เพื่อไทยเตรียมเสนอยกเลิกใช้ "แอลพีจี" ในภาคขนส่ง
สำนักข่าวอะลามี่ : กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยเตรียมเสนอแผนยกเลิกก๊าซแอลพีจีภาคขนส่ง และยกเลิกเงินอุดหนุนก๊าซเอ็นจีวี รถส่วนตัว เพื่อให้การใช้พลังงานในประเทศเกิดความสมดุล รับรัฐมนตรีพลังงานคนใหม่ทำงานวันแรก
นายอุเทน ชาติภิญโญ กรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จะเสนอแนวคิดเรื่องพลังงาน ต่อที่ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคในการประชุมวันนี้ (23 ม.ค.) เพื่อให้เรื่องพลังงานของประเทศเกิดความสมดุล ไม่ให้มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบ โดยเฉพาะก๊าซแอลพีจี นั้นประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกใช้เป็นก๊าซสำหรับหุงต้ม จึงเห็นว่าไม่ควรใช้ก๊าซแอลพีจีในภาคขนส่ง เพราะจะทำให้เกิดการเบียดบังและบิดเบือนราคาต้นทุนที่แท้จริง
ส่วนก๊าซเอ็นจีวีจะต้องมีการสะท้อนต้นทุนราคาด้วย โดยจะแบ่งย่อยออกเป็น 2 ประเภทตามลักษณะของการใช้ คือ 1.ใช้เพื่อการขนส่ง และ 2.ใช้เพื่อการอุตสาหกรรม ซึ่งทั้ง 2 ประเภทนี้จะต้องไม่ใช่ราคาเดียวกัน เนื่องจาก การใช้ในอุตสาหกรรมเป็นการใช้เพื่อการค้า
ขณะที่ก๊าซเอ็นจีวีที่ใช้เพื่อการขนส่ง ก็ต้องแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ใช้กับรถสาธารณะ และ สำหรับใช้กับรถยนต์ส่วนบุคคลโดยรถยนต์สาธารณะรัฐบาลจะต้องสนับสนุนค้านราคา เพื่อเป็นการลดต้นทุนในการเดินทางให้แก่ประชาชน ซึ่งจะต้องคำนึงถึงต้นทุนพลังงานที่แท้จริงของรถสาธารณะแต่ละประเภท เนื่องจากหากดูจากข้อเท็จจริงแล้วราคาค่ามิเตอร์ หรือ ค่าโดยสารของรถยนต์สาธารณะนั้น เดิมคิดจากการใช้น้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซิน ดังนั้นเมื่อเปลี่ยนมาใช้ก๊าซเอ็นจีวี ที่มีราคาต่ำกว่าราคาน้ำมันเกือบ 3 เท่าตัวแล้ว ต้องมีการคำนวณต้นทุนพลังงานของรถยนต์สาธารณะใหม่ด้วย
ขณะที่รถยนต์ส่วนบุคคลต้องรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการรับผิดชอบด้านภาษีสรรพสามิตของก๊าซเอ็นจีวี ที่จะต้องถูกปรับขึ้นในประเภทนี้ เพื่อไม่ให้มีการเอาเปรียบสังคมแล้วให้รัฐบาลไปคุ้มครอง โดยก่อนหน้านี้ได้มีการปรับโครงสร้างราคาไปแล้ว เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา โดยราคาก๊าซแอลพีจี จะปรับขึ้นเดือนละ 75 สตางค์ ต่อกิโลกรัม หรือ เดือนละ 41 สตางค์ต่อลิตร ไปจนถึงเดือนธันวาคม รวมปรับเพิ่มขึ้น 4 บาท 92 สตางค์ ขณะที่ในวันนี้ ( 23 ม.ค.) นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่ จะเข้ากระทรวงฯ เพื่อทำหน้าที่เป็นวันแรก
ที่มา: http://news.thaipbs.or.th/