่การเขียนบทและกำกับภาพยนต์ลาว สบายดี ทั้ง 3 ภาค
จากเล่มที่ผ่านมา ภานุชนาถ ได้พาไปท่องเที่ยว “วังเวียง” ประเทศลาวมาแล้ว ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีคนถามถึง เพื่อนๆ อยากไปเที่ยวกัน มีคำชมมากมายหลั่งไหลเข้ามาให้ชื่นใจ อยากให้มีโอกาสจัดทริปไปเที่ยว ก็หวังใจว่าจะมีจังหวะดีๆ สักวันค่ะ
ดิ อะลามี่ ฉบับนี้จึงอดไม่ได้ที่จะยังคงกลิ่นไอของประเทศลาวอีกครั้ง กับเรื่องราวอีกมุมที่อาจจะคุ้นตา คุ้นเคย และมีข่าวตามสื่อต่างๆ ให้เห็นมาบ้าง ลาวมีมนต์เสน่ห์มากมายที่ใครหลายคนอาจหลงรัก เช่นเดียวกับผู้เขียน ซึ่งก็ตกหลุมรักจนอดไม่ได้ที่จะไม่เขียนถึง และอยากเขียนถึงอีกครั้ง ...ในบรรทัดต่อจากนี้อาจไม่ใช่เรื่องเที่ยว หากแต่จะเอ่ยถึงชื่อผู้ชายคนหนึ่ง เชื่อว่าทุกคนคงร้องอ๋อทันที
ศักดิ์ชาย ดีนาน ... ผู้ชายที่ ในนาทีนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักเขา ผู้กำกับภาพยนตร์ที่มากด้วยฝีมือ และมีความเป็นตัวตนชัดเจน ผลงานที่ผ่านการกำกับของเขาทุกเรื่อง ล้วนเกิดจากความฝัน ผ่านการขับเคลื่อนทางความคิด ตกผลึกเป็นเรื่องราว สู่ผลงานคุณภาพ
ศักดิ์ชาย ดีนาน ( ชื่อเล่น โป๋ย) เกิดที่จังหวัดสุรินทร์ เป็นผู้กำกับ นักเขียนบทภาพยนตร์ชาวไทย ซึ่งฝากผลงานกำกับภาพยนตร์มาแล้วมากมายหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น “ คิดถึงทุกคืน, สบายดีวันวิวาห์, สบายดี 2 ไม่มีคำตอบจากปากเซ, สบายดีหลวงพะบาง และยังมีเรื่องอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวมา
ล่าสุดที่เพิ่งมาฉายในประเทศไทยไม่นานนี้คือ “คิดถึงทุกคืน”
ภาพยนตร์ลาวเรื่องนี้ หาจะไม่พูดถึงไม่ได้เลย “ ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกจุดประกายจากที่เขาได้สัมผัสกับผู้คน วัยรุ่นที่อยู่ในเวียงจันทน์ จนเลือกหยิบนำมาเขียนพล็อตเป็นเรื่องราวความรักเล็กๆ แบบเขาเอง เลือกแบบอมยิ้มสบายๆ สไตล์เบาๆ คล้ายหนังสะบายดีหลวงพะบาง มาเล่าถึงความรักของหนุ่มสาว 4 คู่ ที่เกิดขึ้นในวันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ในกรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ในรูปแบบที่แตกต่าง ทั้งรักแรกพบ, ความรักครั้งเก่าที่ไม่เคยลืมเลือน หรือแม้กระทั่งรักสามเส้า
เมื่อมีโอกาสได้คุยกัน คุณโป๋ย ได้เล่าประสบการณ์ให้ฟัง ก็เลยหยิบยกข้อความบางส่วนมาเพื่อแชร์ประสบการณ์พอสังเขป และเพื่อที่จะได้รู้จักตัวตนและความคิดบางมุมของเขาที่เราอาจจะยังไม่เคยรู้ ...
“ผมเดินทางไปลาวครั้งแรก เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2549 ก็ประทับใจกับเมืองใกล้ๆ บ้านเรา ซึ่งมีส่วนคล้ายเราหลายๆ อย่าง ทั้งภาษา และอาหารการกิน ประเพณี ตอนนั้นพอผมได้รู้จักกับสาวที่ลาว ได้คุยกันแล้วประทับใจกับความเป็นสาวลาวสมัยใหม่ เลยเอามาเป็นแรงบันดาลใจเขียนบทเรื่องสะบายดีหลวงพะบาง หนุ่มจากเมืองใหญ่เข้ามาท่องเที่ยวแล้วได้รู้จักโลกที่ลาวและคนลาว”
“ส่วนเรื่องอื่นๆ สบายดี 2 เป็นเรื่องส่วนตัว อยากเล่าเรื่องคนทำหนังที่ยังฝันอยู่ แม้ทุกอย่างจะตีบตันทั้งในด้านจินตนาการและชีวิตส่วนตัวของเขา”
“เรื่องสะบายดีวันวิวาห์ อยากเล่าเรื่องงานแต่งงานในลาว เพราะประทับใจที่เห็นเขายังรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีเก่าๆ ไว้อยู่”
“เรื่อง คิดถึงทุกคืน เล่าถึงเรื่องความรัก ไม่ได้สนใจกับความเป็นลาวหรือไทย หรือที่ไหน เพราะรู้สึกว่า... “ความรักเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่มีขอบเขต ไม่มีเชื้อชาติหรือแบ่งแยกความเป็นประเทศ”
“ผ้าพันคอแดง ก็เล่าเรื่องแบบความเชื่อของคนนับถือพุทธ คือคนตายแล้วมักจะมีห่วงบางอย่าง ที่เขายังไม่ได้ทำหรือไม่อาจจะตัดใจจากไปได้”
เอ่ยถึงชื่อเรื่องล่าสุดขึ้นมา คงจะงงๆ กันใช่ไหมคะ? “ผ้าพันคอแดง” เป็นหนังเรื่องล่าสุด ที่เพิ่งถ่ายทำเสร็จ แฟนภาพยนตร์ทั้งชาวไทย และลาว คงจะได้ชมกันอีกไม่นานเกินรอ
ยังมีความคิด และประสบการณ์อีกมากมาย ที่คุณโป๋ย พูดให้ฟัง และน่าสนใจเกี่ยวกับประเทศลาว ขนบธรรมเนียม ประเพณีในแบบชาวพุทธซึ่งคนลาวรักษาไว้อย่างดี ผู้เขียนจะได้นำมาถ่ายทอดในโอกาสต่อไป
และขอทิ้งท้าย วลีเด็ดที่เหมือนจะธรรมดา แต่กินใจเหลือเกิน
“ความรักเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่มีขอบเขต ไม่มีเชื้อชาติหรือแบ่งแยกความเป็นประเทศ”