Hot Stories
Home   /   Hot Stories  /   สถาบบันเกษตรกระอักสต็อคยางกว่า3ล้านกิโล

สถาบันเกษตรฯกระอักสต็อคยางกว่า3ล.กิโลขาดทุนยับกว่า112ล้านบาท

          สำนักข่าวอะลามี่: สถาบันเกษตรกรยางพารา กระอัก สต๊อกกว่า 3  ล้านกิโลกรัมขายไม่ออก หลังใช้เงิน 400 ล้านบาทช้อนซื้อ เผยขาดทุนแล้วกว่า 112ล้านบาท  ระบุ ยางตกต่ำดิ่งเหว เนื่องจากถูกประเทศจีน “เบี้ยวสัญญา”   ขาดทุนยับเยิน แต่ละบริษัทเกือบ 100 ล้านบาท

          นายสมชาย  ณ ประดิษฐ์    ประธานกรรมการแก้ไขปัญหายางพาราภาคเกษตรกร   เปิดเผยว่า  จากการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหายางพาราภาคเกษตรกร สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางเขต 1 จังหวัดสงขลา ที่ผ่านมา โดยในที่ประชุมได้มีมติสำคัญ 2 ประการ ที่จะให้รัฐบาลดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรสวนยางพารา  

            คือ รัฐบาลจะต้องออกนโยบายรับจำนำยางพาราของสถาบันเกษตรกร   ที่ประสบกับภาวะขาดทุนที่ผ่านมาเนื่องจากยางพาราราคาที่ลดลงดังไม่เคยปรากฏมาก่อน  บางวันราคาลงถึง 21 บาท   ในขณะที่ผ่านมาปกติราคาจะลงเพียง 2-3 บาท / กก. และให้รัฐบาลออกประกาศ  ราคายางพาราที่ 120 บาท / กก.   โดยให้นำนโยบายโครงการสนับสนุนสถาบันเกษตรกรแปรรูปเพิ่มมูลค่าเพื่อแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ   8,000 ล้าน   ออกมาดำเนินการ  เพราะที่ผ่านมา    ได้ใช้เงินนี้ดำเนินการ  ปรากฏผลสำเร็จด้วยดี  

             นายสมชาย  กล่าวอีกว่า  ยางที่อยู่ในสต๊อกของสถาบันเกษตรกรรวบรวมได้ มีจำนวน  3,865 ตัน หรือกว่า 3,000,000  กก.  โดยเฉลี่ยขาดทุนประมาณ 29 บาท /  กก. คิดเป็นเงินมูลค่า 112 ล้านบาท  ประเด็นสำคัญ 2 ประการนี้   จะนำเสนอรัฐบาลต่อไป

            แหล่งข่าวจากสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) เปิดเผยว่า สำหรับยางพาราที่ทางรัฐบาลจะเข้าไปดำเนินการรับจำนำหรือซื้อ ตามที่สถาบันเกษตรกรนำเสนอนั้น   จะเป็นของสถาบันเกษตรโดยเฉพาะ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพ่อค้ายางของภาคเอกชนแต่อย่างใด  แต่ภาคเอกชนจะมีผลด้วย เพราะจะทำให้ราคาขยับตัวสูงขึ้นไปด้วย  โดยจะใช้เงินในโครงการ 8,000 ล้านบาท  ใช้เพียง 400 ล้านบาท  เงินยังคงเหลืออีกจำนวนมาก และสามารถทำให้ยางราคาขยับขึ้นมาทันที

             แหล่งข่าวจากวงการยางพารา  เปิดเผยว่า  สถานการณ์ยางในตลาดโลก ความเป็นจริงยาง ไม่ได้มีอยู่ในสต๊อกเป็นจำนวนมากแต่อย่างใด  ประเทศจีนเองมีสต๊อกไว้ประมาณ 27,000 ตัน   นอกนั้นที่เหลือจากสต๊อกก็เพียง   2,500 ล้านตัน   ขณะที่ไทยโดยสถาบันเกษตรมียางอยู่ในสต๊อกอยู่ 3,865 ล้านตัน  เมื่อรัฐบาลรับซื้อไปหรือรับจำนำไป  ยางก็จะหายไปจากสต๊อกและตลาดทันที   ในสต๊อกที่ล้นเหลือของประเทศจีน ก็จะเหลือกว่า 1,000 ตัน  เมื่อถึงเวลานั้น  ก็จะต้องเข้ามากว้านซื้อยางอย่างทันท่วงทีเพื่อหาป้อนตลาด

            แหล่งข่าว ยังกล่าวอีกว่า  ปัจจัยสำคัญที่ยางราคาตกต่ำลงมากและรวดเร็วในขณะนี้  เนื่องจากเป็นการทำราคาของกลุ่มค้ายาง สาเหตุเนื่องจากพ่อค้ายางรายใหญ่ ประสบกับภาวะขาดทุนอย่างหนักในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อในประเทศจีน เกิดการต่อรองสัญญา ไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญาซื้อขาย  โดยขอซื้อในราคาที่ต่ำกว่าสัญญา ประมาณ 10 บาท และ 20 บาท / กก.  จนกลุ่มผู้ค้ายางแต่ละรายประสบกับภาวะขาดทุนเป็นเงินจำนวนมาก บางบริษัทขาดทุน 80 ล้านบาท  บางบริษัท 67 ล้านบาท  และยังมีอีกหลายบริษัท

               “บริษัทผู้ค้ายางเมื่อส่งยางไปถึงท่าในประเทศจีนแล้ว  ก็ถูกลุ่มพ่อค้าในประเทศจีนต่อรองไม่ปฏิบัติตามสัญญา  ส่วนจะเอาสินค้ากลับคืนก็ไม่ได้ ยิ่งขาดทุนหนัก  จะฟ้องร้องฐานผิดสัญญาการซื้อขาย ก็หวั่นจะเสียลูกค้าไป  จึงจำเป็นต้องขายในราคาขาดทุนในที่สุด   เหตุการณ์พ่อค้าไทยจะถูกเบี้ยวสัญญา จะเกิดขึ้นเป็นประจำจากกลุ่มพ่อค้าในประเทศจีน”

           แหล่งข่าว  ยังกล่าวอีกว่า  ภาวะราคายางแม้ราคาจะสูง แต่กลุ่มพ่อค้าประเทศจีน และญี่ปุ่น ไม่ได้หวั่นวิตกแต่อย่างใด เพียงแต่ให้มีราคาอยู่ในเสถียรภาพ  อย่างแกว่งตัวมากเกินไป   จนไม่สามารถปรับต้นทุนการผลิตได้.