ม๊อบสวนยางภาคใต้ชุมนุมเรียกร้องแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ

               สำนักข่าวอะลามี่ :  ม๊อบสวนยางในภาคใต้ รวมตัวชุมนุมสี่แยกคูหาเรียกร้องแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ พร้อมนำรถบรรทุกน้ำยาง เตรียมเคลื่อนพลไปกรุงเทพฯ ล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้บินตรงจากกรุงเทพฯเพื่อเจรจากับแกนนำชาวสวนยางเพื่อหาข้อสรุปแล้ว

                เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่10 ม.ค.เครือข่ายชาวสวนยางในจ.สงขลา สตูล และพัทลุง กว่า1,500 คน นำโดย นายบุญส่ง นับทอง นายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย, นายชยันต์ สังขไพฑูรย์ ประธานสภาเกษตรกรจ.สงขลา, นายปรีชา  สุขเกษม  นายกาจบัณฑิตย์  รามมาก และ นายพิพัฒน์ เจือละออง ได้รวมชุมนุมที่บริเวณสี่แยกคูหา อ.รัตภูมิ จ.สงขลา

               โดยนำรถเทเลอร์ รถกระบะบรรทุกน้ำยาง รวมทั้งรถยนต์ส่วนตัวกว่า500 คันมาจอดบริเวณสี่แยกคูหา พร้อมกับตั้งเวทีปราศรัยของแกนนำเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ โดยให้ปรับราคายางแผ่นดิบชั้นสามที่ตลาดกลางหาดใหญ่ต้องไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ120 บาท หลังจากที่ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องไปยังรัฐบาลตั้งแต่วันที่22 ธันวาคมปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง

              ต่อมาเมื่อเวลา16.00 น.ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้มาตรการกดดันโดยนำรถเทเลอร์บรรทุกน้ำยางและมวลชนทำการปิดถนนสายเอเชียทั้งสองฝั่ง ทำให้รถติดยาวเหยียดหลายกิโลเมตร  ทั้งนี้ทางแกนนำประกาศที่จะเคลื่อนพลเข้ากรุงเทพฯไปชุมนุมที่หน้าบ้านพักของนายกรัฐมนตรี เพื่อเทน้ำยางประท้วงหากข้อเรียกร้องยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยมีการเตรียมพร้อมเครือข่ายชาวสวนยางทั้ง14 จังหวัดภาคใต้เดินทางขึ้นไปร่วมชุมนุมตามที่ได้ประกาศไว้ แต่หากข้อเรียกร้องได้รับการตอบสนองก็จะยุติการชุมนุมทันที่

                ล่าสุดมีรายงานว่า  นายธีระ วงสมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้บินตรงจากกรุงเทพฯเพื่อเจรจากับแกนนำชาวสวนยางเพื่อหาข้อสรุปแล้ว

“ธีระ” รับข้อเสนอม็อบยางทำราคา 120 บาทอย่างถาวร

               นายกาจบัณฑิต รามาก แกนนำเครือข่ายชาวสวนยาง เปิดเผยภายหลังการหารือระหว่าง นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งที่ประชุมได้ร่วมกันทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างรมว.เกษตรฯและเครือข่ายชาวสวนยางภาคใต้ โดยให้รัฐบาลแสดงความจริงใจและมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาราคายางที่ตกต่ำ โดยมอบหมายให้รมว.เกษตรฯเป็นผู้รับผิดชอบ

               ที่ประชุมยังเห็นชอบในหลักการร่วมกัน ที่จะใช้กลไกตลาดในการยกระดับราคายางให้สูงขึ้น ซึ่งรมว.เกษตรฯ จะนำข้อเสนอเข้าสู่ที่ประขุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ในวันที่ 17 ม.ค. นี้ และให้คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ จัดสรรวงเงินเพื่อซื้อยางจำนวน 2 แสนตันในราคาที่ชี้นำตลาด โดยมีเป้าหมายทำให้ราคายางเพิ่มสูงขึ้น และมีเสถียรภาพในราคา 120 บาทต่อกิโลกรัม รวมทั้ง รมว.เกษตรฯต้องเชิญผู้แทนเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ร่วมประชุมด้วย อีกทั้ง ให้นำมติที่ประชุมของคณะกรรมชุดดังกล่าว นำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 24 ม.ค. นี้

             นอกจากนี้ ให้ รมว.เกษตรฯนำเรียนต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อชี้แจงเรื่องดังกล่าวให้เกษตรกรได้รับทราบทั่วกันในรายการ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน" วันที่ 12 ม.ค. นี้ ขณะเดียวกัน ที่ประชุม สกย. ยังได้เสนอให้คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ กำหนดมาตรการในการรักษาเสถียรภาพราคายางอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ เครือข่ายชาวสวนยางภาคใต้ จะยุติการชุมนุมโดยไม่มีเงื่อนไข และเปิดเส้นทางการจราจรทันที ทั้งนี้ ทางราชการจะต้องไม่เอาผิดกับแกนนำรวมถึงกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย

สกย. ชี้ ช่วยได้มีเงินเยอะแต่ต้องแก้ไขกฎหมาย

             แหล่างข่าวจากสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) เปิดเผยว่า ในการชุมนุมประท้วงของชาวสวนยางในขณะนี้ ท างชาวสวนยางได้รับปากไว้กับระดับผู้บริหาร สกย.ในพื้นที่ว่า จะไม่มีการใช้พื้นที่ และจะไม่แตะต้องและกล่าวโจมตี สกย.  เพราะ สกย. ไม่มีความผิดและไม่มีหน้าที่ช่วยเหลือสนับสนุนทางด้านการตลาด  และหากที่จะให้ทาง สกย.ช่วยเหลือได้อย่างถาวรนั้นโดยการผลักดันตั้งกองทุนถาวร เพื่อมาสนับสนุนช่วยเหลือชาววยางในยามเกิดภาวะราคาวิกฤติ ได้นั้น มีทางเดียวคือจะต้องแก้ไขกฎหมาย พรบ.สกย.เท่านั้น  จึงสามารถนำเงินเซส ที่สามารถเก็บได้ประมาณ 15,000 ล้าน / ปี มาดำเนินการได้.