เครือข่ายสหกรณ์อิสลามจับมือนักธุรกิจมุสลิมรุกธุรกิจโรงแรมฮาลาล
สำนักข่าวอะลามี่ : เครือข่ายสหกรณ์อิสลามประเทศไทยร่วมนักธุรกิจมุสลิม ระดมทุนปลอดดอกเบี้ย ซื้อกิจการโรงแรม บริหารระบบฮาลาล ในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ “ภูเก็ต กระบี่ เชียงใหม่ หาดใหญ่” เตรียมต้อนรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ( AEC )
นายอิสมาแอ สามะ ผู้จัดการเครือข่ายสหกรณ์อิสลามภาคใต้ กล่าวว่า บทบาทของสหกรณ์อิสลาม ขณะนี้ได้ยกระดับการลงทุนมากขึ้น โดยได้ประสานงานระดมทุนปลอดดอกเบี้ยของพี่น้องมุสลิม เพื่อเข้าโครงการซื้อกิจการโรงแรมฮาลาล เพราะเป็นรูปแบบกิจการโรงแรม ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนี้ ซึ่งสามารถบริการให้กับบุคคลทั่วไป เพียงแต่การดำเนินงานของกิจการโรงแรมในรูปแบบของฮาลาล
ทั้งนี้การดำเนินงานในเรื่องนี้ได้เกิดขึ้นหลังจากที่ทางเครือข่ายสหกรณ์อิสลามภาคใต้ นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรวิทย์ บารู ประธานกรรมการดำเนินการเครือข่ายสหกรณ์อิสลามภาคใต้ / ส.ว.ปัตตานี (แบบเลือกตั้ง ) ได้ลงนามทำบันทึกข้อตกลง MOU กับ รัฐมนตรี จากรัฐกลันตัน และคณะผู้ประกอบการทั้งสองประเทศที่หาดใหญ่ ในความร่วมมือฐานผลิตและการตลาดเดียวกัน เพื่อผลิตสินค้าฮาลาล และกิจการการท่องเที่ยวฮาลาล และโรงแรม สปา
นายอิสมาแอ กล่าวอีกว่า สำหรับบริการการท่องเที่ยวระหว่างประเทศในเขตเศรษฐกิจประชาคมอาเซียน ซึ่งมีกำลังซื้อเป็นมูลค่าทางการตลาด 600 ล้านคน รวมถึงกลุ่มพี่น้องชาวอาหรับ 37 ล้านคน
“ ประเทศในกลุ่มอ่าวอาหรับ หรือ GCC ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2524 (1981) จากความร่วมมือของประเทศรัฐริมอ่าวอาหรับ 6 ชาติ เพื่อประสานนโยบายด้านเศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคง และวัฒนธรรม ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย คูเวต โอมาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) กาตาร์ และบาห์เรน นอกจากนี้ ยังมีเยเมน เป็นประเทศสังเกตการณ์ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิกภายในปี 2559 ปัจจัยที่เร่งการรวมตัวเพื่อก่อตั้งเป็น GCC เกิดจากการตระหนักถึงภัยคุกคามความมั่นคงในภูมิภาค “
นายอิสมาแอ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซี่ยน ในปี2558 สหกรณ์ออมทรัพย์อิสลามฯ ได้มีการพัฒนาบุคลากรให้มีความสามารถทางด้านภาษา อย่างน้อยในคนหนึ่งจะต้องมีทักษะในการใช้ภาษา 2-3 ภาษา คือ ภาษาไทย มลายู อาหรับ หรือ อังกฤษ มลายู อาหรับ นอกจากนี้บังการเตรียมความสามารถของบุคลากรด้านไอที อีกด้วย
สำหรับการเตรียมการโปรแกรมโรงแรมฮาลาล ที่เครือข่ายสหกรณ์อิสลามประเทศไทย ได้ดำเนินการแล้วคือ โรงแรมฮาลาลที่ภูเก็ต และ กำลังขยายกิจการ ดูแลกิจการโดย สหกรณ์ออมทรัพย์อัลอิสลามียะห์ จำกัด จังหวัดภูเก็ต โรงแรมฮาลาล ที่กระบี่ ดูแลกิจการโดย สหกรณ์ออมทรัพย์ษะกอฟะฮ์อิสลาม จำกัด และ ชมรมสหกรณ์อิสลามจังหวัดกระบี่ โรงแรมฮาลาลที่เชียงใหม่ ประสานงานโดย เครือข่ายสหกรณ์อิสลามประเทศไทย และโครงการโรงแรมฮาลาลที่หาดใหญ่ ทางเครือข่ายสหกรณ์ฯจะมอบหมายให้ สหกรณ์ออมทรัพย์อัศศิดดีก จำกัด หาดใหญ่ และ สหกรณ์อิบนูเอาฟ จำกัด จังหวัดสตูล
ส่วนสหกรณ์ออมทรัพย์อิบนูอัฟฟาน จำกัด สำนักงานใหญ่ จะเป็นแก่นนำในการระดมทุนปลอดดอกเบี้ยเพื่อดำเนินการในกิจการต่างๆตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนต่อไป
สำหรับเครือข่ายสหกรณ์อิสลามภาคใต้ มีสหกรณ์สมาชิก จำนวน 21 แห่ง มีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 200,000 คน สินทรัพย์รวม 2 พันล้านบาท มีโปรแกรมการรับฝากเงินจากสมาชิก หุ้นประจำเดือนสมาชิก เงินฝากเพื่อรักษาทรัพย์ ( วะดีอะฮ์ ) เงินฝากเพื่อการลงทุน (มุฎอรอบะฮ์ ) เงินฝากสะสมเพื่อไปประกอบพิธีฮัจย์ ( ตาบงฮาญี ) และมีกองทุนเพื่อช่วยเหลือด้านการศึกษาสมาชิกและครอบครัว กองทุนเพื่อช่วยเหลือสมาชิกแต่งงาน ฯลฯ
ด้านการช่วยเหลือสมาชิกและชุมชน การให้สินเชื่อตามหลักชารีอะห์ ภายใต้เครื่องมือการซื้อขาย การเช่าซื้อ การรับค่าบริการ การให้เช่า การร่วมลงทุนในกิจการ ฯลฯ และระบบของสหกรณ์อิสลามที่ไม่เหมือนกับระบบทั่วไป คือ ระบบบัญชีแบบหักซะกาตการค้า ระบบสวัสดิการสมาชิก อาทิ การช่วยเหลือสมาชิกเมื่อคลอดบุตร ชราภาพ นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล และเสียชีวิต
ส่วนการให้เงินยืมแก่สมาชิกในภาวะฉุกเฉินใช้เครื่องมือ การให้ยืมตามหลักอิสลามแบบไม่มีกำไร ( ก๊อรดุล ) จากการดำเนินงานของสหกรณ์อิสลามในประเทศไทย เป็นระยะเวลามากกว่า 20 ปี ทำให้คุณภาพชีวิตของสมาชิกและชุมชน ได้รับการยกระดับและได้รับพัฒนาทางการศึกษาสูงขึ้น และได้เชื่อมโยงเครือข่ายกับสหกรณ์อิสลามในประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย ในการคิดค้นผลิตภัณฑ์ทางการเงินอิสลามใหม่ๆ
และที่สำคัญที่สุด สหกรณ์อิสลามมีซอฟแวร์ (โปรแกรมการบริหารงานสหกรณ์อิสลาม ) นับว่าเป็นแห่งแรกของโลก โดยภูมิปัญญาไทย.