เปิดวิชั่น“อัศวิน วัฒนปราโมท”นายกสมาคมอุตฯขายตรงไทยคนใหม่
สำนักข่าวอะลามี่ : “ อัศวิน วัฒนปราโมทย์”ผู้บริหารโพรแลค ฯ ธุรกิจขายตรงของคนไทยที่ไปโตในต่างประเทศ นั่งนายกสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทยคนใหม่ ลั่นจะนำพาองค์กรและธุรกิจขายตรง สู่ความเชื่อมั่น และเป็นที่ยอมรับของสังคม
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา ณ.โรงแรมดิอิมเมอรัล กรุงเทพฯ ได้จัดให้มีพิธีส่งมอบตำแหน่งนายกสมาคมคนใหม่ จาก นางสาว ศิริพร ธรรมภักดี อดีตนายกสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย โดยส่งมอบต่อให้กับ นายอัศวิน วัฒนปราโมทย์ ประธานกรรมการ บริษัท โพรแลค อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น ท่ามกลางความยินดีจากสมาชิกสมาคมฯ รวมถึง นายสุวิทย์ วิจิตรโสภา ผู้อำนวยการขายตรง และ ผู้แทนจากภาครัฐ
อัศวิน กล่าวภายหลังจากรับตำแหน่งโดยระบุจากนี้ไปพยายามทำให้สมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย เป็นที่พึ่งได้ อีกทั้งอยากให้ทั้งภาครัฐและเอกชน ช่วยกันสนับสนุน โดยขอให้ภาครัฐเข้ามาดูแลและกำกับ ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงโดยเร็วและชัดเจน คือ “การถูกหลอกลวงให้ลดน้อยลงไป”
นอกจากนี้อยากให้ผู้ที่ขายตรง มีความน่าเชื่อถือ และเดินเข้ามาสู่ธุรกิจนี้อย่างสง่างามและทำธุรกิจด้วยความเชื่อมั่น และดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการมีธรรมาภิบาลต่อผู้บริโภค และควรมีความซื่อตรงต่อผู้บริโภค
“ในฐานะผู้บริหารองค์กร จะทำการจัดตั้งคณะกรรมการของสมาคมฯขึ้นมาเพื่อช่วยกันบริหารจัดการองค์กร และนำไปปรับปรุงทำให้ธุรกิจขายตรงเจริญก้าวหน้า อย่างยั่งยืนในอนาคต และทำให้วงการขายตรงในประเทศมีความเชื่อถือ” อัศวิน กล่าวและว่า
นอกจากสมาคมฯจะต้องเป็นองค์กรที่สร้างความร่วมมือระหว่างบริษัทขายตรงในประเทศ ให้เปิดดำเนินการอย่างถูกต้องเพื่อให้สามารถประสานงานกับหน่วยงานราชการในการให้การสนับสนุนและส่งเสริมในการดำเนินธุรกิจ และควบคุมกลุ่มผู้ประกอบการที่ไม่ถูกต้อง
ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดใหม่ จะต้องมีความเห็นไปในแนวทางเดียวกัน โดยกรรมการต้องมีทักษะในการบริหารจัดการ นำความรู้ความสามารถมาปรับปรุงและพัฒนาเครือข่าย เป็นคนที่มีคุณภาพ
อีกทั้งจะต้องมีประวัติในการจ่ายเงิน ในการซื้อขายสินค้าจ่ายได้ถูกต้องและตรงตามเวลากำหนดและที่สำคัญการปฏิบัติตามกฎหมายและเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด รวมไปถึงจ่ายภาษีคืนรัฐอย่างถูกต้องและตรงไปตรงมา
อัศวิน ยังได้เรียกร้องและขอความร่วมมือจากหน่วยงานของภาครัฐช่วยกันปราบปรามประเภทธุรกิจเลียนแบบธุรกิจขายตรง ที่ทำให้ภาพลักษณ์ของธุรกิจขายตรงโดยรวมถูกบั่นทอนความเชื่อถือลง เพื่อยกระดับให้ธุรกิจขายตรงมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น
ด้าน สมบัติ ไพบูลศิริลาภ รองนายกสมาคมผู้ประกอบการการค้าไทย – สากล กล่าวแสดงความยินดีกับนายกสมาคมฯคนใหม่ โดยกล่าวว่า ขอแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งต่อสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย ที่ได้ดำเนินกิจกรรรม เพื่อวงการธุรกิจขายตรงให้ก้าวสู่ความสำเร็จจนกระทั่งมีนายกฯคนที่สามแล้ว
“ กระผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสมาคมขายตรงทั้ง4 สมาคมฯ จะได้ร่วมมือกันเพื่อพัฒนาการค้าสู่อาเซียน+6 และยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพื่อให้เข้าสู่นานาชาติและตลาดโลกต่อไปในอนาคต” สมบัติ กล่าว
อัศวิน วัฒนปราโมทย์ ในวัย 63 ปี เกิดเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2492 เป็นคนกรุงเทพฯ จบการศึกษาปริญญาโทบริหารธุรกิจ เคยเป็นวิทยากรและอาจารย์สอนพิเศษ วิชาการตลาดระหว่างประเทศและอบรมนักศึกษาในการจัดตั้งบริษัทจำลอง ในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่เป็น ผู้จัดการฝ่ายบริหารการตลาด บริษัทในเครือสหพัฒน์ฯ
เส้นทางธุรกิจของ อัสวิน เริ่มจากด้านการตลาด การขาย การบริหารการตลาด และเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดต่างประเทศ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในวงการค้าข้าวไทย เคยดำรงตำแหน่งคณะกรรมการกำหนดราคาข้าวสมาคมหอการค้าแห่งประเทศไทย กรรมการในสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย
อัศวิน ยังเคยเป็นผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์ชั้นนำของประเทศหลายฉบับ นอกจากนี้ยังเคยเป็นผู้สื่อข่าวพิเศษของหนังสือพิมพ์ในประเทศญี่ปุ่น และ นสพ.ในประเทศเยอรมัน และอีกหลายสำนักข่าว ก่อนจะมาทำงานด้านการตลาดในปี 2532 และไม่ได้หวนกลับไปทำงานในวงการหนังสือพิมพ์ อีกจนปัจจุบัน
“อัศวิน” ได้จัดตั้ง บริษัทผลิตสมุนไพรในจังหวัดลำพูน เมื่อปี 2546 ภายใต้ บริษัท นอร์ทเทอร์น โพรไบโอติค จำกัด เป็นโรงงานผลิตไวน์พลูคาวแห่งแรกของโลก และก่อตั้ง บริษัทโพรแลค (ประเทศไทย) จำกัด ทำหน้าที่การตลาดต่างประเทศ ต่อมาเปลี่ยนมาทำหน้าที่บริษัทผู้ผลิตและส่งออก
เมื่อปี 2551ได้จัดตั้ง บริษัท โดกุดามิ เอเชีย จำกัด ทำหน้าที่จัดจำหน่ายในประเทศไทย ในระบบขายตรง จนถึงปัจจุบัน
และในปี 2553 ได้จัดตั้ง บริษัท โพรแลค อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น ที่ บริติชเวอร์จิ้น ไอร์แลนด์ ก่อนจะนำพาบริษัท เข้าสู่ ตลาดหลักทรัพย์ ที่ นครแฟร้งค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน พร้อมกันนี้ได้เตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ ฮ่องกง (Hang Seng) และจะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายหลังจากได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุน จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน BOI.ต่อไป