Hot Stories
Home   /   Hot Stories  /   ชาวสวนแนะรัฐถอดแบบจากมาเลเซียแก้ปัญหาปาล์ม

ชาวสวนแนะรัฐตั้งเจ้าภาพถอดแบบจากมาเลย์แก้ปัญหาปาล์ม

           สำนักข่าวอะลามี่: ชาวสวนปาล์มเสนอรัฐมีเจ้าภาพ “ปาล์ม” ถอดแบบของชาวสวนยางพารา และ ปาล์มของมาเลเซีย ไม่ใช่แก้ปัญหา การนำเข้าน้ำมันปาล์ม ซึ่งจะมีผลกระทบต่อเกษตรกร ระบุ ปี 72 ปลูกครบ 10 ล้านไร่ เพียงต่อการบริโภค และใช้พลังงาน

              นายโอภาส หนูชิต ประธานสหกรณ์ชาวสวนปาล์มจังหวัดพัทลุง (พัทลุง สงขลา นครศรีธรรมราช) เปิดเผยว่า สถานการณ์ปาล์มน้ำมันในขณะนี้ ราคาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่ 5.70 และ 6 บาท / กก. แต่เมื่อรัฐบาลมีการนำเข้าน้ำมันปาล์ม จำนวน 40,000 ตัน โดยนำเข้าครั้งละ 10,000 ตัน เพื่อแก้ไขราคาน้ำมันพืช ที่จะขยับราคาขึ้น หากนำเข้าในระดับขนาด 10,000 ตัน / ครั้ง ก็จะส่งผลกระทบประมาณ 10 -20 เปอร์เซ็นต์ หากในระดับนี้เกษตรกร และผู้บริโภค ก็ยังอยู่ได้ แต่หากนำเข้าครั้งเดียวจะกระทบอย่างหนักมาก

                “การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลแทบทุกรัฐบาล เมื่อมีปัญหาเรื่องปาล์มก็จะมีการนำเข้า ถือว่าแก้ปัญหาที่ไม่ตรงกับเป้าหมาย ควรที่จะแก้ไขปัญหาอย่างอื่น คือรัฐบาลต้องมีการส่งเสริมเกษตรกรในการปลูก และพัฒนาส่งเสริมทางด้านการผลิต ตลอดจนอื่น ๆ อย่างจริงจัง การส่งเสริมการปลูกยังมีพื้นที่เหมาะสมอยู่จำนวนมาก จะเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุด และจะเกิดประโยชน์ต่อเกษตรกร ผู้บริโภค และประเทศ แถมยังสามารถส่งออกได้ด้วย”

                นายโอภาส ยังกล่าวอีกว่า ได้มีการนำเสนอปัญหาปาล์ม ต่อนายนัฐวุฒิ ไสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าปาล์มน้ำมันควรที่จะมีเจ้าภาพ คือควรผลักดันออก พรบ.ปาล์ม จะได้มีเจ้าภาพที่ชัดเจน ไม่ต่างกับยางพารา ที่สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) เป็นเจ้าภาพ สภาพของปาล์มขณะนี้ไม่มีเจ้าภาพ จึงเกิดปัญหามาตลอด โดยจะมีการศึกษา พรบ.ยางของ สกย. และ พรบ.ปาล์มของประเทศมาเลเซีย ว่าประเด็นไหนควรแก้ไข ประเด็นไหนควรนำมาใช้ แล้วมาพัฒนาออกแบบ พรบ.ปาล์ม

                “จะเกิดประโยชน์กับประชาชนและประเทศโดยรวม และปาล์มไทย จะสามารถส่งออกได้ด้วย ไม่ใช่เวลามีปัญหา แล้วก็จะนำเข้าแต่เพียงอย่างเดียว” นายโอภาส กล่าว.

                แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการธุรกิจปาล์มน้ำมัน เปิดเผยว่า ในเดือนพฤษภาคมนี้ จะถึงฤดูกาลปาล์ม ออกผลผลิตพร้อมกันในภาคใต้ และในช่วงนี้จะเป็นทุกปี ที่ราคาปาล์มจะอยู่ในช่วงขาลงในระดับหนึ่ง และประกอบกับจะมีการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ ตลอดจนยังมีน้ำมันปาล์มอยู่ในสต๊อกอีก 150,000 ตัน จึงมีแนวโน้มว่า ราคาจะลงมาอยู่ที่ 4 บาท และ 4.50 บาท / กก. แต่หากต่ำกว่า 4 บาท เกษตรกรชาวสวนปาล์มก็จะเกิดผลกระทบหนัก

                “น้ำมันปาล์มหากจะนำมาพัฒนาเป็นพลังงานปาล์ม ยังไม่พอเพียง จะต้องมีการส่งเสริมปลูกกันอย่างจริงจัง สำหรับในพื้นที่ภาคใต้ตอนนี้มีพื้นที่จำกัดมาก หากต้องนำไปปลูกทางภาคอื่น ๆ เช่น ภาคอีสาน เป็นต้น เนื่องจากราคาที่ดิน ราคายังไม่สูง และแรงงานก็ยังมีอยู่จำนวนมาก”

                 จากข้อมูลระบุว่า ปัจจุบัน ปาล์มมีภาพรวมกว่า 3.6 ไร่ มีผลผลิตกว่า 9.3 ตัน / ปี มีการผลิตน้ำมันดิบได้ประมาณ 800,000 ตัน / ปี และนำไปผลิตเป็นไบโอดีเซล ประมาณ 722 ล้านลิตร / ปี สำหรับปลูกปาล์มทางรัฐบาล มีนโยบายปลูกให้ครบจำนวน 10 ล้านไร่ ในปี 2572 โดยมีการขยายปลูกเพิ่มขึ้นทุกปีประมาณ 400,000 ไร่ / ปี ซึ่งสามารถใช้เพียงต่อการบริโภค อุปโภค และผลิตไบโอดีเซล.

               : อัศวิน ภัฆวรรณ สำนักข่าวอะลามี่ รายงานจากพัทลุง