ปาล์มบูมต้นกล้าขาดตลาด-คาดราคาทะลุ7บาท/กก.         

             สำนักข่าวอะลามี่ : ปาล์ม “บูมหนัก” ต้นกล้าขาดตลาด  ต้องแห่ซื้อภาคใต้ตอนบน ราคาปาล์มมั่นคงเกือบ 5 บาท / กก. แนวโน้มทะลุ 7 บาท ในปีนี้  รอบ “ทะเลสาบสงขลา”  หากบรรลุเป้าหมาย พัทลุงได้ถึงวันละ 500 ตัน แต่ไม่มีเงินลงทุน เพราะเป็นพื้นที่ราบลุ่ม ต้องใช้ต้นทุนสูงในการสร้างถนนและคันดิน

         นายโอภาส หนูชิต ประธานสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า  จังหวัดพัทลุง ได้ในการปลุกปาล์มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ต่ำกว่า 50,000 ไร่ จากพื้นที่ที่เหมาะสมในการปลูกปาล์มริมทะเลสาบสงขลา พัทลุง สงขลา  นครศรีธรรมราช ประมาณ 400,000 ไร่ โดยตัวเลขการขยายตัวประมาณกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ต่อปี โดยปัจจุบันสมาชิกของสหกรณ์มีจำนวน 1,026 ราย จากจังหวัดพัทลุง  สงขลา และนครศรีธรรมราช

          “ปัจจุบันพัทลุงสามารถผลิตปาล์มได้ประมาณ วันละ 120 ตัน ประมาณ 540,000 บาท กว่า 16 ล้านบาท / เดือน หากได้ปลูกเต็มพื้นที่รอบริมทะเลสาบสงขลาซึ่งเป็นพื้นที่ที่เหมาะสม  จะสามารถเก็บเกี่ยวได้ไม่ต่ำกว่า  400 – 500 ตัน / วัน  จะมีรายได้เข้าพื้นที่ จะมีรายได้กว่า 2.2 ล้านบาท / วัน แต่อุปสรรคของพื้นที่ปลูกปาล์ม  เกษตรกรไม่มีกำลังลงทุน  เพราะเป็นพื้นที่ราบลุ่ม   จะต้องยกถนน  ยกคันดิน  จึงต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก”

        นายโอภาส กล่าวอีกว่า ปาล์มราคาดีมาตลอดขณะนี้อยู่ที่ 4.50 บาท / กก. แต่สหกรณ์จะรับซื้อของสมาชิก 4.90 บาท ซื้อกว่าราคาตลาดทั่วไป แล้วส่งขายต่อไปยัง จ.ตรัง กระบี่ และสงขลา โดยปาล์มพัทลุง มีอุปสรรคคือจะต้องถูกหักค่าขนส่งเสีย  00.30 บาท / กก. ในส่วนนี้จึงสูญไปเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน  ดังนั้นสหกรณ์ฯ จึงได้ลงทุนสร้างโรงงานอุตสาหกรรมโรงหีบเอง  โดยสามารถหีบได้ 20 ชั่วโมง จำนวน 100 ตัน ซึ่งขณะอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ

           “ปัจจุบันลานเทรับซื้อปาล์มได้ขยายเป็น 12 ลานเทในจังหวัดพัทลุง  และยังมีผู้มาลงทุนอีกหลายลานเท ในปี 2555 นี้ ปาล์มอนาคตยังดีมาก  เพราะปาล์มเป็นปัจจัยมีความจำเป็นทางด้านพลังงาน บริโภค และอุปโภค  พัทลุงเองผลผลิตปาล์มยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ยังมีความต้องการอีกมาก” 

            นายโอภาส ยังกล่าวอีกว่า  ขณะนี้ต้นกล้าปาล์มในพัทลุง เพราะชำไม่ทันต่อความต้องการ จนผู้ลงทุนต้องเดินทางไปซื้อยังจังหวัดชุมพร  สุราษฎร์ธานี และกระบี่   ปัจจุบันราคาต้นกล้ายังอยู่ที่ 80 บาท และ 120 บาท  ยังไม่มีการำราคาให้กระโดดแต่อย่างใด  แต่การซื้อต้นกล้าปาล์มจะต้องสั่งจองล่วงหน้าเป็นเวลาระยะพอสมควร”

           ด้านนายเทียบจิตต์  ผลาจันทรภูติผลากร  ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขา บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ภาวะปาล์มน้ำมันอยู่ในระดับทรงตัว และราคายังนิ่งอยู่ที่ 4-  5 บาท / กก.  เพราะบรรดาผู้ประกอบการกำลังรอดูนโยบายรัฐบาลเกี่ยวกับพลังงาน อีกทั้งยังมีอยู่ในสต๊อกอีกจำนวนหนึ่ง  แต่เมื่อนโยบายของรัฐบาลประกาศเลิกใช้น้ำมัน 91 และ 95 ราคาปาล์ม  ปาล์มน้ำมัน จะต้องนำมาทดแทนพลังงาน และผลิตไบโอดีเซล

          “ผู้กระกอบการ เกษตรกรปาล์ม ยังมีอนาคตที่ดีและยาว และในปีนี้มั่นใจว่าราคาปาล์มจะไต่ขึ้นมาอยู่ที่ 7 บาท / กก. คาดว่าประมาณตั้งแต่ตุลาคมนี้ ตอนนี้ปาล์มอยู่ที่ 4 – 5 บาท ถือว่าพ้นขีดเสี่ยงไปแล้ว เพราะต้นทุนการผลิตปาล์มขณะนี้อยู่ประมาณ 2.60 บาท – 3 บาท จากเดิมที่อยู่ที่ 1.60 บาท / กก. ปัจจัยสำคัญ คือราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังอยู่ในระดับ 100 เหรียญต้น ๆ”นายเทียบจิตต์ กล่าวและว่า

           สำหรับผลผลิตน้ำมันปาล์มโดยภาพรวมประมาณ 800,000 ตัน / ปี และผลิตปาล์ม กว่า 9 ล้านตัน / ปี และพื้นที่ปลูกปาล์มกว่า  3.6 ล้านไร่ โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นประมาณกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ / ปี

          นายพฤธิพงศ์   ศรีมาจันทร์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้  (ธปท.)  เปิดเผยว่า ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคใต้ ปี 2554 เป็นปีทองของเศรษฐกิจภาคใต้ ทั้งภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม มีการขยายตัวดีตามการเพิ่มขึ้นของผลผลิตปาล์มและยางพารา ขณะเดียวกันราคาสินค้าเกษตรก็เพิ่มขึ้นทุกชนิด ทำให้รายได้ในภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

          “ผลผลิตพืชผลเกษตรเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 9.2 โดยเฉพาะปาล์มน้ำมันที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 32.1 เนื่องจากการขยายพื้นที่ปลูก และปาล์มน้ำมันในช่วงก่อนหน้าให้ผลผลิตเต็มที่   สัดส่วนต้นปาล์มพันธุ์ดีเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นด้วยร้อยละ 2.5  โดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม”.