Life style
Home   /   Life style  /   "อะมีร เต๊ะ " รอหมาน เจะมะ แสงเทียนดับอีกด้วง ที่ พัทลุง

        " อะมีร เต๊ะ " รอหมาน เจะมะ หรือ " อับดุรเราะห์มาน พัทลุง " ผู้อาวุโสแห่ง " ญะมะอัติ ตับลีฆ " เมืองไทย ถึง " อะญั้ล " จากไปเราไปแล้ว

       " อะมีร เต๊ะ " คือ บุรุษ ผู้เรียกตนเองว่า " คนทำงานดะอ์วะฮ์ "

 

         คำว่า " อาวุโส " โดยปกติ จะหมายถึง " ผู้ที่อายุมาก "  หรือ " ผู้ความรู้กว้างขวาง " หรือ ตำแหน่งหน้าที่ การงาน  ที่บ่งบอกถึง ประสบการณ์ในการงาน

        สำหรับ " คนทำงานดะอ์วะฮ์ " แห่ง " ญะมะอัติ ตับลีฆ " แล้ว  

       ความหมาย คำว่า " อาวุโส " มีความพิเศษ เสริมเพิ่มนิดหน่อย โดย พิจารณาที่ " อายุงาน " เมื่อเริ่มต้นทำงาน " ดะอ์วะฮ์ " ร่วมกับ " ญะมาอัติ ตับลีฆ "

        " อะมีร เต๊ะ " นั้น เล่ากันว่า เริ่มร่วมงาน กับ " ญะมะอัติ ตับลีฆ " ตอนที่ " อะมีร เต๊ะ " มีอายุแค่ 20 ปี ต้น ๆ

หรือ หลังประมาณ 10 ปี หลังจาก " ญะมะอัติ ตับลีฆ " เริ่มอิมปอร์ต หรือ เริ่มถูกนำเสนอในเมืองไทย เมื่อปี พ.ศ.2508

        โดยผู้ " ทำงานดะอ์วะฮ์ " รุ่นบุกเบิก มีชื่อว่า " ฮัจญี ยูสุฟ ค่าน " แห่ง อำเภอ " แม่สอด " จังหวัด ตาก

        เมื่อถึง ปลายปี พ.ศ.2525 ปีนั้น " ญะมะอัติ ตับลีฆ " เปิดตัวใหญ่โต   ด้วยการจัดพบปะ หรือ " อิจติมาอ์ " ระดับชาติ ที่ มัสญิด " อัสสลาม " คลองกุ่ม " นักทำงานดะอ์วะฮ์ " แห่ง " ญะมะอัติ ตับลีฆ " ทั่วฟ้าเมืองไทย และ บางส่วน เดินทางมาจากต่างประเทศ ต่างมุ่งตรง " อิจติมาอ์ " คลองกุ่ม

        วันนั้น ปี พ.ศ.2525 กรุงเทพฯ ครบรอบ การสถาปนา 200 ปี พอดิบพอดี ปีนั้นเช่นกัน ที่มีข่าวลือหนาหูว่า มนุษย์คนแรก ที่ก้าวเท้า เหยียบดวงจันทร์ ชื่อ  " นีล อาร์มสตรอง " ประกาศเข้ารับอิสลาม แต่กลายเป็นเรื่อง " โอละพ่อ " ในภายหลัง

บรรยากาศ " อิจติมาอ์ " คลองกุ่ม ในปีนั้น คึกคักมาก

          " คลองแสนแสบ " คลองแห่งตำนาน ที่ นักเขียนนิยาย ชื่อ " ไม้ เมืองเดิม " ชื่นชอบ ที่จะมาเอา สร้างฉาก " จินตนาการ " เขียนนิยาย แนว " ดรามา " หนุ่มลูกทุ่ง สาวบ้านนา

          ขณะนั้น น้ำธรรมชาติ ใน " คลองแสนแสบ "  ที่ไหลพาดผ่าน " คลองกุ่ม " ถึงจะไม่ใสสะอาด เหมือนน้ำ " โพลาริส " หรือ ใสแจ๋ว ไหลริน จนเห็นตัวปลา ว่ายดุ๊กดิ๊ก แต่ก็ยังสะอาดหมดจด สามารถรองรับ " คนทำงานดะอ์วะฮ์ " ที่มาร่วมงาน " อิจติมาอ์ " ได้อาบน้ำอาบท่า ได้กลุ่มใหญ่มีนักศึกษา ที่เป็นนักกิจกรรม มาร่วม " อิจติมาอ์ " จำนวนไม่น้อย เช่น  อาจารย์ มนตรี หรือ  " มุคตาร เลาะวิถี " อดีตนายกสมาคมนิสิตนักศึกษาไทยมุสลิม ( หรือ ส.น.ท. )

          ที่ขณะนั้น เป็น นักศึกษาใน " มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ " ได้ปรากฏตัว เข้าสังเกตุการณ์ ร่วมงานด้วย ส่วนนักบรรยาย ที่เดินทาง มาจากต่างประเทศ นับว่า ยิ่งใหญ่พอสมควร

           เพราะ " เมาลานา อุมัร ปะลันปูรี " مولانا عمر بالنبوري แห่ง " มัซกัร นิยอมมุดดีน " นิวเดลี อินเดีย เดินทางมาบรรยาย ด้วยตนเอง   โดยผู้หน้าที่ ถ่ายทอดภาษา  " อุรดู " เป็นภาษาไทย คือ " ลาลา ไอยูบ ค่าน " อดีตนักเรียนเก่า " การาจี " ปากีสถาน ผู้เป็นบุตรชายของ " ฮัจญี ยูสุฟ ค่าน " แกนนำ " ญะมะอัติ ตับลีฆ " ยุคนั้น

         " อะมีร เต๊ะ " ก็ได้ปรากฏตัวด้วย ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว " อะมีร เต๊ะ " ได้รับการยกย่องแล้ว ในฐานะ " ผู้นำ " สมาชิกออก " ดะอ์วะฮ์ "

         " อะมีร เต๊ะ " ได้รับการยอมรับแล้ว ใน ฐานะ " ผู้อาสุโว " แห่ง " นักทำงานดะอ์วะฮ์ " ของ " ญะมะอัติ ตับลีฆ " ทั้งที่ " อายุอานาม " ของ " อะมีร เต๊ะ " ตอนนั้น แค่ประมาณ 28 ปี เท่านั้น

          หลังจากงาน " อิจติมาอ์ " ญะมะอัติ ตับลีฆ คลองกุ่ม ในปีนั้น " อะมีร เต๊ะ " ได้ทำงานหน้าที่ " อะมีรใหญ่ " นำสมาชิก " คนทำงานดะอ์วะฮ์ " กลุ่มโต ออกไปในหนทาง ของ " อัลลอฮ์ " ( ตามที่ ญะมะอัติ ตับลีฆ เรียก ) จำนวน 4 เดือน

          " อะมีร เต๊ะ " เป็นมีความรู้ศาสนา ทราบว่า เรียนหนังสือมาจาก" สถาบันปอเนาะ " แห่งหนึ่ง ทางภาคใต้ ส่วนจะอยู่ในระดับไหน สมาชิก " ญะมะอัติ ตับลีฆ " ไม่มีใคร่อยากรู้ เรื่องส่วนตัว ในหมู่สมาชิก " ญะมะอัติ ตับลีฆ "

" คนทำงานดะอ์วะฮ์ " นั้น เมื่อออก " ดะอ์วะฮ์ " แล้ว จะมุ่งมั่น ทำอิดาบัติ สนใจเรื่องตัวเอง ให้เข้าใกล้ชิด " อัลลอฮ์ " มากกว่า

           ดังนั้น การสืบเสาะ อยากรู้ เรื่องส่วนตัวของผู้อื่น จึงไม่มีใน " จินตนาการ "

          " อะมีร เต๊ะ " มีทักษะการใช้ " ภาษา " ที่ยอดเยี่ยม ทั้ง ภาษาไทยภาคใต้ ภาษาไทยภาคกลาง และ " ภาษายาวี "

            การบรรยายแต่ละครั้ง มีพลัง และมากด้วย " ข้อคิด " " น้ำเสียง " ที่ใช้ในการบรรยาย มีจังหวะ มีความนิ่มนวล และ มีเสน่ห์ เหมือนดูกับว่า ถ้อยคำมี " มนต์สะกด " จนผู้ฟังนิ่งสงบ ตั้งใจฟังเป็นที่รับรู้ใน หมู่สมาชิก " ญะมะอัติ ตับลีฆ " ว่า " อะมีร เต๊ะ " เป็นนักบรรยาย ที่ชาญฉลาด แต่ภายใต้ความฉลาดนั้น " อะมีร เต๊ะ " ไม่มีการบรรยาย " นอกลู่นอกทาง "   จะเข้มงวด กวดขัน การบรรยาย ให้อยู่ใน " คุณลักษณะ " หรือ ซิฟัติ 6 ประการ ของ " ญะมะอัติ ตับลีฆ " คือ

           1 - ความหมายของ " ลาฮิลาฮะอิ้ลลัลลอฮ์ " และ ความหมายของ " มุฮัมหมัด ร่อซูลลุ้ลลอฮ์ "

           2 - การละหมาด

           3 - ความรู้ และ การระลึกถึง " อัลลอฮ์ " หรือ อิลมุ และ ซิเกร

          4 - อิกรอม มุสลิมีน หรือ รับใช้พี่น้องมุสลิม

          5 - อิคลาส หรือ ความบริสุทธิ์ใจต่ออัลลอฮ์

          6 - มุญาฮะดะฮ์ หรือ เสียสละในหนทางของ " อัลลอฮ์ "

           " อะมีร เต๊ะ " มักจะรับหน้าที่ " บรรยาย " หลังละหมาด " มัฆริบ " และ หลังละหมาด " ศุบห์ " หรือ ที่คน " ญะมะอัติ ตับลีฆ " เรียก " กุลยาซุโบ๊ะฮ์ "

           " อะมีร เต๊ะ " ทำงานดะอ์วะฮ์ " ญะมะอัติ ตับลีฆ " ยาวนานมาก ตั้งแต่ ยุค " ยูสุฟ ค่าน " แห่ง แม่สอด เรื่อยมายัง ยุค " บาบูบั๋ย " หรือ " ฮัจญี ฆุลาม มุฮัมหมัด กอเซ็ม " แห่ง " มัซกัรมีนบุรี " จนกระทั่ง ยุคปัจจุบัน

          " อะมีร เต๊ะ " ทำงานดะอ์วะฮ์ " ญะมะอัติ ตับลีฆ " จริงจัง เสมอต้น เสมอปลาย จนเป็นรัก นับถือมาก จากมวลสมาชิก " ผู้ทำงานดะอ์วะฮ์ "

           ตลอดเวลา ของการทำงาน " อะมีร เต๊ะ " ได้ทุ่มเทให้งาน " ดะอ์วะฮ์ " อย่างเต็มที่ ทำงานต่อเนื่อง ไม่เคยเว้นว่าง จากงาน " ดะอ์วะฮ์ " จวบถึงทุกวันนี้ อายุเกือบ 70 ปี แล้ว

          ล่าสุด เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีข้อความแจ้งข่าว เด้งใน " เฟสบุ๊ค " ว่า  " อะมีร เต๊ะ " กำลังป่วยหนัก และ กำลัง " แอดมิท " รักษาในห้อง " ไอซียู " โรงพยาบาลหาดใหญ่ ข่าวดังกล่าว สร้างความตกใจ เศร้าโศก และ ห่วงใยอย่างมาก แก่ครอบครัว ญาติพี่น้อง เหล่าสมาชิก " ผู้ทำงานดะอ์วะฮ์ " และ ผู้ที่รู้จัก " อะมีร เต๊ะ "

           ผู้เขียนบทความ เป็นผู้หนึ่งที่รู้จัก " อะมีร เต๊ะ "   แม้นว่า จะไม่สนิทสนม เพราะไม่ได้ " พบปะ " กัน หลายสิบปี เพียงแต่ ช่วงหลัง ๆ ได้ติดตาม การบรรยายของ " อะมีร เต๊ะ " ทางช่อง  " ยูทูป " ที่มีผู้โพสต์ลง  แน่นอน ย่อมรู้สึกโศกเศร้า ห่วงใย เหมือนคนอื่น ๆ ที่ห่วงใย ในอาการป่วย ของ " อะมีร เต๊ะ "

           ขออัลลอฮ์ทรงโปรด ปกป้อง คุ้มครอง และ เยียวยา รักษาอาการป่วย ของ " อะมีร เต๊ะ " ให้หายเป็นปกติด้วยเทอญ อามีน อามัน

          ล่าสุด วันนี้ วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 ทราบข่าวว่า " อะมีร เต๊ะ " ถึง " อะญั้ล " จากพวกเราไปแล้ว

           ขอดุอาต่ออัลลอฮ์ โปรดทรงประทาน ภาคผล ความดีงาม สรวงสวรรค์ชั้นสูงสุด ตอบแทนให้แก่ " อะมีร เต๊ะ " ด้วยเทอญ

 

          ขอบคุณบทความ : เรียบเรียงโดย ... มูซา วันแอเลาะ