นายอารีย์ วงศ์อารยะ อดีตปปลัดกระทรวงมหาดไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานที่ปรึกษา คณะทำงานประสานงานแก้ปัญหาที่ดินมัสยิด กล่าวว่า นับเป็นที่น่ายินดีกับ อิหม่ามวิโรจน์ รัมภักดิ์, คณะกรรมการและสัปบุรุษ ของมัสยิดมหานาค ที่ได้ดำเนินการขอออกโฉนดที่ดินให้กับมัสยิดมหานาค จนแล้วเสร็จ และยังได้ดำเนินการแก้ไขทางทะเบียนในโฉนดที่ดินที่เป็นสุสาน ทั้ง 2 แปลง จากตรัสตีป่าช้าแขก ซึ่งโฉนดที่ดิน ออกเมื่อปีพุทธศักราช 2470 มาเป็นชื่อของมัสยิด โดยใช้เรื่องตัวการตัวแทน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 797,798 แทนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1382 (ครอบครองปรปักษ์)
ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา มัสยิดหลายแห่งได้ใช้มาตรา 1382 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในการโอนกรรมสิทธิ์จากตรัสตี มาเป็นชื่อของมัสยิด ซึ่งต้องเสียค่าธรรมเนียม 2% ของราคาประเมิน สำหรับ มัสยิดมหานาค มีโฉนดที่ดินที่เป็นสุสาน 2 แปลง มีเนื้อที่รวม 9 - 1- 39 ไร่ ราคาประเมินตารางวาละ 175,000 บาท รวมราคาประเมินทั้งสิ้น 654,352,000 บาท ถ้าใช้มาตรา 1382 ของกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ต้องเสียค่าใช้จ่าย 2 % รวมเป็นเงิน 13,087,040 บาท
แต่การดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน ที่เป็นตรัสตีป่าช้าแขกให้กับมัสยิดมหานาค ในครั้งนี้ มาใช้เรื่องตัวการตัวตัวแทน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 797, 798 เสียค่าใช้จ่ายโฉนดละ 50 บาท รวมค่าอากรและคำขออีก 40 บาท รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นเป็นเงิน 140 บาท ซึ่งประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับมัสยิดมหานาค ได้ 13,086,900 บาท
นายอารีย์ วงศ์อารยะ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณ “ คุณมานัส ฉั่วสวัสดิ์ ” อดีตเจ้าพนักงานที่ดิน กรุงเทพมหานคร ในขณะนั้น ที่กล้าตัดสินใจทำเป็นกรณีศึกษาเรื่องตรัสตี ให้กับมัสยิดในประเทศไทย ซึ่งตำแหน่งสุดท้ายของท่านมานัสฯ เกษียณอายุราชการในตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพของกรมที่ดิน
นอกจากนี้ยังต้องขอขอบคุณ อัลมัรฮูม อดิศักดิ์ รอซีดี ที่ท่านได้อุทิศที่ดินให้กับมัสยิดมหานาค จำนวนเนื้อที่ 33-1-47 ไร่ โดยมี นางมาเรียม รอซีดี เป็นผู้จัดการมรดก ที่ดินตั้งอยู่ คลองซอยที่ 8 ตำบลลำลูกกา อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี และขอขอบคุณ อัลมัรฮูม นายหัตยีมหมัดบิน ที่ท่านได้อุทิศที่ดินให้กับมัสยิดมหานาคจำนวนเนื้อที่ 29-2-10 ไร่ (โดยมี นายปราโมทย์ ปาลิยสิทธิ์ เป็นผู้จัดการมรดก) ที่ดินตั้งอยู่ ตำบลคลองสิบ อำเภอหนองจอก จังหวัดกรุงเทพมหานคร
“ การดำเนินการเรื่องตรัสตีป่าช้าแขก ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา หลายมัสยิดดำเนินการจดทะเบียน โดยใช้กฎหมายแพ่งและพานิชย์ มาตรา 1382 (ครอบครองปรปักษ์) ในการจดทะเบียน แต่ครั้งนี้สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร ได้ตัดสินใจ ดำเนินการตามประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์ มาตรการ 797, 798 เรื่องตัวการตัวแทน ในการจดทะเบียนในครั้งนี้ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับมัสยิดเป็นอย่างมาก และยังเป็นกรณีศึกษา (Cast Study) ให้กับมัสยิดอื่นทั่วประเทศไทยได้อีกด้วย
ทั้งนี้ยังทราบข่าวว่ายังมีผู้อุทิศที่ดินอีกหลายแปลงที่อุทิศด้วยวาจา และ ปัจจุบันผู้อุทิศ ก็ได้เสียชีวิตไปนานแล้ว ทางคณะกรรมการกำลังดำเนินการตามหาทายาท เพื่อจะดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ให้กับมัสยิดในโอกาสต่อไป
“ เท่าที่ทราบ มัสยิดมหานาค มีที่ดินที่จดทะเบียนตามมาตรา 84 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน รวม 198-0-55.6 ไร่ ถ้ารวมกับที่ดินที่เป็นสุสาน และที่ตั้งมัสยิด รวมเป็นเนื้อที่ 207-2-68.2 ไร่ ถ้ารวมกับแปลงที่มอบในวันนี้ รวมเป็นเนื้อที่ทั้งหมด 270 -2-25.2 ไร่”