วานนี้ (21 มี.ค. 67) เวลา 19.00 น. ณ โรงแรมอัล มีรอซ กรุงเทพ ถนนรามคำแหง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน ปี ฮ.ศ. 1445 โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมตรี นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี ผู้แทนเอกอัครราชทูตประเทศมุสลิมประจำประเทศไทย คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และตัวแทนมุสลิมเข้าร่วมงานด้วย นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
เมื่อนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึง นายชาติชาย บัลบาห์ อัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีและเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1445 ซึ่งเป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมในวันนี้ การถือศีลอด เดือนรอมฎอน เป็นการปฏิบัติศาสนกิจตามหลักศาสนาอิสลามที่มีความสำคัญต่อชาวมุสลิมทั่วโลก และเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนสัมผัสได้ถึงหัวใจที่ใกล้ชิดกับองค์พระอัลเลาะห์ อีกทั้ง วาระแห่งเดือนรอมฎอนเป็นโอกาสที่ทุกคนจะได้ระลึกถึงพระคัมภีร์อัลกุรอานที่พระองค์ประทานให้ เพื่อยึดเป็นหลักในการดำรงชีวิต ชำระขัดเกลาร่างกายและจิตใจ ยึดมั่นในการทำความดี การให้อภัยซึ่งกันและกัน การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ อันนำไปสู่ความรัก ความสามัคคี ความสงบสุข และสังคมแห่งสันติภาพ
นายกรัฐมนตรีกล่าวในนามรัฐบาลขอชื่นชมชาวมุสลิมทุกคน ที่ได้ปฏิบัติศาสนกิจตามหลักศาสนบัญญัติได้อย่างเข้มแข็งและเปี่ยมไปด้วยศรัทธาต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ในโอกาสอันเป็นมงคลเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1445 ขออานุภาพขององค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดประทานพรอันประเสริฐให้แก่ชาวมุสลิมทุกคนประสบแต่ความสุขสวัสดี มีความเจริญรุ่งเรือง มีจิตใจที่เข้มแข็ง และสมปรารถนาในสิ่งที่มุ่งหวังทุกประการ จากนั้น นายกรัฐมนตรีมอบกระเช้าผลไม้อบแห้ง (สำหรับเดือนรอมฎอน) เป็นของที่ระลึกแก่จุฬาราชมนตรี และร่วมรับประทานอาหาร
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เดินไปพูดคุยทักทาย พบปะผู้เข้าร่วมในงานนี้ โดยใช้เวลานานพอสมควรก่อนจะเดินทางกลับ