“ทวี สอดส่อง” ยันไม่มีการเจรจากลุ่มบีอาร์เอ็น
สำนักข่าวอะลามี่ : เลขา.ศอ.บต. ปฎิเสธเดินสายนัดคุยกับแกนนำบีอาร์เอ็น ในมาเลเซียตามที่เป็นข่าว ขณะที่มือคาร์บอม โรงแรมลีกาเดนท์ หาดใหญ่ ตำรวจบอกรู้ตัวผู้ลงมือแล้ว ด้านผู้ว่าตั้งค่าหัวรางวัลนำจับ1ล้านบาท
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวถึงกรณีที่ที่มีการเสนอข่าวว่า ตนเอง ไปเจรจากับ แกนนำ บีอาร์เอ็น ว่า เรื่องที่มีการนำเสนอข่าวเป็นเรื่องที่ไม่มีความเป็นจริง ที่ผ่านมาตนเดินทางไปพบ กลุ่มคนหลายฝ่าย ทั้งในประเทศและในประเทศมาเลเซีย แต่ไม่ใช่แกนนำของ บีอาร์เอ็นฯ อย่างที่เป็นข่าว
โดยเฉพาะที่มาเลเซียตนไปพบกลุ่ม “ต้มยำกุ้ง” ซึ่งเป็นคนใน 3 จังหวัด ที่ไปประกอบอาชีพเปิดร้านอาหารในมาเลเซีย เพื่อช่วยเหลือ ให้ทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย เพราะมีจำนวนมากที่เข้าไปอยู่ไม่ถูกต้อง ส่วนในพื้นที่ มีการพบปะพูดคุยกับ ผู้นำกลุ่มต่างๆ เพื่อทราบปัญหา ที่จะต้องแก้ไข แต่ไม่มีการพูดคุยกับ แกนนำ ของ บีอาร์เอ็นฯ
“ที่มีข่าวว่า มีการตั้ง นายนัจมุดดีน อูมา อดีต สส.พรรคเพื่อไทย เป็นที่ปรึกษา ก็ไม่เป็นความจริง ตั้งแต่มารับตำแหน่งเลขาธิการ ศอ.บต. ยังไม่มีการแต่งตั้งใครเป็นที่ปรึกษาแม้แต่คนเดียว ส่วนการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นยอมรับว่ามี เพราะถือว่าทุกคนมีส่วนในการร่วมแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น”พ.ต.อ.ทวี กล่าว
ด้าน พล.ต.อ.วีรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุและติดตามความคืบหน้าของคดีโดยระบุว่า จากการตรวจวัตถุพยานในที่เกิดเหตุพบว่าระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นระเบิดแสวงเครื่อง ชนิดเอ็มโฟ ใช้สารแอมโมเนียในเตรทผสมน้ำมันบรรจุถังแก๊สขนาด 15 กิโลกรัมสองถัง
ส่วนการสืบสวนเกี่ยวกับคนร้ายนั้นเจ้าหน้าที่กำลังหาเบาะแสของผู้ต้องสงสัยจากภาพกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพไว้ได้โดยทั้งสองคนเป็นแนวร่วมที่มีประวัติอยู่แล้ว
มีรายงานจากชุดสืบสวนของตำรวจภูธรภาค 9 และ ตำรวจภูธร จ.สงขลา ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบตัวสองคนร้ายที่ขับรถคาร์บอมแล้ว จากเบาะแสของกล้องวงจรปิดโดยทั้งสองคนมีความเชี่ยวชาญในการก่อวินาศกรรมและได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ลักษณะของคาร์บอม ต้องการที่จะให้เกิดความสูญเสียมากที่สุด เนื่องจากจุดที่คนร้ายขับรถลงไปจอดบริเวณชั้นบี 3 นั้นเป็นจุดกึ่งกลางบริเวณลานจอดรถที่อยู่ชั้นใต้ดินทั้ง 5 ชั้น โดยต้องการที่จะให้แรงระเบิดกระจายในลักษณะของโดมิโน่ ลุกลามไปติดรถยนต์คันอื่นๆที่มีน้ำมันเบนซิล หรือติดแก๊ส ซึ่งจะทำให้ไฟไหม้รุนแรงมากขึ้น
แหล่งข่าวเปิดเผยอีกว่า สำหรับรถเก๋งที่ใช้ก่อเหตุนั้นประกอบระเบิดคาร์บอม ในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส พร้อมๆกับรถยนต์กระบะอีกคัน ที่เตรียมนำไปก่อเหตุที่ว่าการอำเภอแว้ง จ.นราธิวาส แต่เกิดประสบอุบัติเหตุระหว่างทางเนื่องจากลักษณะการประกอบระเบิดใกล้เคียงกันสำหรับกลุ่มผู้ก่อเหตุระเบิดคาร์บอมส์ที่ อ.หาดใหญ่ นั้นมีอย่างน้อย 5 คน
โดยในจำนวนนี้ที่เจ้าหน้าที่ทราบชื่อแล้ว 2คน คือ นายสบาเฮ นายิง ชาวอ.สะบ้าย้อย และนายเจะมะ หรือ ไคโร หรือ มาค่อม ยานิ ชาวอ.จะนะ ซึ่งมีหมายจับคดีลอบยิง นายสุนันท์ แก้วละเอียด นายช่างชลประทานลางา ในพื้นที่ ต.สะพานไม้แก่น อ.จะนะ จ.สงขลา
ด้าน นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา เปิดเผยว่า ได้ตั้งรางวัลนำจับสำหรับผู้ที่สามารถแจ้งเบาะแสคนร้ายที่ก่อเหตุทั้งสองคนๆ คนละ 5 แสนบาท ขณะเดียวกันได้เรียกประชุมหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่จ.สงขลา เพื่อเดินหน้าฟื้นฟูเมืองหาดใหญ่ และหามาตรการรักษาความปลอดภัย โดยได้ขอให้ห้างร้านต่างๆปรับปรุงทางเข้าออกให้เหลือน้อยที่สุดซึ่งง่ายต่อการควบคุม และจัดเจ้าหน้าที่มาอบรม รปภ.เกี่ยวกับการตรวจสอบยานพาหนะ และกิจกรรมต่างๆที่จะจัดขึ้นในเร็วๆนี้เช่นเทศกาลสงกรานต์ก็ยังคงมีเหมือนเดิม