Interviwe : ดิษยาพัชร์ สุทธิสมิทธิ์ นักบริหารผู้หญิงมืออาชีพ

โดย เอกราช มูเก็ม


              สำนักข่าวอะลามี่ : ธุรกิจโรงแรม เป็นที่รับรู้ว่าการบริหารไม่ใช่ง่าย และยิ่งธุรกิจบันเทิง ด้วยแล้ว เป็นการบริหารที่ยากยิ่งกว่า


             “ ดิษยาพัชร์ สุทธิสมิทธิ์” ลูกสาวคนโตของครอบครัว ” สุทธิสมิทธิ์” เดินตามรอยคุณพ่อ มาตั้งแต่เล็ก เธอถูกปลูกฝังให้เป็นคนทำงานตั้งแต่อายุ 23 ปี

           
  .....วันนี้ เธอนั่งในตำแหน่ง ”กรรมการผู้จัดการโรงแรมหรรษา เจบี “ ซึ่งเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ของจังหวัดสงขลา ที่มีห้องพักมากกว่า400ห้องและโรงแรมแห่งนี้เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของเมืองหาดใหญ่ จึงเป็นเรื่องท้าทายยิ่งสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆกับภาระกิจอันยิ่งใหญ่

            คุณ ดิษยาพัชร์ สุทธิสมิทธิ์ หรือ คุณจ๊อบ เล่าให้ฟังว่า เธอมีพี่น้องทั้งหมด 3 คน เธอเป็นพี่สาวคนโต น้องสาวคนรอง จบ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ภาคอินเตอร์ฯ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนน้องชายคนเล็ก จบ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งหมดมาช่วยบริหารธุรกิจของครอบครัว รวมถึงโรงแรมหรรษา เจบี ด้วย

            “สมัยเด็กๆเรียนที่โรงเรียนธิดานุเคราะห์  จนอายุได้ 10 ปี ก่อนจะย้ายไปเรียน โรงเรียนเซนต์โยเซฟ คอนแวนต์ กรุงเทพฯ จนจบมัธยมปลาย เข้าเรียนต่อ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ภาคอินเตอร์ฯ  ม.ธรรมศาสตร์ “

              เหมือนเป็นการจัดเตรียมของผู้เป็นพ่อให้กลับมาเป็นผู้บริหารอย่างแท้จริง เพราะหลังจากจบปริญญาตรี เธอก็ไปเรียนภาษาจีน ที่เมืองปักกิ่ง เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์และด้านภาษาเป็นเวลา 1 ปี ก่อนจะกลับมาบริหารธุรกิจของครอบครัวสุทธิสมิทธิ์  ซึ่งเป็นธุรกิจบันเทิงในหาดใหญ่เมื่อ 10ปีที่ผ่านมา

              เธอบอกว่า ครอบครัวเริ่มต้นจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จากนั้นคุณพ่อก็ขยายไลน์ มาสู่ธุรกิจบันเทิง “หรรษาคาเฟ่” เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ก่อนจะขยายธุรกิจบันเทิงอื่นๆ เช่น โซตัสผับ โรงเบียร์หรรษา พลากอนดิสโก้ ในพื้นที่ด่านนอก ใกล้พรมแดนไทยมาเลเซีย อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ต่อมาได้พัฒนาที่ดินบริเวณเขต 8 เป็น”โรงแรมหรรษาเวเนเชียน” จำนวน 71 ห้องในปี 2552

             “หลังจากคุณพ่อวางใจให้มาบริหารธุรกิจ คิดว่าตัวเองโชคดี ที่โตมาจากครอบครัวธุรกิจ เห็นการทำงานของพ่อมาตั้งแต่เราเล็กๆ ทำให้เราซึมซับทางธุรกิจ และเกิดความหลงไหลในธุรกิจนี้”

              เธอบอกว่า ธุรกิจบันเทิงในอดีตส่วนใหญ่จะยึดรูปแบบเดิมๆจากประสบการณ์ของคุณพ่อ ต่อมาได้พยายามนำรูปแบบใหม่มาผสมผสาน โดยนำความรู้และประสบการณ์มาแชร์กับคุณพ่อถึงแนวโน้มและไลฟ์สไตล์ของคนที่กำลังเปลี่ยนแปลง  คุณพ่อเป็นคนเปิดรับโลกทัศน์ ทำให้เราคุยกันง่ายและเรียนรู้ซึ่งกันและกันมากขึ้น

                “ยอมรับว่าในบางครั้งด้วยวัยวุฒิที่น้อย คือตอนนั้นจบมาใหม่อายุแค่ 23 ปี ก็เข้ามาบริหารธุรกิจ ทำให้กดดันและต้องใช้ความอดทนสูงมาก แต่ทุกอย่างได้คุณพ่อเป็นที่ปรึกษา จึงผ่านพ้นมาได้ และเป็นการสั่งสมประสบการณ์ที่สำคัญของชีวิต”

              ต่อมาในปี 2554 คุณพ่อได้ประมูลโรงแรมเจบี จากธนาคารทหารไทย ในวงเงิน 461 ล้านบาท  และได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น โรงแรมหรรษา เจบี แต่เนื่องงจากโรงแรมอายุนานร่วม20 ปี ทำให้ต้องปรับปรุงหลายอย่าง เพื่อให้เจบี กลับมีชีวิตเหมือนในอดีต อาทิ พัฒนาห้องอาหารปาล์มคอร์ท ปรับภูมิทัศน์รอบโรงแรม ด้วยการถมสระน้ำหน้าโรงแรมปรับเป็นลานจอดรถ ปรับปรุงห้องประชุมให้หรูหรา คลาสสิค เพื่อรองรับงานการสัมนาและงานประชุมขนาดใหญ่

               “ปัจจุบันมีห้องประชุมใหญ่3ห้อง ห้องตะกั่วป่า  ห้องจุติ และห้องใหม่คือ ห้องปรารถนา สามารถรองรับได้ 3,000คน”

                คุณจ๊อบ บอกว่า เนื่องจากสภาพโรงแรมที่ขาดการพัฒนามานาน ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารชุดใหม่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับพนักงาน เรามุ่งมั่นในการพัฒนาโรงแรม เพื่อให้กลับมาเป็นที่ยอมรับและให้สมกับชื่อของโรงแรมหรรษาเจบี เนื่องจากโรงแรมเจบี ในอดีต เปรียบเสมือนหน้าตาของเมืองหาดใหญ่

               สำหรับพนักงานเรามองว่า เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์ในการทำงานมานาน และมีศักยภาพสูงฉะนั้น1ปีแรก ที่เข้ามาบริหาร เราเน้นการจัดการภายใน พร้อมๆกับการซ่อมบำรุงห้องพัก ทั้งหมด 430ห้อง ให้ดูใหม่เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทั้งลูกค้าและพนักงาน

               ผู้บริหารหญิงมองโอกาสตลาดท่องเที่ยวหาดใหญ่ ว่า อาจแตกต่างจากภูมิภาคอื่นเช่น เชียงใหม่ ที่อาจมีฤดูกาลทองเที่ยว แต่หาดใหญ่ ไม่มี ทำให้ลูกค้าสามารถเดินทางมาเที่ยวหาดใหญ่ตลอดเวลา ซึ่งลูกค้ามีทั้งคนไทยและมาเลเซีย

               นอกจากนี้เพื่อเป็นการบริการนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการโรงแรม เราให้ความสำคัญกับห้องอาหาร ซึ่งปัจจุบันมี ห้องอาหารปาล์มคอร์ท สำหรับลูกค้าที่เป็นชาวมุสลิมเรามีครัวฮาลาล ซึ่งจะแยกโซนบริการออกไปเพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจว่ารับประทานอาหารในโรงแรมหรรษา เจบี ด้วยความอุ่นใจ

              ในฐานะที่เป็นคนหาดใหญ่และทำธุรกิจที่นี่ เธอมองว่า ผู้ประกอบการในหาดใหญ่ มีความอดทนสูงกับการผ่านพ้นวิกฤติต่างๆที่ผ่านมา ทั้งน้ำท่วมและหตุการณ์ความไม่สงบ แต่หาดใหญ่ก็ฟื้นตัวเร็วกว่าปกติ ขณะที่ภาครัฐเองก็พยายามกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการจัดงานหลายอย่างเช่น มิดไนท์สงกรานต์ ตรุษจีน และเทศกาลเคาน์ดาวน์

              ปัจจุบัน“ดิษยาพัชร์ สุทธิสมิทธิ์”ยังดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมธุรกิจบันเทิงจังหวัดสงขลา ควบคู่กับ ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการโรงแรมหรรษา เจบี อีกด้วย

ตีพิมพ์ครั้งแรก นิตยสาร ดิ อะลามี่ ฉบับเดือนเมษายน 2556