เกาะติดป่วนนราฯ-จับผู้ต้องสงสัยร่วมถล่มฐานทหารรือเสาะ1ราย  

             สำนักข่าวอะลามี่ : ตำรวจแกะรอยกลุ่มคนรายยิงถล่มฐานทหาร ในพื้นที่อำเภอรือเสาะ ล่าสุด จับผู้ต้องสงสัย 1 คน สอบเครียดหลังพบว่าใช้บ้านพักเป็นสถานที่รักษาคนเจ็บ ส่วน 2 ศพ ที่ฝังในพื้นที่รือเสาะ และรามัน เชื่อร่วมถล่มฐาน แต่รอผลตรวจ ดี.เอ็น.เอ.ก่อฟันธง

                พ.ต.อ.ดุลยมาน แยนา ผกก.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส กล่าวกับสำนักข่าวอะลามี่ ถึงความคืบหน้ากรณีการติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้าย จำนวน 30 คน ที่แต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจ บุกถล่มฐานปฏิบัติการณ์ทหาร สังกัด ร้อย ร. 15123 ชุดเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 30 ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสามแยกบ้านท่าเรือ ม.1 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อช่วงเวลา 18.50 น.ของวันที่ 17 ก.ค. 55 ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 1 ราย ชาวบ้านเสียชีวิต 2 ราย และเจ้าหน้าที่ทหาร และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 6 ราย ส่วนคนร้ายที่เสียชีวิต 2 ราย นั้นกลุ่มคนร้ายสามารถนำศพหลบหนีไปได้นั้น

              ล่าสุดในช่วงเช้าที่ผ่านมา จากการสนธิกำลัง 3 ฝ่าย ใช้กฎอัยการศึกบุกจู่โจมตรวจค้นบ้านต้องสงสัยหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.เรียง อ.รือเสาะ สามารถตรวจสอบพบหลักฐานสำคัญเป็นคราบเลือดที่ติดอยู่ตามเสื้อผ้า เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัว นายมูฮาหมัด แวกาจิ ซึ่งเป็นลูกชายของเจ้าของบ้าน ไปทำการสอบสวนขยายผล เพราะเชื่อว่าบุคคลดังกล่าวเป็นสมาชิกแนวร่วมกองกำลังติดอาวุธ RKK ที่แฝงตัวเคลื่อนไหวในหมู่บ้าน และ ใช้บ้านพักเป็นสถานที่รักษากลุ่มคนร้ายที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารและชาวบ้านยิงได้รับบาดเจ็บมารักษาตัว

               ส่วนกรณีศพผู้ต้องสงสัย จำนวน 2 ศพ ที่ประกอบพิธีฝังศพขึ้นที่กูโปร์ในหมู่บ้าน ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ ซึ่งเป็นศพของนายอามัน กอละ ส่วนจุดที่ 2 ที่กูโบร์ในพื้นที่ ต.บาลอ อ.รามัน จ.ยะลา เป็นศพของนายอาหะมะ  สะตะ ซึ่งเป็นน้องชายของนายอาซิ  สะตะ  ซึ่งเป็นมือผลิตระเบิดของกองกำลังติดอาวุธ RKK ที่หลบหนีหมายจับ จากการตรวจสอบในเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นบุคคลที่ร่วมใช้อาวุธปืนบุกยิงถล่มฐานทหารในช่วงเย็นของวันที่ 17 ก.ค. 55 ที่ผ่านมา เนื่องจากบ้านบุคคลทั้ง 2 ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจค้น ยังพบหลักฐานเป็นซองใส่กระสุนปืนเอ็ม.16 ที่ยังอยู่ในกระเป๋าเสื้อ แต่เจ้าหน้าที่รอผลตรวจสอบ ดี.เอ็น.เอ. จากวัตถุพยานซึ่งเป็นคราบเลือดที่ติดอยู่บน รถ จยย.ของคนร้ายที่จอดทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ จำนวน 3 คัน ซึ่งมีลักษณะแห้งกรัง แต่สามารถนำไปตรวจพิสูจน์ได้ จึงจะสามารถระบุได้ว่าศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน เกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร

            ส่วนความคืบหน้ากรณีเหตุคนร้ายวางระเบิดคาร์บอมบ์ หน้าบริษัทโปรคอมพิวเตอร์แอนด์โอเอไทยแลนด์ จำกัด เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 20 ก.ค. 55 ที่ผ่านมา ล่าสุดหลังจากเจ้าหน้าที่ได้แกะรอยภาพวงจรปิด และเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ได้ร่วมก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วครั้งหนึ่งในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 16 ก.ยง 2554 ที่ผ่านมา

           โดยเจ้าหน้าที่กำลังขยายผลในทางลับกับบุคคลทั้ง 5 ที่เคยร่วมก่อเหตุในครั้งนั้น เพื่อเป็นแนวทางในการสืบสวนสอบสวนจับกุมกลุ่มคนร้ายมาลงโทษ ประกอบด้วย 1.นายนัสรี มือลี 2.นายมูฮำหมัดสักรี ไซซิง 3.นายบูดีมาน มะสาและ 4.นายอับดุลอาซิ มะแซ 5.นายอาแว ยา รวมทั้งกลุ่มแนวร่วม ที่คอยให้การสนับสนุนอยู่ในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี อ.สุไหงโก-ลก อ.แว้ง และ อ.สุคิริน อีกด้วย