โปลิเคมฯติวเข้มพนักงานเสริมทักษะคนล้างรถสู่มืออาชีพ
สำนักข่าวอะลามี่: โปลีเคม จับมือกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ติวเข้มพนักงาน เพิ่มศักยภาพแรงงานและพัฒนา“บริการบำรุงรักษาเครื่องยนต์” ให้เป็นคนล้างรถแบบมืออาชีพ รองรับการแข่งขันตลาดแรงงานและเวทีอาเซียน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (28 พ.ย.55)บริษัท โปลิเคม อินเตอร์ กรุ๊ป(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน)ผู้ให้บริการและศูนย์ดูแลรักษาความสะอาดรถยนต์อันดับต้นๆของประเทศไทย จับมือกับศูนย์พัฒนาผีมือแรงงานกรุงเทพมหานคร จัดอบรมหลักสูตร”งานบริการบำรุงรักษาเครื่องยนต์” จัดขึ้นที่สาขาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว กรุงเทพฯ
นายสามารถ บุญธราทิพย์ ประธานกรรมการ บริษัท โปลิเคม อินเตอร์ กรุ๊ป(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) กล่าวถึงเข้าร่วมโครงการยกระดับผลิตภาพแรงงานไทย เพิ่มศักยภาพแรงงานและพัฒนางาน “บริการบำรุงรักษาเครื่องยนต์”ในครั้งนี้ว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ทางภาครัฐให้การสนับสนุนภาคเอกชน เพื่อให้ภาคเอกชนมีพลังในการต่อสู้
เนื่องจากในอีก 2 ปีข้างหน้า เราจะก้าวเข้าเวทีประชาคมสู่อาเซียนและถือว่าเป็นแนวทางการพัฒนาบุคลากรของบริษัทที่ถูกต้อง และเป็นการยกระดับความรู้และความเข้าในการพัฒนาคุณภาพและทักษะในการบำรุงรักษารถยนต์ ในเรื่องของความปลอดภัยในการทำงานการฟื้นฟูสภาพการทำงาน และการเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกในการทำงาน การบริการ การบำรุงรักษารถยนต์
นายสามารถ กล่าวอีกว่า การอบรมในครั้งนี้จะทำให้ให้ผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริหารหน่วยงานหรือองค์กร ที่ต้องการบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ เพื่อร่วมพัฒนาหน่วยงานหรือองค์กรให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
ด้าน นางจินตนา ใจแสน ผู้อำนวยการ ศูนย์พัฒนาผีมือแรงงานกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนค่าจ้างแรงตามนโยบายรัฐบาลค่าแรงขั้นต่ำ 300บาท ซึ่งจะเริ่มวันที่1มกราคม 2556 ทำให้กรมพัฒนาผีมือแรงงานจึงเข้ามามีส่วนร่วม จัดฝึกอบรมให้กับพนักงาน ในการพัฒนาผีมือให้เป็นมืออาชีพ เพิ่มเติมความรู้ และทักษะรวมไปถึงความซื่อสัตย์ในงานบริการ และปลูกฝังจิตสำนึกในการรักองค์กร เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของนายจ้าง
สำหรับโครงการความร่วมมือกับ บริษัทโปลิเคมฯ จะจัดอบรมระยะเวลา 30 ชั่วโมง โดยจัดเป็น 12 รุ่น โดยจะมีวิทยากรฝึกอบรมให้ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ หลังจากการอบรมจบหลักสูตรแล้ว จะมีการประเมินงานทั้งบุคคลากรผู้ถ่ายทอดและตัวผู้เข้าฝึกอบรม หากผ่านการประเมินจะออกใบรับรองให้กับผู้เข้าฝึกอบรม (วุฒิบัตร)เพื่อการันตีว่าผ่านการฝึกทักษะแล้ว
“เชื่อว่าการปรับขึ้นค่าแรง 70 จังหวัดตามนโยบายบาลรัฐบาลจะกระทบกับผู้ประกอบการอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อม(SME) ดังนั้นเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันกับตลาดแรงงานและรองรับการปรับขึ้นราคาค่าแรงผู้ประกอบการสามารถพัฒนาฝีมือแรงงานได้ ซึ่งกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน พร้อมจัดอบรมทุกจังหวัด ดยรัฐจัดงบประมาณการเข้าอบรมให้ทั้งวิทยากรและผู้เข้าอบรม เพื่อช่วยผู้ประกอบการอย่างเต็มที่” นางจินตนา กล่าว.