(Update) “ศาสนบริหารฯ” ยกชั้นสู่วิทยาลัย เปิดป้ายทางการพรุ่งนี้
สำนักข่าวอะลามี่ : “ศาสนบริหารธุรกิจ”เร่งปรับกระบวนการคิดบุคลกร-นักเรียน รับการเปลี่ยนโฉมใหม่ ยกระดับสู่ ” วิทยาลัยอาชีวะศึกษาศาสนบริหารธุรกิจ” ก่อนเตรียมเปิดป้ายอย่างเป็นทงการพรุ่งนี้(15ก.พ.55)
นายมนตรี มาลีพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนศาสนบริหารธุรกิจ กล่าวย้อนอดีตการจัดตั้งโรงเรียนว่าก่อนจะมาเป็น โรงเรียนศาสนบริหารธุรกิจ เดิมชื่อโรงเรียนสตรีศาสนวิทยา นับตั้งแต่ปี2528 ก่อนจะปรับเปลี่ยนระบบการเรียนการสอนและเปิดหลักสูตรอาชีวะ เมื่อปี2550ที่ผ่านมา
สำหรับโรงเรียนปอเนาะที่ปรับมาเป็นโรงเรียนในระบบอาชีวะ นับเป็นแห่งแรกในประเทศไทย โดยจัดการเรียนการสอนเอาระบบควบคู่ทั้งอาชีวะและศาสนา โดยหลักสูตรการเรียนการสอนเราเป็นผู้สร้างขึ้นมาใหม่ โดยใช้ภาษาอาหรับในการเรียนการสอนเป็นภาษาที่สองตามหลักสูตร
“โรงเรียนศานบริหารธุรกิจนับเป็นโรงเรียนทางเลือกใหม่ของสังคมและผู้ปกครองที่อยากให้บุตรหลานแต่งตัวถูกระเบียบและตามหลักศาสนาอิสลาม ให้ลูกรู้เรื่องศาสนาและสามารถนำวิชาไปประกอบอาชีพได้ ซึ่งถือว่าโดนใจผู้ปกครองที่มีมุมมองด้านนี้”นายมนตรีกล่าวและว่า
สำหรับโรงเรียนศาสนบริหารธุรกิจ เราตั้งปรัชญาว่า วิชั่นสากล บริหารภูมิปัญญาแบบมุสลิม” ทำให้ได้รับการตอบรับจากผู้ปกครองซึ่งส่วนใหญ่เป็นมุสลิม นอกจากนี้ยังมีนักเรียนที่เป็นนักเรียนจากต่างศาสนิก บ้าง แต่ยังไม่มากนัก
นายมนตรี กล่าวอีกว่า สำหรับการเติบโตของโรงเรียนนับตังแต่เปิดหลักสูตรใหม่เมื่อปี50 โดยปีแรกมีนักเรียนทั้งหมด300 คน ซึ่งถือว่าเกินเป้า ปัจจุบันเรามีนักเรียนทั้งหมด700คน มีบุคลกร40คน ถือว่าอยู่ในความเหมาะสมซึ่งเราไม่คิดจะเพิ่มปริมาณไปมากกว่านี้เนื่องจากมีพื้นที่จำกัดเพียง 2ไร่เศษเท่านั้น
สำหรับหลักสูตรที่เปิดสอนประกอลด้วย สาขาการบัญชี สาขาการตลาด คอมพิวเตอร์ และการประชาสัมพันธ์
“จุดแข็งงของเราคือ เรามีการสอนศาสนา มีเอกลักษณ์ชัดเจน มีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่ง 95% เป็นนักเรียนมุสลิม โดยเฉพาะเรื่องการแต่งกายที่ถูกหลักการศาสนาอิสลามเรื่องนี้ถือว่าโดนใจผู้ปกครองมาก”
นายมนตรี กล่าวอีกว่า ล่าสุดกรมอาชีวะได้อนุมัติให้โรงเรียนในสังกัดอาชีวะสามารถเปลี่ยนชื่อเป็น”วิทยาลัย” ซึ่งเราก็เตรียมตัวที่จะเปลี่ยนชื่อเช่นกัน โดยจะใชชื่อว่า”วิทยาลัยอาชีวะศึกษาศาสนบริหารธุรกิจ”ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้ชื่อใหม่ในฤดูการเปิดภาคเรียนหน้านี้
“การปลี่ยนชื่อไม่ใช่สิ่งที่สำคัญสำหรับเรา แต่สิ่งสำคัญคือ เมื่อเราเปลี่ยนชื่อสถาบัน เราจะเร่งต้องสร้างองค์ความรู้ ปรับกระบวนทัศน์และกระบวนคิดของบุคลากร ครู-อาจารย์ และนักศึกษา ให้รู้ว่าเขากำลังจะเปลี่ยนอย่างไรบ้าง เช่น จากนักเรียนก็จะเปลี่ยนสถานะเป็นนักศึกษา ซึ่งเราไม่อยากเปลี่ยนแค่ป้ายอย่างเดียวเท่านั้น” นายมนตรี กล่าวและว่า
พร้อมกันนี้เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและรองรับการเปิดภาคการศึกษาใหม่ ผู้บริหารโรงเรียนได้เตรียมเปิดป้าย " วิทยาลัยอาชีวะศึกษาศาสนบริหารธุรกิจ” อย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555 นี้