Life style
Home   /   Life style  /   ท่องโลกกว้าง กับหนุ่ม ช่างฝัน

“ท่องโลกกว้าง กับหนุ่ม ช่างฝัน”ตอน : ท่องตุรกี

โดย ดลหมาน ผ่องมะหึง



           “ ตุรกี” ทั้งหญิงชาย ผิวขาว จมูกแหลม ผู้หญิงที่นี่จะมีไลฟ์สไตล์การแต่งตัวด้วยชุดสีดำคลุมมิดชิด ส่วนผู้ชายจะมีเคราดำๆ ออกแดงๆ ผมติดหนังศีรษะ เพราะที่นี่เป็น ประเทศมุสลิม

             ตุรกี ชื่อ เรียกอย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐตุรกี ตุรกี เป็นประเทศสองทวีป มีดินแดนอยู่ในสองทวีปทั้งเอเชียและยุโรป 

             ที่น่าทึ่งก็คือ ตุรกี ถูกล้อมรอบด้วยทะเลสามด้าน ได้แก่ ทะเลอีเจียนทางตะวันตก ทะเลดำทางเหนือ และ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางใต้

             นอกจากนี้ ยังมีทะเลมาร์มะรา ในเขตตะวันตกเฉียงเหนืออีกต่างหาก แสดงให้เห็นถึงความเป็นประเทศที่มีความงดงาม ไม่แพ้หน้าตาคนในชาติอย่างแน่นอน

            นี่ เป็นเมืองฝรั่งดีๆนี่เอง ทุกอย่างมีระเบียบเงียบและรวดเร็ว ผมเดินผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง เห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มของเจ้าหน้าที่ ซึ่งทำให้ผมรู้สึกอบอุ่น จนทำให้อดใจไม่ได้ที่จะชำเลืองมอง เพราะหน้าตาพวกเขาเหมือนฝรั่งแต่ไม่จืด แถมมีรอยยิ้มเหมือนคนเอเชียของเราซะด้วย...

            หลังจากที่เดินผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมาแล้ว ก็ต้องเดินไปยังอีกสถานที่หนึ่งเพื่อรอขึ้นเครื่องภายในประเทศที่ต้องบินต่อไปยังสนามบินอังการ่า...

            ชานเมืองของเมืองนี้สงบ สง่า และดูแล้วสวยงามอบอุ่น หญ้าเขียวชอุ่มตัดกับสีบ้านหลากสี โดยเฉพาะสีส้ม ที่เห็นเด่นชัดซึ่งเรียงรายหลายพันหลังอยู่บนยอดเขา ทำให้ผมนึกถึงเรื่อง “ Brokeback Mountain”

            หลังจากนั้นก็เริ่มเข้าสู่เมืองอังการ่า 

            ประเทศนี้ ถนน รถรา ทั้งคนเดินถนน ช่างมีระเบียบสมเป็นเมืองผู้ดีจริงๆ เข้าไปยังศูนย์การค้า เดินอย่างสบายอารมณ์ เลือกของได้อย่างอิสระแถมพนักงานทุกคนมีรอยยิ้มตลอดเวลา ยังแอบนึกเลยว่า นี่มันคนไทยเราชัดๆเลย ในเรื่องของการต้อนรับ

            ไม่ว่าจะอยู่ดินแดนไหน เชื่อว่า พี่ไทยของเราไปอยู่หมด

            ดังนั้น ตุรกี ก็เหมือนกัน มีคนไทยที่เดินทางไปทำงาน ทำธุรกิจหุ่นส่วนก็มีมาก โดยเฉพาะร้านอาหารไทยบัวขาว ภายใต้ชื่อว่า  “Pera Thai Kitchen of Bua Khao” ที่รอให้การต้อนรับด้วยรสชาติอาหารไทยและการบริการแบบกันเอง

            โดยเฉพาะปัจจุบันนี้ รัฐบาลต่างสนับสนุนให้นักศึกษาไทย ได้ศึกษาต่อในประเทศตุรกีอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้มีนักศึกษามุสลิมและไม่ใช่มุสลิมอยู่ภายใต้การดูแลของสถานเอกอัครราชทูตฯ ประมาณ 100 คน

              ปัจจุบันที่นี่ยังมีการรวมตัวจัดตั้งสมาคมนักศึกษาไทยในตุรกีอีกด้วย ทั้งหมดนี้คือสิ่งดี ที่ประเทศไทยเราได้หว่านเมล็ดพันธ์ใหม่ไปทั่วโลก เพราะผลดีจะได้กลับมายังประเทศของเรา และยังสามารถปกป้องคนไทยในประเทศนั้นๆด้วย

            ตุรกีจึงเป็นประเทศหนึ่งที่น่าชื่นชม โดยเฉพาะมัสยิดสีฟ้า และ มหาวิหารมรดกโลกอย่าง เซนต์โซเฟีย  พระราชวังทอปกาปี ที่ใครไปแล้ว หากยังไม่ถึงสถานที่แห่งนี้ก็เหมือนมาไม่ถึงตุรกีกันเลยทีเดียว

            แต่อย่างหนึ่ง พึงให้คิดอยู่เสมอว่า ทุกประเทศย่อมมีคนดีและคนไม่ดี ดังนั้นเราต้องระวังตัวเองอยู่เสมอเพื่อความสุขในการท่องเที่ยว ที่จะมีขึ้นอีกวันอย่างสุขสมอารมณ์หมาย...แต่ขอคอนเฟิร์ม ครับว่า ตุรกีเป็นประเทศที่น่าไปสัมผัสจริงๆ........   

 ตีพิมพ์ครั้งแรก นิตยสาร ดิ อะลามี่ ฉบับเดือนกรกฎาคม 2556