ปะทะโจรใต้เด็ดชีพไป1จับได้อีก1
สำนักข่าวอะลามี่ : ตำรวจ-ทหาร สนธิกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้ปาหมาย 2จุดในพื้นที่อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ก่อนจะเปิดฉากปะทะกับโจรใต้ สุดท้ายเด็ดชีพไป1 ศพจับกุมตัวได้อีก 1 คน ยึดวงจรระเบิดได้จำนวนหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 19 ธ.ค. 54 พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และพ.ท.กำธร ศรีเกตุ ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 ได้ร่วมสนธิกำลัง จำนวน 30 นาย ใช้กฏอัยการศึกบุกจู่โจมตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน 2 จุด คือบ้านเลขที่ 4 ม.2 บ้านบูเก๊ะนากอ ต.ลาโล๊ะ และบ้านไม่มีเลขที่ ม.9 บ้านพงยือจิ ต.ลาโล๊ะ หลังสืบทราบว่ามีกองกำลังติดอาวุธ RKK จำนวนหนึ่ง ได้ใช้สถานที่ดังกล่าวในการซ่องสุมวางแผนเพื่อเตรียมก่อเหตุร้ายขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่
โดยจุดแรกเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันบุกจู่โจมตรวจค้นบ้านเลขที่ 4 พบกองกำลังติดอาวุธจำนวนหนึ่งอาศัยอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น กลุ่มกองกำลังติดอาวุธได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่เจ้าหน้าที่ จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะกันเป็นละลอกๆนาน 10 นาที จนเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวและประกาศขอให้สมาชิกแนวร่วมกองกำลังติดอาวุธที่อาศัยอยู่ในบ้านพักยอมจำนน และ ได้ขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ 1 คน คือ นายอับดุลรอแม ฮาเร๊ะ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ม.9 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยตามหมาย จับพรก.ร่วมกับพวกก่อคดีความมั่นคงในพื้นที่ อ.รือเสาะ
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการควบคุมตัวนายอับดุลรอแม แล้ว เจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลียร์พื้นที่โดยรอบของบ้านเป้าหมาย พบศพกองกำลังติดอาวุธเสียชีวิต 1 คน ที่นอนจมกองเลือดอยู่บริเวณใกล้ประตูของบ้านดังกล่าว ทราบชื่อคือ นายรุสลัน มาเน็ง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ม.9 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งมีบาดแผลถูกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่พรุนไปทั่งร่าง
โดยข้างศพเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนสงคราม อา.ก้า.จำนวน 1 กระบอกและเครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งตัวนายอับดุลรอแม มีหมายจับ ป.วิอาญา 1 หมาย คือ ร่วมกับพวกบุกโจมตีและปล้นปืนฐานปฏิบัติการณ์ทหาร ร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 หรือฐานพระองค์ดำ ซึ่งตั้งอยู่ ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 54 ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้ประสานไปยัง พ.อ.สมพล ปานกุล รอง ผบ.พล ร.15 และอัยการ จ.นราธิวาส รวมถึงจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มาทำการชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตและเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวนี้ ได้เดินทางไปทำการตรวจค้นเป้าหมายที่ 2 ซึ่งเป็นบ้านไม่มีเลขที่ ซึ่งตั้งอยู่ ม.9 บ้านพงยือจิ ต.ลาโล๊ะ พบวงจรประกอบระเบิดจำนวนหนึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านพักดังกล่าว และพบร่องรอยของสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ RKK ได้มาอาศัยอยู่ แต่ไหวตัวสามารถหลบหนรการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไปได้
เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะควบคุมตัวนายอับดุลรอแม ไปทำการสอบสวนในเบื้องต้นที่ฐานปฏิบัติการ ฉก.นราธิวาส 30 ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดสวนธรรม อ.รือเสาะ เพื่อขยายผลไปสู่เครือข่ายที่เจ้าหนที่จะได้กดดันและไล่ล่าต่อไป