Hot Stories
Home   /   Hot Stories  /   กอ.รมน.ภาค4 ระบุ 9 ปี'ไฟใต้'คดีความมั่นคงกว่า8พันคดี

กอ.รมน.ภาค4ระบุ 9 ปีไฟใต้คดีความมั่นคงกว่า8,000 คดี  

อัสวิน ภัฆวรรณ รายงาน

             สำนักข่าวอะลามี่ : กอ.รมน.ภาค 4 ระบุ “ไฟใต้”  เกือบ 9 ปี มีกว่า 100,000 คดี คดีความมั่นคงกว่า 8,000 คดี    สรุป “เนื้องาน”  ปี 55  ผลงานเพียบ   ระบุชัด  ผู้ก่อความไม่สงบ พัวพันยาเสพติด สินค้าเถื่อน ยึดทรัพย์ได้ 300 ล้านบาท รถ 111 คัน ทอคำ เงินสด  อาวุธปืน 130 กระบอก 

             พันเอก ปราโมทย์  พรหมอินทร์  หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์  และรองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า  (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า)  เปิดเผยว่า  กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เป็นหน่วยงานหลักในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน ด้วยการน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทานเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักแก้ปัญหา โดยใช้นโยบายสานใจสู่สันติ แนวทางการเมืองนำการทหารเป็นแนวทางการปฏิบัติ

              โดยมีผลการดำเนินการที่สำคัญ คือยุทธศาสตร์การเสริมสร้างความเข้าใจ  ยุทธศาสตร์การพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแทรกซ้อน  ยุทธศาสตร์การดำเนินการด้านสิทธิมนุษยชน  ยุทธศาสตร์การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน   ยุทธศาสตร์การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

              “เวลาที่ผ่านมาทำให้สถานการณ์ภาพรวมก้าวหน้าดีขึ้น ไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยธรรม บังคับใช้กฎหมายตามหลักนิติธรรม  ทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่น ศรัทธาในอำนาจรัฐมากขึ้นตามลำดับ”

              พันเอก ปราโมทย์  ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการปฏิบัติต่อปัญหาภัยแทรกซ้อน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า  ได้จัดตั้งคณะทำงานพิเศษบูรณาการร่วมหลายฝ่าย เข้าจัดการภัยแทรกซ้อน ซึ่งมีเครือข่ายสัมพันธ์เชื่อมโยงกับผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่  โดยใช้กฎหมายพิเศษเข้าดำเนินการอย่างจริงจัง  จนสามารถการดำเนินการต่อขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนยึดของกลางที่ผ่านมา จำนวนกว่า 300,000  ลิตร

             และในปี 2555  (ระหว่างเดือน ต.ค. 54 – มี.ค. 55 )   สามารถจับกุมและตรวจยึดของกลาง รถกระบะ จำนวน  111  คัน, เรือ จำนวน  4  ลำ, สถานที่เก็บน้ำมันจำนวน 16  แห่ง,น้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน 157,675 ลิตร และผู้กระทำความผิด จำนวน 127 ราย

              สำหรับขบวนการค้ายาเสพติดได้กดดัน ปราบปราม และสกัดกั้น ในพื้นที่ จำนวน 150  ครั้ง ได้ผู้ต้องหา จำนวน 211 คน ตรวจยึดของกลาง ยาบ้ากว่า 253,000 เม็ด, พืชใบกระท่อมกว่า 2,500  กก., ยาแก้ไอกว่า 33,000 ขวด   และยาเสพติดประเภทอื่น ๆ อีกจำนวนมาก

              นอกจากนี้ยังสามารถขยายเครือข่ายจากผลการจับกุมที่นำไปสู่การยึดทรัพย์  เครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่ ทั้งเงินสด, รถยนต์, ทองคำ, ที่ดิน และทรัพย์สินอื่น ๆ อีกหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 300  ล้านบาท  ซึ่งการเข้าดำเนินการดังกล่าวได้พบหลักฐานสำคัญที่เชื่อถือได้ว่า  เครือข่ายยาเสพติดที่ถูกจับกุม  เป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงกับพ่อค้ายาเสพติดทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งเชื่อมโยงกับแกนนำผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่อย่างชัดเจน

            หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์  และรองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังกล่าวอีกว่า โดยมีสถิติคดีความมั่นคงในพื้นที่ 3  จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4  อำเภอของ จ.สงขลา ตั้งแต่ปี 47  จนถึง 30  มิ.ย. 55  จำนวน 102,767  คดีเป็นคดีความมั่นคง จำนวน  8,537 คดี คิดเป็นร้อยละ 8.31   โดย ไม่รู้ตัวผู้กระทำความผิด จำนวน 6,505   คดี  รู้ตัวผู้กระทำความผิด จำนวน 2,032 คดีจับได้  1,444  คดี, หลบหนี  588  คดี  คดีเข้าสู่ชั้นศาล พิจารณาพิพากษา จำนวน 430  คดี  ลงโทษ จำนวน 177  คดี คิดเป็นร้อยละ 41.16   ยกฟ้อง จำนวน 233  คดี คิดเป็นร้อยละ 58.85 

            โดยคดีสำคัญเมื่อ 16  มี.ค. 55   ได้มีคำพิพากษาของศาลจังหวัดนราธิวาส   กรณีวิทยาลัยอิสลามบูรพา ผู้ต้องหาจำนวน 7  คน โดยตัดสินพิพากษาประหารชีวิต จำนวน 5 คน  จำคุก 27  ปี จำนวน 1  คน  และอีก 1คน หลบหนีในระหว่างประกัน  ในคดีร่วมกันก่อการร้าย เป็นอั้งยี่ซ่องโจร มีวัตถุระเบิด มีกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พกปืนในสถานที่สาธารณะ

             สำหรับสาเหตุสำคัญของการยกฟ้องคดี  เนื่องจากขาดพยานหลักฐาน  พยานกลับคำให้การ ไม่มาขึ้นศาล เป็นต้น และที่ผ่านมาผู้ที่ถูกพิพากษายกฟ้องหลายรายได้ก่อเหตุซ้ำ

               “สำหรับในปี  55  (1 ต.ค54 -30 มิ.ย.55  ) มีสถิตคดี  8,461คดี เป็นคดีความมั่นคง 228   คดี คิดเป็นร้อยละ 2.69  เท่านั้น”พันเอก ปราโมทย์ กล่าวและว่า

              จากการดำเนินการสร้างความเข้าใจ เพื่อนำผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์กลับสู่ภูมิลำเนา รวมทั้งการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่มีหมายตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และหมาย พรก.ฉุกเฉินฯ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามขั้นตอนของกฎหมาย  มียอดเข้าสู่กระบวนการแล้ว จำนวนกว่า 1,427 คน

             พันเอกปราโมทย์ ยังกล่าวอีกว่า  สรุปผลการปฏิบัติที่สำคัญ ตั้งแต่  1  ต.ค.54  ถึงปัจจุบัน ดังนี้ ปะทะกับผู้ก่อเหตุรุนแรง และเสียชีวิต จำนวน 19  คน  จับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงที่มีหมาย ป.วิอาญา จำนวน 49  คน  ตรวจยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ จำนวนกว่า 130   กระบอก ตรวจยึดวัตถุระเบิด และอุปกรณ์ประกอบ จำนวนมาก

             “จากผลสำรวจความพึงพอใจของประชาชนต่อการแก้ปัญหาของ จนท. จำนวน 2,909 คน จาก 292  ตำบล พบว่า ประชาชนมีความพึงพอใจ  และยอมรับการปฏิบัติงานของ จนท.”

             ด้าน พลโท อุดมชัย  ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4  ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4   กล่าวว่า มีความตั้งใจแน่วแน่ และมุ่งมั่นที่จะทุ่มเท แรงกาย แรงใจ ในการปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถให้บรรลุผลและสนองตอบต่อการแก้ไขปัญหาในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรมเพื่อนำพาวิถีชีวิตของประชาชนสู่ความเป็นปกติ เกิดความปรองดอง สมานฉันท์ สามารถอยู่ร่วมกันได้ภายใต้มิติของความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม  ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการนำไปสู่สันติสุขที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง.