ชายแดนใต้ประกาศ”วันตรุษจีน-รายอ”หยุดราชการ
สำนักข่าวอะลามี่ : ประชาชนชายแดนภาคใต้ ได้เฮ หลังรัฐบาลเตรียมประกาศให้ “วันตรุษจีน - วันฮารีรายอ” เป็นวันหยุดราชการประจำปี เสนอ ครม.พิจารณา
นายปกรณ์ ปรีชาวุฒิเดช สมาชิกสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สปต.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดเผยว่า นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทย ได้เป็นประธาน การประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 4/2554 โดยที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบโครงการต่าง ๆ
เช่น โครงการรักษาความปลอดภัยครู และโครงการโรงเรียนภาษาอาเซียน โรงเรียนสอนภาษาอาเซียนชายแดนภาคใต้ งบประมาน 421,600,000 บาท โครงการพัฒนาห้องเรียนพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ ในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัด งบประมาณ 49,422,000 บาท โครงการทุนอุดมศึกษา ปีละ 500 ทุน งบประมาณ 320,000,000 บาท โดยเน้นสาขาขาดแคลน เช่น แพทย์ เทคนิคการแพทย์ กายภาพบำบัด กิจกรรมบำบัดกายอุปกรณ์ ฯลฯ และโครงการทุนการศึกษา ระดับ ปวส. สำหรับนักเรียนในเขตพัฒนาพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ งบประมาณ 70,000,000 บาท ฯลฯ
นายปกรณ์ ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในที่ประชุมยังให้ความเห็นชอบแผนยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนและชุมชน ตามที่กระทรวงการคลัง (ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย) เสนอ ทั้งนี้ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) ได้จัดทำแผนการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนและชุมชนในพื้นที่ โดยยึดกรอบนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
โดยมุ่งช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ในข่ายยากจนและมีรายได้น้อย ที่ส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบการเงินปกติเนื่องจากขาดหลักทรัพย์ค้ำประกันและมีภาระหนี้สินล้นพ้นตัว ให้สามารถได้รับการสนับสนุนแหล่งเงินที่คิดค่าตอบแทนต่ำเพื่อการประกอบอาชีพ
“ที่ประชุมยังให้ความเห็นชอบ ให้วันตรุษจีนเป็นวันหยุดราชการประจำปีเพิ่มเติมขึ้นอีก 1 วัน เฉพาะพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ปัจจุบันทางราชการได้กำหนดให้มีวันหยุดราชการประจำปี รวมทั้งสิ้น 16 วัน” นายปกรณ์ กล่าวและว่า
ปัจจุบันในพื้นที่ จังหวัดปัตตานี สตูล ยะลา และ นราธิวาส มีวันหยุดราชการประจำปีเพิ่มขึ้นอีก 2 วัน เนื่องในวันตรุษอีดิ้ลฟีตรี (วันรายอปอซอ) 1 วัน และวันตรุษอีดิ้ลอัฎฮา(วันรายอฮัจยี) 1 วัน เพื่อเป็นการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอันเป็นวัฒนธรรม และเปิดโอกาสให้ข้าราชการ ได้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอิสลาม
นายปกรณ์ กล่าวอีกว่า แต่เมื่อเปรียบเทียบจำนวนวันหยุดราชการประจำปีของประเทศไทย กับต่างประเทศ กลุ่มประเทศอาเซียนแล้ว พบว่า กลุ่มประเทศอาเซียน มีจำนวนวันหยุดราชการประจำปีต่ำสุด และสูงสุดอยู่ระหว่าง 6 วัน ถึง 25 วัน โดยในส่วนของประเทศอินโดนีเซีย บรูไน มาเลเซีย สิงคโปร์ และประเทศเวียดนาม นั้นจะมีวันตรุษจีน เป็นวันหยุดราชการประจำปีรวมด้วย.