Hot Stories
Home   /   Hot Stories  /   เลือกตั้งจบ..แต่เกมนี้ยังไม่จบ..!!!

เลือกตั้งจบ..แต่เกมนี้ยังไม่จบ..!!!  

โดย : จันทร์เสี้ยว

             สำนักข่าวอะลามี่:  ผลการเลือกตั้งกรรมการอิสลาม 35จังหวัด พบว่าส่วนใหญ่อิหม่ามชุดเก่ายังกุมอำนาจในคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด รวมถึงสนามกรุงเทพฯ  นี่เป็นสัญญาณชี้ให้เห็นว่า เสียงข้างมากในคณะกรรมการกลางอิสลามยังเป็นกลุ่มเดิม

             แต่จากนี้ไปต้องจับตาว่า อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นการเมืองรอบใหม่...!!!!!

(สุรินทร์ ปาลาเร่-สมัย เจริญช่าง)

              สนามเลือกตั้งกรรมการอิสลามเมื่อวันที่ 24พ.ย.54 ที่ผ่านมา ที่ถูกจับตามากที่สุดคือ กรุงเทพมหานคร โดยก่อนหน้านี้มีการวิเคราะห์กันว่า ทีมใหม่ที่จัดตั้งขึ้นที่มี อิหม่ามเฟาซัน หลังปูเต๊ะ และ ภักดี มะแอ เป็นขุนพล โดยผลักดันให้ ”อิหม่ามมัรวาน สะมะอุน” นั่งเป็นหัวจะมาแรง

               แต่หลังจากผลการเลือกตั้งออกมาปรากฏว่า ทีมเก่าที่มี  "สมัย เจริญช่าง" อดีตกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และ ส.ส.ประชาธิปัตย์ กรุงเทพฯ เป็นกุนซือใหญ่ สามารถนำทีม ยึดที่นั่งได้เกือบหมด 29คน เหลือไว้กับคู่แข่งเพียง1ที่นั่ง โดย "อิหม่ามวินัย (มัรวาน) สะมะอุน" สามารถเบียดแทรกมาได้เพียงคนเดียวเท่านั้น 

                คะแนนที่ออกมาไม่เพียงแต่จะเป็นการตอกย้ำคู่แข่งว่าไม่มีน้ำยา........

               แต่ยังหมายถึงเป็นการสร้างฐานเก้าอี้ให้สมาชิกในกรรมการกลางอิสลามชุดใหม่ มั่นคงตามไปด้วย เพราะ”สมัย เจริญช่าง” เป็นคนที่ “อาศีส พิทักษ์คุมพล”จุฬาราชมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย ใว้ใจที่สุดคนหนึ่ง  ถึงขนาดมอบหมายให้ทำหน้าที่แทนในขณะที่ตนเองไม่สามารถปฎิบัติหน้าที่ได้จากอาการป่วย

              สมัย เจริญช่าง จึงถูกวางตัวให้เป็นแกนนำจัดทัพกลุ่มอำนาจเก่า ในคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย โดยจับมือกับ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่  ส.ส.จังหวัดสงขลา พรรคร่วมเดียวกัน(ประชาธิปัตย์) ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการกลกางอิสลามแห่งประเทศไทย  ที่จะนำพลพรรคเข้ามาบริหาร กรรมการกลางอิสลามฯ อีกรอบ ชนิดแทบไม่มีคู่แข่ง

              แม้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้บางจังหวัดจะเปลี่ยนหัวและเปลี่ยนตัวแทนกรรมการกลางฯ บ้างก็ตาม แต่จำนวนที่น้อยนิด ประกอบกับการเดินเกมของกลุ่มอำนาจเก่าที่เหนือชั้น คงไม่กระทบกระเทือนถึงตำแหน่งสำคัญๆในคณะกรรมการกลางฯ

             โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่ง"เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย" ซึ่งเปรียบเสมือนแม่บ้านขององค์กร ที่มี “พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่” นั่งอยู่ 

              หากจะเช็คกำลังพบว่าในสายใต้ หรือ "กลุ่มสะตอ"  รวมถึงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ถือว่าเกือบทั้งหมดยังเป็นคนเก่าแทบทั้งสิ้น จึงไม่น่าจะมีแรงกระเพื่อม

              แม้ว่าในสายเหนือ จะขาดอดีตขุนพลที่ร่วมกันจับมือกับ“ สุรินทร์ ปาลาเร่-สมัย เจริญช่าง “ล้ม “ พิเชษฐ สถิรชวาล “ พ้นจากเก้าอี้เลขาธิการฯไปก่อนน้านี้ จนกลายเป็นรอยร้าวในคณะกรรมการกลาง ฯ ที่รุนแรงครั้งหนึ่ง อย่าง ”ปรีชา อนุรักษ์”  อดีตกรรมการกลาง ตัวแทนจากจังหวัดเชียงราย  จะไม่มีชื่อในการเลือกตั้งนี้ก็ตาม ซึ่งมีฐานกำลังเป็นกรรรมการอิสลามฯสายมุสลิมปาทาน  

                แต่เชื่อว่า ในสายมุสลิมปาทาน ถือว่า ยังกุมสภาพกันแน่น

              ส่วนคู่กัดอย่าง ”ไพศาล พรหมยง”ประธานคณะกรรมการอิสลามจากจังหวัดสมุทรปราการ  “ประดิษฐ์ นิมา”  ประธานคณะกรรมการจากจังหวัดอยุธยาและพวกพ้องจำนวนไม่กี่คน ก็คงทำได้แค่ ”เป็นก้อนกรวดในรองเท้า” ของฝ่ายบริหารในคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยชุดใหม่เท่านั้นเอง

              ทั้งหมดเป็นคำตอบและคำถามที่ว่า...ทำไม กรุงเทพมหานคร จึงแข่งขันกันรุนแรง …???

               เพราะนอกจากเป็นศึกศักดิ์ศรีของ” เฟาซัน หลังปูเต๊ะ” อิหม่ามมัสยิดต้นสน ที่ต้องการล้างแค้น หลังจากที่ถูกคำสั่งคณะกรรมการอิสลามกรุงเทพมหานคร ปลดจากตำแหน่ง ซึ่ง ”เฟาซัน” และพวกเชื่อว่า เบื้องหลังทั้งหมดคนที่วางแผนคือคนที่ชื่อ ”สมัย เจริญช่าง”

              ไม่เพียงเท่านั้น.....!!!!

                เกมนี้..!!! ทุกฝ่ายต่างรู้อยู่ในอก และมองข้ามช็อตไปยังอำนาจในคณะกรรมการกลางฯ เพราะหากไม่มี “สมัย เจริญช่าง” เกมในคณะกรรมการกลางก็อาจเปลี่ยนได้ไม่อยาก

             แม้ว่าการเลือกตั้งผ่านไปแล้ว และ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอำนาจเก่า แถมผู้แทนจังหวัดที่มาเป็นกรรมการกลางฯก็ล้วนเป็นหน้าเดิมแทบทั้งสิ้น

              กระนั้นเชื่อว่ากลุ่มอำนาจเก่าอย่าง ”สมัย-สุรินทร์” คงยังไม่ไว้วางใจซะทีเดียว เพราะต้องรอลุ้นว่า คณะกรรมการกรุงเทพมหานคร 25 คน ที่มีชื่อถูกถอดถอนก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึง “ สมัย เจริญช่าง” ด้วย จะมีผลในทางบวกหรือลบ

              และนี่.....คงเป็นไพ่ใบสุดท้ายที่ ”เฟาซัน หลังปูเต๊ะ”และกลุ่มใหม่ยังคงคาดหวัง  

             แต่ดูเหมือนว่า คนที่เจ็บลึกเห็นจะเป็น” ภักดี มะแอ” ผู้ที่ประกาศอยู่เบื้องหลังหนุน ”ทีมพัฒนามุสลิมกรุงเทพ”ที่อุตส่าห์ยก” วินัย (มัรวาน)สะมะอุน “ มาเป็นหัว หวังสางแค้นเพื่อนรักที่หักเหลี่ยมกันมาหลายรอบ

             ทั้งในสนามการเมือง รวมถึงสนามเลือกคณะกรรมการอิสลามกรุงเทพมหานคร .....แต่ต้องผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า

              หลังจบเกมนี้ ไม่เพียงจะดันให้ ”สมัย เจริญช่าง” เป็นผู้กำชัยชนะในศึกนี้เท่านั้น แต่เป็นการตอกฝาโลงชายที่ชื่อ ”ภักดี มะแอ” ให้เจ็บในอกมิหาย ที่มิอาจสางแค้น “เพื่อนรักหักเหลี่ยม” ที่ชื่อ”สมัย เจริญช่าง”ได้