“ธราทิพย์โฮเต็ล”เปิดโรงแรมฮาลาลเชียงใหม่

เล็งรุกหัวเมืองท่องเที่ยว"กรุงเทพ-หาดใหญ่"

           สำนักข่าวะลามี่:  “ธราทิพย์โฮเต็ล” เชิญเอกอัคราชทูต 4 ประเทศ ร่วมเปิดตัว โรงแรมโรมีน่า แกรนด์ เชียงใหม่ ” ชูโรงแรมฮาลาล รับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก เล็งรุกธุรกิจโรงแรมฮาลาลในหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญ กรุงเทพ-หาดใหญ่

           เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2555 นายสามารถ  บุญธราทิพย์  ประธานกรรมการ บริษัท ธราทิพย์โฮเต็ล จำกัด ได้เปิดตัว “ โรงแรมโรมีน่า แกรนด์ โฮเต็ล “ ตั้งอยู่ย่านดาวน์ทาวน์ในกลางเมือเชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว หลังจากลงทุนไปร่วม100ล้านบาทพัฒนาโรงแรมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเจาะตลาดยุโรปและกลุ่มมุสลิม

          ทั้งนี้บริษัทฯเล็งเห็นว่าตลาดการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวมุสลิม ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและรวมถึงคนไทย ที่นับถือศาสนาอิสลาม ดังนั้นจึงตัดสินใจลงทุนธุรกิจด้านนี้ในชียงใหม่ เพื่อรองรับตลาดกลุ่มนี้

         “ โรงแรมโรมีน่า แกรนด์ โฮเต็ล เราเน้นการบริหารและบริการในรูปแบบของโรงแรมฮาลาลและนับเป็นโรงแรมแรกๆในเชียงใหม่ ที่นำระบบฮาลาล มาให้บริการแบบครบวงจร ” นายสามารถ กล่าวและว่า“

          โดยในวันเปิดตัวโรงแรมเราได้รับเกียรติจากท่านเอกอัคราชฑูต จาก 4 ประเทศ ประกอบด้วย  ท่าน  H.E. Mr. Umaru Azores Sulaiman  เอกอัคราชฑูตจากประเทศ  H.E. Dato Nazirah Binti Hussain เอกอัคราชฑูตจากประเทศมาเลเซีย และ H.E. Dato Paduka Haji Kamis Bin Haji Tamin  เอกอัคราชทูตจาประเทศบรูไน ดารุสลาม  ส่วนไนจีเรีย  H.E. Mr. Nabil H.H. Ashri  อุปฑูต ประเทศซาอุดิอารเบีย ป่วยกะทันหันจึงไม่สามารถมาร่วมงานได้

           นายสามารถ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางบริษัทฯได้เจรจาเพื่อซื้อตึกซึ่งอยู่ติดกับโรงแรมโรมีน่าแกรนด์ เพื่อขยายห้องพักเพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนลงทุนโรงแรมฮาลาล ในอีกหลายแห่งทั้ง ในกรุงเทพฯย่านถนนรามคำแหง และที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ทั้งนี้เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซี่ยน ที่จะมาถึงในปี2558ที่จะถึงนี้

          ด้าน ดาโต๊ะ นาซิระ บินติ ฮัซเซน เอกอัครราชทูตมาเลเซีย กล่าวในโอกาสมาร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดโรงแรมโรเมนา แกรนด์ โฮเท็ล ที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อม เอกอัครราชทูตไนจีเรีย และเอกอัครราชทูตบูรไน ดารุสซาลาม  

           โดยเอกอัครราชทูตมาเลเซียกล่าวว่า มาเลเซียกับไทยมีการเชื่อมโยงการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวนั้นได้ผสมผสานวัฒนธรรมของสองประเทศเป็นอย่างดี ประเทศไทย และเชียงใหม่ เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียซึ่งเดินทางเข้าไทยปีละ 10 ล้านคน โดยเฉพาะจังหวัดชายแดนภาคใต้

           “ ขณะที่การรวมเป็นประชาคมอาเซียนนั้นต้องร่วมมือกันทุก ๆ ด้าน ทั้งการค้า การลงทุน การศึกษา ที่ใดมีความโดดเด่นอะไรก็จะส่งเสริมประชาสัมพันธ์เชื่อมโยงไทย-มาเลเซีย เช่นเดียวกับเชียงใหม่ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของชาวมาเลเซียในขณะนี้ โดยนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย นั้นมีความต้องเฉพาะคือ ต้องการอาหารถูกหลักฮาลาล โรงแรมที่พักที่มีห้องประกอบศาสนกิจ ซึ่งเชียงใหม่ มีทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียต้องการ หากบริหารจัดการได้อย่างผสมผสานลงตัว จำนวนนักท่องเที่ยวจะยิ่งทวีเพิ่มขึ้น

            นายวรการ ยกยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  กล่าวว่า จากประสบการณ์ที่รับราชการมาหลายพื้นที่รวมทั้งในพื้นที่ภาคใต้ อยากเห็นธุรกิจมุสลิมมีความก้าวหน้า โดยพาะอย่างยิ่ง เมื่อมารับราชการที่จังหวัดเชียงใหม่ ก็อยากเห็นเชียงใหม่มีธุรกิจมุสลิมเหมือนย่านถนนประดิพัทธิ์ กรุงเทพมหานคร

            “นับเป็นการพัฒนาด้านธุรกิจ และยกระดับการนักท่องเที่ยวแบบสากล ที่มีโรงแรมบริการแบบฮาลาล เกิดขึ้นในเชียงใหม่  เนื่องจากเชียงใหม่เป็นปลายทางการท่องเที่ยวของคนจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงชาวมุสลิมด้วย” นายวรการ กล่าว.