ไอแบงก์คิ๊กออฟปล่อยสินเชื่อร้านค้ายึดหลักชารีอะห์

           สำนักข่าวอะลามี่:  ไอแบงก์ เปิดตัวโครงการ “ความสะอาดเป็นส่วนหนึ่งของความศรัทธา”  เจาะตลาดผู้ประกอบการอาหารและเครื่องดื่ม ตามโครงการ “ความสะอาดเป็นส่วนหนึ่งของความศรัทธา” โดยยึดหลักชารีอะห์

                     (ธานินทร์  อังสุวรังษี  ผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย คนใหม่)

            ธนาคารอิสลามฯ รุกตลาดสินเชื่อรายย่อย(MSMEs) เจาะตลาดเป้าหมาย ร้านค้าแผงลอย รถเข็น ขายอาหาร ขายเครื่องดื่ม(ที่อิสลามอนุมัติ) นำร่องที่ตลาดและชุมชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ก่อนที่จะขยายไปต่างจังหวัดทั่วประเทศ ตามโครงการ “ความสะอาดเป็นส่วนหนึ่งของความศรัทธา” นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งโครงการ “ ความสะอาด เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต” กลุ่มลูกค้าเป้าหมายผู้ประกอบการผลิตหรือจำหน่ายอาหาร หรือลูกค้าทั่วไป (ไม่ฮาลาล) ภายใต้ความรับผิดชอบของธนาคารอิสลามฯหรือไอแบงก์ จะมีส่วนในการช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อย พึ่งพาตนเองได้ และเพื่อการมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการคืนคุณค่าสู่สังคมและชุมชน 

            นายบัณฑิต โสตถิพลาฤทธิ์ ประธานกรรมการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการนี้ถือว่าเป็นการคืนกำไรให้กับประชาชน ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล  ต้องการดูแลประชาชนในระดับรากหญ้าให้กินดีอยู่ดี  โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านค้าแผงลอย ถ้ามีการปรับปรุงที่ดีอาจทำให้ติดระดับโลกได้ในอนาคต รวมไปถึงการมาจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าด้วย

             “ที่ผ่านมาคนจนเข้าถึงแหล่งเงินทุนยาก จึงอยากขอให้นึกถึงธนาคารอิสลามฯ เรายินดีช่วย รวมไปถึงชาวต่างศาสนิกด้วย ไอแบงก์ยินดีให้คำปรึกษา “

            นายบัณฑิต กล่าวอีกว่า พร้อมกันนี้ไอแบงก์จะพัฒนากระบวนการให้สู่มาตรฐานสากล เพื่อรองรับการขยายธุรกรรมทางการเงินของธนาคารการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายตรงกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม โดยเป็นไปตามหลักศาสนาของอิสลาม ตลอดจนพัฒนาบุคลากรให้มีความให้มีความชำนาญในการใช้ระบบไอที และเพิ่มทักษะความชำนาญการบริการทางการเงิน ตามหลักศาสนาอิสลาม ให้พร้อมต่อการพัฒนา นวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ พร้อมรองรับการแข่งขันในระดับสากล โดยเฉพาะ AEC นอกจากนี้ยังมุ่งพัฒนาการสื่อสารภาษาที่ 3 อีกทั้งธนาคารจะขยายสาขาและจัดตั้งศูนย์ธุรกิจไปยังต่างประเทศอีกด้วย

              ด้าน นายธานินทร์  อังสุวรังษี  ผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า  ตามโครงการนี้อยากให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าถึงธุรกรรมทางการเงิน เพื่อนำมาพัฒนาและปรับปรุงกิจการให้ถูกสุขลักษณะตามหลักศรัทธาของศาสนาอิสลาม และเป็นแหล่งเงินทุนในการดำเนินกิจการ อีกทั้งยังให้กลุ่มลูกค้าดังกล่าวที่มีความประสงค์ที่จะขยายธุรกิจ หรือขยายสาขา ซึ่งถือว่าเป็นเป็นการเข้าถึงลูกค้าได้อีกทางหนึ่ง

            “ โครงการนี้ เราคาดว่าจะมีลูกค้าสนใจเข้าร่วมโครงการ 5,000 ราย  มีลูกค้าสนใจเข้าร่วมโครงการแล้ว 2,800 ร้านค้า ซึ่งขณะนี้อนุมัติแล้ว 737 ราย”นายธานินทร์  กล่าวและว่า

            สำหรับโครงการนี้ตั้งเป้า 5,000 ร้านค้า  มีลูกค้าเข้าร่วมโครงการแล้ว 2,800 ร้านค้า ในวงเงินสินเชื่อรวม 142.56 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนลูกค้ามุสลิม 1,522 ร้านค้า ลูกค้าทั่วไป 1,278 ร้านค้า อนุมัติแล้ว 737 ร้านค้า ภายใต้วงเงิน 35.55 ล้านบาท

          ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2555 ธนาคารอิสลาม มีสินเชื่อรายย่อยเพิ่มขึ้น ณ สิ้นปี 2554 รวมสุทธิ 4,858 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปี 2554 ร้อยละ 18.09 จากเงินให้สินเชื่อรวมรวม ณ สิ้นปี 2554 และมีเงินสินเชื่อรายย่อยรวม ณ เดือนตุลาคม 31,710 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 26 ของเงินให้สินเชื่อรวมทั้งหมด มีลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้นจากปี 2554 จำนวน 41,943 ราย ส่งผลให้จำนวนลูกค้ารายย่อยรวมเป็น 130,782 ราย

           โดยเป้าหมายในการปล่อยสินเชื่อรายย่อยในปี 2555 ธนาคารฯได้กำหนดเป้าหมายเงินให้สินเชื่อรายย่อยเพิ่มขึ้นสุทธิจากปี 2554 จำนวน 6,900 ล้านบาท  และเงินให้สินเชื่อรายย่อยรวม ณ สิ้นปี 2555 เท่ากับ33,700 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25.02ของเงินให้สินเชื่อรวมทั้งหมดและกำหนดเป้าหมายจำนวนลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้นสุทธิ  82,102 ราย จำนวนลูกค้ารายย่อยรวม ณ สิ้นปี 170,941

โดยในปี 2556 กำหนดเป้าหมายสินเชื่อรายย่อยเพิ่มขึ้นสุทธิ 13,000 ล้านบาท และเงินให้สินเชื่อรายย่อยรวม ณ สิ้นปี46,700 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 29.70 ของเงินให้สินเชื่อรวมทั้งหมด และกำหนดเป้าหมายจำนวนลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้น