แม่ทัพภาค 4 ชน “บีอาร์เอ็น” จี้วางอาวุธมาต่อสู้ทางการเมือง
สำนักข่าวอะลามี่ : แม่ทัพภาค 4 ยันการก่อความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนใต้ เป็นฝีมือกลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็นโคออร์นิเนต จี้ วางอาวุธมาต่อสู้ทางการเมือง เรียกร้องทุฝ่ายช่วยปกป้องคน3จังหวัดชายแดนใต้
พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 มาเป็นประธานเปิดงานการประชุมอิหม่ามสามัญประจำปี 2555 ครั้งที่ 1/2555 วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2555 ณ สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดพัทลุง มัสยิดแม่ขรี ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ในขณะเดียวกัน พล.ท.อุดมชัย กล่าวว่า สถานการณ์ความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้คนไทยหนักใจร่วมกัน และมีผลกระทบต่อชาวไทยมุสลิมด้วย
พล.ท.อุดมชัย กล่าวอีกว่า อยู่ภาคใต้มาตลอด ช่วงแรกก็ต่อสู้กันเรื่องคอมมิวนิสต์กับประชาธิปไตย ช่วงสุดท้ายตนก็ต้องมาอยู่ในห้วงระยะการต่อสู้ของปัญหาชายแดนภาคใต้ ในการแก้ไขปัญหาแบ่งแยกดินแดน เราและรัฐบาลคิดอย่างไร และพวกเขาคิดกันอย่างไร มันเป็นแนวคิด
ดังนั้นจะต้องสร้างความเข้าใจเพื่อให้เกิดสันติสุข ปัจจุบันมีอาวุธมีกองกำลังแล้ว จะสั่งการมันใช้ไม่ได้แล้วมันเป็นสมัยโบราณ มันต้องมีการพูดคุย มันต้องทำความเข้าใจเข้าแก้ไขปัญหา ส่วนให้มีการบังคับบังคับใช้กฎหมายกับความเห็นของประชาชนการบังคับใช้กฎหมาย มันยังไปด้วยกันไม่ได้ รัฐบาลจะต้องเคารพสิทธิมนุษยชน รัฐจะละเมิดต่อพี่น้องประชาชนไม่ได้
“ผมถือว่าเขาไม่ได้เป็นอาชญากร เขาได้รับความคิดเห็นจากกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่ง ซึ่งให้อภัยกันได้ ผมสนับสนุนการต่อสู้ของพี่น้องมาลายู แต่ไม่สนับสนุนการต่อสู้ด้วยอาวุธ ที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ผมทำทุกอย่างเพื่อให้ยุติการต่อสู้”
พล.ท.อุดมชัย กล่าวอีกว่า ชาวอิสลามจังหวัดพัทลุง แม้ว่าจะอยู่ห่างไกล จะต้องออกมาปกป้องจะต้องช่วยชาว 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการสร้างความเข้าใจเพื่อให้เกิดสันติสุข เพราะอิสลามพี่น้องกัน โดยหากพวกเข้ามาในพื้นที่พัทลุง บรรดาพี่น้องมุสลิม อิหม่าม ช่วยบอกพวกเขาด้วยให้กลับบ้านเสีย สื่อสารให้พวกเขาได้ กลับบ้านแล้วมาต่อสู้ในแนวทางของอัลเลาะห์ หรือ ก็ช่วยบอกผมก็ได้ เรามีแนวทางการช่วยเหลืออยู่แล้ว
“ขอร้องอย่าลากรัฐไปเผชิญหน้ากับประชาชนในการต่อสู้ เพราะผู้ที่ต่อสู้ต่างนับถือศาสนาอิสลาม และต่างพี่น้องชาวมาลายู และที่ถูกลากเข้าไปที่น่าสงสารที่สุดคือชาวไทยพุทธ เนื่องจากเป็นเป้าหมายที่อ่อนแอ”
พล.ท.อุดมชัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เกิดเรื่องไม่ปกติ มีคดีฆ่า 4 ศพ ที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยมีคนกลุ่มหนึ่งยิง เอ็ม79 เข้าใส่ฐานทหารพราน ชาวบ้านก็ออกมาเจอกับทหารพราน จึงเชิญทุกฝ่ายมาเล่าให้ฟัง ถึงสถานการณ์ จึงให้มีการตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาชุดหนึ่งมาทำการสอบสวนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โดยให้ผู้มีผลกระทบตั้งกันเองเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่าย
“มันเป็นการท้าทายกระบวนการยุติธรรม กับการบังคับใช้กฎหมาย เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนประชาชนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม”
แม่ทัพภาค 4 กล่าวอีกว่า แต่กลับไม่มีใครพูดถึงผู้ก่อเหตุกลับถูกละเว้น คือ กลุ่มบุคคลที่ 3 ที่เป็นผู้กระผู้ยิงเอ็ม 79 เข้าใส่ฐานทหารพราน แต่ปรากฏว่า รัฐกับประชาชนจะต้องเผชิญหน้ากัน มันเป็นความสามารถที่สร้างให้รัฐกับประชาชน ต้องมาเผชิญหน้ากัน
“ขณะนี้การต่อสู้ของขบวนการบีอาร์เอ็นโคออร์นิเนต เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องตามหลักการ ควรหันต่อสู้แนวทางแล้ววางอาวุธ หันมาสนับสนุนทางการเมืองจะถูกต้องที่สุด การแบ่งแยกดินแดนหรือปกครองตนเอง ก็ต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เสนอกฎหมายเข้าสภาผู้แทนราษฎร และโดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีโมเดลแก้ไขปัญหาถึง 8-9 โมเดล ที่นำเสนอไปแล้วโดยไม่ต้องต่อสู้ด้วยอาวุธ"
พล.ท.อุดมชัย กล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหาไม่ใช่การใช้อำนาจ จะใช้ความเป็นธรรม เพราะพวกเขาไม่ใช่อาชญากร หากเป็นคดี ป.วิอาญา จะมีแนวทางต่อสู้อย่างไร ตอนนี้ได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยเริ่มทยอยกลับบ้านกันแล้ว ใน
“ส่วนท่อน้ำเลี้ยงกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ มีขบวนการอิทธิพลอำนาจมืด ขบวนการยาเสพติด มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ 2 ขบวนการใหญ่ โดยทางการต่างมีรายชื่อหมด”.