ผู้บาดเจ็บเหยื่อกระสุนทหารพรานฆ่า4ศพ พ้นขีดอันตรายแล้ว
สำนักข่าวอะลามี่ : เหยื่อกระสุนทหารพรานฆ่า4 ศพที่ปัตตานีพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังอยู่ในความดูและของแพทย์อย่างใกล้ชิด ขณะที่ตำรวจคุมเข้ม รปภ.ผู้บาดเจ็บอย่างดี เนื่องจากเป็นพยานสำคัญในขณะนี้
(5ก.พ.55) ผู้สื่อข่าวรายงานคืบหน้ากรณีทหารพรานยิงยิงชาวบ้านเสียชีวิต 4 ศพ และบาดเจ็บ 4 รายเหตุเกิด ที่ ต.ปูโละปูโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมือวันที่ 29มกราคม 2555 ที่ผ่านมา
ล่าสุดขณะนี้ผู้ได้รับบาดเจ็ยังคงนอนพักรักษาคัวที่โรงพยาบาลปัตตานี อีก3 คน โดยแพทย์ยืนยันว่าทั้งหมดพ้นขีดอันตรายแล้ว โดยย้ายไปอยู่ห้องพิเศษ 2 คน ส่วนอีกคนยังอยู่ห้องไอซียู โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสลับสับเปลี่ยนดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งมีนายตำรวจมาตรวจสอบทุกชั่วโมง เนื่องจากผู้บาดเจ็บ ทั้ง 3 คน เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นพยานสำคัญคดีนี้
พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐ์พันธุ์ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กล่าวว่า ได้กำชับ ผกก.สภ.หนองจิก และพนักงานสอบสวนในวันเกิดเหตุ ให้ดำเนินการอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม และเป็นธรรมที่สุด เพราะเป็นคดีที่ทุกฝ่ายสนใจและให้ความสำคัญคดีนี้มาก ตลอดจนผู้บังคับบัญชา ได้กำชับให้ตนติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิดที่สุด พร้อกันนี้ได้สั่งให้ ผกก.สภ.หนองจิก ตั้งชุดเฉพาะกิจในการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงในคดีนี้ และให้มีการประชุมเวลา 16.00 น.สรุปความคืบหน้าของคดีทุกวัน และให้ส่งรายงานให้ตนทราบทุกวันเช่นกัน
ขณะเดียวกันได้ประสานกองพิสูจน์หลักฐานเขต 12 จ.ยะลา โดยขอความร่วมมือช่วยเร่งตรวจสอบอาวุธปืนสงครามทั้ง 2 กระบอก ที่พบในรถของชาวบ้านว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่ เพราะเป็นจุดทีส่วนหนึ่งจะสามารถคลี่คลายคดีนี้ เพื่อให้หายความเคลือบแคลงใจของสังคม คาดว่าอีก1สัปดาห์คงทราบผล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บนั้นประกอบด้วย ด.ช มะรูดิง แวกาจิ อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนแสงประทีปวิทยามูลนิธิ มีบาดแผลถูกยิงที่แขนขวาหัก อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว ได้ย้ายมาพักที่ห้องพิเศษ
นายซอบรี บือราเฮง อายุ 20 ปี เป็นหลานชายของ นายมะแอ ดอเลาะ ซึ่งเป็นนักศึกษาปีที่ 1 เอกคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ยังต้องใช้เครื่องออกซิเจนช่วยในการหายใจ ตาซ้ายรอยช้ำแดง มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่หน้าท้องทะลุกระเพาะ และขาหักทั้ง 2 ข้าง ซึ่งหมอได้มีการผ่าตัดเย็บแผลกระเพาะเแล้ว ส่วนขาทั้ง 2 ข้าง ต้องมีการปลูกเนื้อเยื่อกระดูก เนื่องจากกระดูกแตกจากแรงอัดของกระสุนปืนสงคราม พักรักษาอยู่ห้องไอซียู
และ นายมะแอ ดอเลาะ อายุ 74 ปี มีบาดแผลถูกยิงที่ขาซ้ายหักกระดูกแตก หมอได้ผ่าตัดดามเหล็ก และ มีบาดแผลถูกยิงที่เท้าขวาอีก 1 นัด พักห้องพิเศษเช่นกัน
ส่วน นายยา ดือราแม คนขับรถมีบาดแผลกระสุนปืนเฉี่ยวบริเวณหลังไหล่ซ้าย แพทย์ได้ให้กลับบ้านแล้ว โดยให้ล้างแผลที่รงพยาบาลชุมชนในพื้นที่
อย่างไรก็ตามภาพรวมทั้ง 3 อาการพ้นขีดอันตราย เพียงแต่แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนกรณีของ นายซอบรี บือราเฮง นั้นอาการน่าเผ้นห่วงมากที่สุดเนื่องจากเกิดอาการติดเชื้อ ส่วน นายมะแอ อายุมากแล้วแพทย์และญาติต้องดูแลใกล้ชิดเช่นกัน