ยะลาจัดระบบเซฟตี้โซนป้องกันคาร์บอมซ้ำ

           สำนักข่าวอะลามี่ : ยะลาจัดระบบเซฟตี้โซน 2 เริ่มแล้ว เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 11 กองกำลังภาคประชาชน ตรวจรถเข้า-ออกเข้ม ในขณะที่ชาวบ้านขวัญและกำลังใจมีมากขึ้น

               จากกรณีที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์ทั้ง 2 จุด บริเวณถนนรวมมิตร ตัดกับ ถนนจงรักษ์ และ เหตุคาร์บอมบ์ ถ.รวมมิตร ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 11 คน ได้รับบาดเจ็บกว่า 106 คน เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 31 มี.ค.55 ที่ผ่านมา

              ล่าสุด(วันที่ 8 เม.ย.55)  ที่บริเวณถนนรวมมิตร อ.เมือง จ.ยะลา กองกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 11 อ.เมืองยะลา นำโดย พ.ท.ชลัช ศรีวิเชียร รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 11 อ.เมืองยะลา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารพราน จากกรมทหารพรานที่ 47 เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน อ.เมืองยะลา และ กองกำลังภาคประชาชน ร่วมกว่า 100 นาย มาร่วมประจำจุดตรวจเส้นทาง- เข้าออก บริเวณถนนรวมมิตร (ย่านการค้าในเขตเทศบาลนครยะลา) ตรวจรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน บรรดาร้านค้าผู้ประกอบการ

              พ.ท.ชลัช ศรีวิเชียร รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 11 อ.เมืองยะลา กล่าวว่า ภายหลังจากหารือ การจัดตั้ง เซฟตี้โซน 2 ร่วมกันระหว่าง เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และบรรดาพ่อค้า แม่ค้า และ พี่น้องประชาชน ที่อาศัยอยู่ในบริเวณถนนรวมมิตร เพื่อที่จะได้กำหนดเป็นกฎกติการ่วมกัน และ ประกาศใช้อย่างเป็นทางการ

              โดยก่อนหน้านี้ เซฟตี้โซน 2 เคยประกาศใช้เป็นครั้งแรก กรณีเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด 34 จุด ในเขตเทศบาลนครยะลา และ พื้นที่รอบนอกเขตเทศบาล เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และ ได้รับบาดเจ็บกว่า 60 คน เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 25 ต.ค.54 ที่ผ่านมา บรรดาพ่อค้า แม่ค้า ที่อยู่ในพื้นที่เขต เซฟตี้โซน 2 ได้ ปิดถนนสายรวมมิตรประท้วง ไม่ต้องการเซฟตี้โซน 2 หลังได้รับผลกระทบ ขายของไม่ได้ ขาดทุน สร้างภาระให้กับครอบครัว มีความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ทำให้เซฟตี้โซน 2 ต้องถูกยกเลิกไป

             สำหรับวันนี้ เซฟตี้โซน 2 เริ่มประกาศใช้เป็นวันแรก มีเส้นทางเข้า 7 เส้นทาง เส้นทางออก 8 เส้นทาง มีกองกำลังเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 11 อ.เมืองยะลา ทำหน้าที่ดูแลเส้นทางขาเข้า และกองกำลังภาคประชาชนดูแลเส้นทางขาออก และ กำหนดให้บริเวณถนนรวมมิตรมีการจัดโซนเป็น3 โซน คือ โซนต้นถนนรวมมิตร โซนกลางถนนรวมมิตร และโซนปลายถนนรวมมิตร

               โดย เริ่มต้นจัดทำ (one way) ตั้งแต่ สี่แยกถนนรัฐคำนึง ไปจนถึงบริเวณหน้าโรงแรมโคล่า ส่วนถนนพิพิธภักดี และ ถนนสิโรรส ซึ่งเป็นถนนควบคู่ขนาน ด้านซ้าย และ ด้านขวาของถนนรวมมิตร ก็จะมีการจัดทำ (one way) 4 เส้นทางเช่นกัน คือ เส้นทางเข้าที่ถนนพิพิธภักดี 4 เส้นทาง ผ่านถนนรวมมิตร วิ่งลงไปยังบริเวณหน้าโรงแรมโคล่า และเส้นทางขาเข้าถนนสิโรรส 3 เส้นทาง วิ่งลงไปยังบริเวณหน้าโรงแรมโคล่า

              ทั้งนี้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ที่สวมหมวกกันน็อค สวมแก๊ป ที่ใช้เส้นทางนี้ กรุณาถอดหมวกออก และ รถยนต์กรุณาเปิดกระจก ทั้งนี้เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้ทำงานได้อย่างสะดวก เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน

             นายสถิต พู่พันธ์ เจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยวย่านรวมมิตร ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์คาร์บอมบ์ จุดที่ 2 กล่าวว่า รู้สึกอุ่นใจที่เจ้าหน้าที่ทหาร และ กองกำลังภาคประชาชน มาร่วมในการดูแลรักษาความปลอดภัย ทั้งการตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ขาเข้า – ขาออก เพื่อป้องกันการเข้ามาก่อเหตุของกลุ่มคนร้าย แต่พี่น้องประชาชนในย่านการค้าถนนรวมมิตรต้องดูแลตัวเองเช่นเดียวกัน ต้องหมันตรวจหน้าร้านของตนเอง ตรวจยานพาหนะ ที่มาจอดบริเวณหน้าร้านค้า และ บ้านเรือน เพื่อที่จะได้ช่วยกันร่วมป้องกันเหตุการณ์ เพราะทุกฝ่ายมีความบอบช้ำจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากพอแล้ว จะรอแต่การดูแลรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายเดียวนั้น คงจะเป็นไปไม่ได้  

          ขณะที่เทศบาลนครยะลา ได้นำแผ่นป้ายไวนิล ติดบริเวณทางเข้าถนนรวมมิตร เขียนข้อความให้กำลังพี่น้องที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ว่า “ ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวยะลา”