ธุรกิจผลิตหมวกกะปิเยาะห์ปัตตานีอ่วมจีนตีตลาดซาอุฯ
สำนักข่าวอะลามี่ : ธุรกิจกิจผลิตหมวกกะปิเยาะห์ปัตตานี ส่งออกกว่า80% กำลังประสบปัญหาหนัก หลังจากที่ตลาดซาอุฯ ถูกผู้ประกอบการจีนตีกระเจิง เหตุต้นทุนสูงกว่า วอนรัฐช่วยด่วน
นายมะยิ ยีมะเย็ง ประธานกลุ่มผู้ผลิตหมวกกะปิเยาะห์ต.กะมิยอ อ.เมือง จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า จากปัญหาเงินบาทที่แข็งค่านั้นได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการผลิตหมวกกะปิเยาะห์ ซึ่งส่งไปจำหน่ายในต่างประเทศเนื่องจากแลกเปลี่ยนเงินแล้วขาดทุน จาก 1 เหรียญของซาอุที่ได้ 10.50-11 บาท เหลือแค่ 10 บาท
“และที่หนักไปกว่านั้นคือตลาดกะปิเยาะห์ที่ซาอุดิอาระเบียได้ถูกจีนตีตลาดจนราคาของผุ้ผลิตจากประเทศไทยสู้ไม่ได้ หมวกที่ไปจากประเทศไทยต้นทุนส่งอยู่ที่ 100 บาท ขายกันที่ 150 บาท แต่หมวกของจีนนั้นมีหลากหลายเกรดราคาต่ำสุดอยู่ที่ใบละ 12 บาท แล้วอย่างนี้จะไปสู้ไหวได้อย่างไร”
นายมะยิ กล่าวอีกว่า กลุ่มได้ส่งออกไปจำหน่ายที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย มาหลายปีแล้วมีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านบาทต่อปี โดยสัดส่วนส่งนั้นอยู่ที่ 60 % ส่วน 28 % ขายในมาเลเซีย และที่เหลือจำหน่ายภายในประเทศ แต่เมื่อเจอปัญหาอย่างนี้ก็ทำให้ต้องส่งออกมาเลเซียเพิ่มขึ้น 80 % ขายภายในประเทศ 20 % แต่การจำหน่ายในมาเลเซียนั้นต้องผลิตหมวกที่มีคุณภาพ
โดยกลุ่มนั้นแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนหนึ่งผลิตหมวกกะปิเยาะห์ อีกส่วนก็ผลิตเครื่องแต่งกายมุสลิม ผ้าคลุมผมเสื้อ โดยส่วนใหญ่กลุ่มผลิตเครื่องแต่งกายนั้นจะส่งเข้ามาเลเซีย 80 % เนื่องจากต้นทุนสูง และปัญหาที่กลุ่มเจอล่าสุดคือคู่แข่งที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนสูง วัตถุดิบขึ้นราคา ด้าย ผ้าขึ้นหมด แต่ราคาขายปรับได้ไม่มากนัก คู่แข่งก็มีทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ต้องปรับตัว