วันอนุรักษ์คลองแสนแสบ อีกหนึ่งความร่วมมือของชุมชน

           สำนักข่าวอะลามี:  วันอนุรักษ์คลองแสนแสบ อีกหนึ่งความร่วมมือของชุมชน ....มัสยิดกมาลุ้ลอิสลาม พร้อมชุมชนสองฝั่งคลองแสนแสบ จับมือ เขตหนองจอก -คลองสามวา-มีนบุรี และมหาวิทยาลัยจันทร์เกษม จัดงานวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ ประจำปี 2554

           เมื่อวันที่ 20กันยายน 2554 ที่ผ่านมา มัสยิดกมาลุ้ลอิสลาม พร้อมด้วยชุมชนสองฝั่งคลองแสนแสบ นักเรียน และผู้ปกครอง จับมือกับสำนักงานเขตมีนบุรี เขตคลองสามวาและเขตหนองจอก กรุงเทพฯ โดยได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยราชภัฎจันทเกษม และชมรมรวมใจภักดิ์รักษ์ต้นไม้ แม่น้ำลำคลอง และสิ่งแสดลล้อม(ชมรมรวมใจภักดิ์รักษ์คลองแสนแสบ) จัดงานวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ ประจำปี 2554 ณ บริเวณ มัสยิดกมาลุ้ลอิสลาม เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ โดยมีอิหม่ามวินัย สะมะอุน  ในฐานะเจ้าของสถานที่กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมทั้งนักเรียน ผู้ปกครองและหน่วยงานราชการและหน่วยงานทีเกี่ยวข้องอย่างคึกคัก

         ทั้งนี้ คลองแสนแสบมีประวัติอันยาวนาน โดยในปีระกา นพศกจุลศักราช 1199 เป็นปีที่ 14ในรัชกาลแผ่นดินที่ 3 กรุงเทพฯ พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งให้ พระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษา(ชื่อทัด) เป็น แม่กองจ้างจีนขุดคลอง ตั้งแต่ตำบลหัวหมากต่อคลองบางกะปิ ไปทางตะวันออก ทะลุที่บางกะหนาก ฝั่งแม่น้ำเมืองฉะเชิงเทรา รางวัดทางยาว 1,337เส้น19 วา2 ศอก กว้าง 6 วา ราคาค่าจ้างขุดเส้นละ เจ็ดสิบบาท รวมเงินทั้งค่าฟันตอไม้ ค่าแก้คลองพระโขนงข้างปลาย รวมเป็นเงินพันสองร้อยหกชั่งสิบสามตำลึง สองบาทสลึงเฟือง โดยใช้เวลาขุดอยู่ถึงสี ปีเศษจึงสำเร็จ เป็นลำคลองเรือเดินได้ เมื่อปลายปีชวดโทศกจุลศักราช 1202 ปี เป็นปีที่ 17ในรัชกาลที่ 3 กรุงเทพฯ ก่อนจะเรียกว่า "คลองแสนแสบ"

          ต่อมาคลองแสนแสบมีสภาพน้ำที่สปรกและเต็มไปด้วยวัชพืช เช่น หญ้าคา ผักตบชวา ประชาชนไม่ได้ใช้ประโยชน์ใด ๆจากคลองสายนี้ แม้ว่าชาวบ้านจะพยายามกันแล้วที่จะพัฒนาคูคลองดังกล่าว แต่ก็เหมือนว่าเกินกำลัง เพราะปัญหาคลองแสนแสบมิได้เกิดขึ้นเพียงวันสองวัน และไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ แต่เกิดจากฝีมือของมนุษย์ที่มักง่ายและไม่รู้คุณค่า

           ต่อมากลาง ปี 2537 มีกลุ่มผู้รักน้ำ ร่วมด้วยกองทัพบกตลอดจนสถาบันการศึกษาลงไปถึงโรงเรียนประถมและมัธยมทั่ว กรุงเทพมหานคร ได้รวมตัวกันในชื่อโครงการว่า "โครงการรวมใจภักดิ์รักษ์คลองแสนแสบ"

           กระทั่งวันที่ 20 กันยายน 2537 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จประพาสทางเรือจากท่าน้ำผ่านฟ้าลีลาศไปจนถึงประตูท่าไข่ จังหวัดฉะเชิงเทรา รวมระยะทาง 72 กิโลเมตร ใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง จนต่อมารัฐบาลประกาศให้วัน ที่ 20 กันยายนของทุกปี เป็น วันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ

          สำหรับมัสยิดกมาลุ้ลอิสลาม ได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้นทุกปี โดยมีนี้มีกิจกรรมและมอบรางวัลแก่นักเรียนจากการประกวดสุนทพจน์ และการวาดภาพ 

           นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการ “กว่าจะมีวันนี้ :17ปีการพัฒนาคลองแสนแสบ การออกร้านจากชุมชนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยังจัดล่องเรือชมภูมิทัศน์สองฝั่งคลองแสนแสบ และกิจกรรมทางน้ำหลายรายการ ทำให้บรรยากาศคึกคักเป็นพิเศษ