ผู้ว่าฯสงขลา ชงงบ3,000ล้าน เพิ่มศักยภาพคลอง ร.1
สำนักข่าวอะลามี่ : "ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์"รองนายกฯ-ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ ลงใต้พื้นที่สร้างกำแพงเสริมคันคลองป้องกันน้ำท่วมหาดใหญ่ หลังเปิดอุทกภัยครั้งใหม่ ด้านผู้ว่าฯสงขลาชงของบ 3,000ล้านบาท ขยายคลองตลอดเส้นทางอีก21กิโลเมตรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพคลอง ร.1
วันนี้ (5ม.ค.54) นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะ ลงพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อตรวจดูศักยภาพการป้องกันน้ำท่วม บริเวณประตูระบายน้ำคลอง ร. 1 บ้านหน้าควน เขตเทศบาลเมืองควนลัง พร้อมรับฟังการรายงานผลการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเมืองหาดใหญ่จาก นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และนายดนัยวิทย์ สายบัณฑิตย์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสงขลา ซึ่งสามารถป้องกันไม่ให้น้ำท่วมย่านเศรษฐกิจใจกลางเมืองของอำเภอหาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา
นายดนัยวิทย์ สายบัณฑิตย์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสงขลา ได้นำเสนอโครงการเพิ่มประสิทธิภาพ การระบายน้ำคลอง ร.1 เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะยาวต่อ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ว่าหากจังหวัดสงขลาได้ดำเนินการโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำคลอง ร.1 โดยใช้เขตคลองเดิมช่วง กม.0+000 ถึง กม.14+460 มีเขตคลองดาดคอนกรีต และช่วง กม.14+460 ถึง กม.21+343 มีเขตคลองเดิม 90 เมตร ดาดคอนกรีตช่วงชานคลอง (BERM) โดยสร้างกำแพงริมคลองเดิมสูงขึ้นจากแนวริมคลองระดับเดิม 1 เมตร จะสามารถระบายน้ำได้ประมาณ 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
โดยในขณะนี้การระบายน้ำอยู่ที่ 460 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หากโครงการดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ หรือ (กยน.) ที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้นำเสนอไปแล้วนั้น จะใช้งบประมาณในการดำเนินโครงการดังกล่าวจำนวน 3,000 ล้านบาท โดยการขยายคลองตลอดเส้นทาง 21กิโลเมตร และจะต้องก่อสร้างสถานีสูบน้ำเพิ่ม ซึ่งสามารถป้องกันการเกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้าน นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตนเองมีความเห็นสอดคล้องกับโครงการดังกล่าวในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเมืองหาดใหญ่ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคใต้ โดยจะนำเสนอต่อ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาจัดสรรงบประมาณในการดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างเร่งด่วนต่อไป…