Hot Stories
Home   /   Hot Stories  /   เกาะติดเลือกตั้งกรรมการอิสลาม-สนามกรุงเทพฯเดือด

เกาะติดเลือกตั้งกรรมการอิสลาม-สนามกรุงเทพฯเดือด

                สำนักข่าวอะลามี่ :  เกาะติดเลือกตั้งคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดที่จะเข้นในวันที่ 24 พ.ย.2554 ที่จะถึงนี้  สนามเลือกตั้งกรุงเทพฯคึกคัก กลุ่มใหม่ชู ”มัรวาน สะมะอุน”ชน “อรุณ บุญชม” โดยมีกุนชือที่เคยเป็นอดีตเพื่อนซี้หักเหลี่ยมอยู่เบื้องหลังของสองทีม ”ภักดี มะแอ” และ “สมัย เจริญช่าง” ต่างงัดกลุยทธ์สู้ เพราะงานนี้ไม่มีถอย มีเพียงทีมใดทีมหนึ่งต้องพ่าย

                การเลือกตั้งกรรมการอิสลามประจำจังหวัดที่จะหมดวาระเร็วๆนี้และจะมีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 24พฤศจิกายน 2554 แม้ดูภายนอกจะไม่มีอะไรเคลื่อนไหว แต่ในกลุ่มของคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดและอิหม่ามทั่วประเทศกว่า4000 คนดูเหมือนจะคึกคักเป็นพิเศษ

                โดยเฉพาะการเลือกตั้งคณะกรรมการอิสามกรุงเทพมหานคร ที่ดูเหมือนจะคึกคักเป็นพิเศษ หลังจากที่มีรอยร้าวและแตกแตกกันก่อนหน้านี้ อย่างเห็นได้ชัด จากกรณีที่มีกลุ่มคณะบุคคลยื่นถอดถอนคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร ที่มีนายอรุณ บุญชม นั่งเป็นประธานฯอยู่

                แม้ว่า นายอรุณ บุญชม นั่งเป็นประธาน แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า คนที่ยังมีบารมีเหนือกรรมการอิสลามกรุงเทพมหานคร คือ “สมัย เจริญช่าง” อดีตประธานกรรมการอิสลามกรุงเทพมหานคร และอดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันยิ่งมีบารมีมากขึ้นหลังจากเป็นที่ไว้วางใจจาก นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ซึ่งปัจจุบันมีอาการป่วย ส่งผลให้สุขภาพไม่แข็งแรง ท่านจึงมอบหมายให้นายสมัย ทำหน้าที่แทนแทบทุกเรื่อง

(วินัย สะมะอุน)

                โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในฝ่ายบริหารของคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ที่ถือว่า สมัย เจริญช่าง มีบารมีล้น เพราะมีแรงหนุนจาก พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันเป็น ส.ส.จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์

                ขณะที่กลุ่มอำนาจเก่าอย่าง พิเชษฐ สถิรชวาล ที่ถูกเขี่ยพ้นจากตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการกลาง ซึ่งอดีตถูกมองว่าเป็นสายการเมืองพรรคเพื่อไทย วันนี้ประกาศไม่ขอเดินกลับมาสู้วังวน ในองค์กรศาสนาต่อไป แต่พร้อมจะช่วยเหลือข้างวนอกอย่างห่างๆ

                การเลือกตั้งคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดในครั้งนี้ จึงถูกมองว่าเป็นการแข่งขันสองขั้ว กลุ่มหนึ่งคือกลุ่มอำนาจเก่า และกลุ่มที่สองคือกลุ่มใหม่

                ความจริงกลุ่มอำนาจเก่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือคนเก่าที่เคยสนับสนุน พิเชษฐ สถิรชวาล มาเป็นเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย แต่วันนี้เปลี่ยนขั้วไปหนุน พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ ที่มีแรงหนุนจาก นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี

                ดังนั้นการเลือกตั้งกรรมการอิสลาประจำจังหวัดที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.ซึ่งจะมีการเลิกตั้งพร้อมกันราว 34จังหวัด โดยมีผู้สามารถลงคะแนนซึ่งเป็นอิหม่ามจากทั่วประเทศกว่า 4,000 คน  จึงเป็นการแข่งขันของกลุ่มเก่ากับกลุ่มใหม่ ที่หวังว่าจะมีการเปลี่ยนโฉมในคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยเช่นเดียวกัน                                                                    

                                                                                                                                                                                                                                                                                           (อรุณ บุญชม)

3จังหวัดชานแดนแข่งขันกันหนัก

                การเลือกตั้งครั้งนี้มีพื้นที่น่าจับตามองหลายจังหวัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ 3จังหวัดชายแดนใต้ พื้นที่นี้มีผลประโยชน์จากการได้รับตำแหน่งประธานกรรมการอิสลามฯไม่เฉพาะใน ตำแหน่งทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังมีเอกสิทธิ์ หรือสิทธิประโยชน์ที่เอื้อจากภาครัฐจำนวนมาก อาทิเช่น ที่ปรึกษา ศอ.บต. กองทัพภาคที่4  หรือ แม้กระทั่ง การมีสิทธิประโยชน์ในการเป็น สมาชิกวุฒิสภา และอื่นๆ

                ทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีการแข่งขันกันเข้ามานั่งในตำแหน่งประธานกรรมกากรอิสลามจังหวัด ที่เข้มข้นกว่าจังหวัดอื่น แม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนเงียบสงัดก็ตาม

                นอกจากนี้จังหวัดที่น่าจับตาคือ ฝั่งอันดามัน โดยเฉพาะที่จังหวัดภูเก็ต มีกระแสข่าวว่ามีการแข่งขันกันสูงเช่นกัน เริ่มมีการใช้เงินในการซื้อหัวคะแนนล่วงหน้าแล้ว

    

(ภักดี มะแอ-สมัย เจริญช่าง)

                นายไพศาล พรหมยงค์ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสมุทรปราการ วิเคราะห์ให้ฟังว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งเมื่อ6ปีที่ผ่านมา ถือว่ายังไม่รุนแรง เพราะในยุคนั้นมีการแข่งขันกันสูง  แต่การเลือกตั้งคระกรรมการอิสลามประจำจังหวัด เป็นเรื่องของอิหม่าม ทำให้ประชาชนไม่ค่อยตื่นตัว เพราะไม่มีสิทธิ์ในการเลือกตั้ง

                “วันนี้ที่ต้องตั้งคำถามคือคุณภาพของผู้นำ หรือคุณภาพของอิหม่าม ที่จะเป็นตัวแทนไปเลือกตั้งคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดและเลือกตัวแทนเข้าไปนั่งในคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เรามีผู้นำที่มีคุณภาพแค่ไหน ผู้นำมีวุฒิภาวะแค่ไหน “ไพศาล กล่าวและว่า

                การเลือกตั้งคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดที่จะมีขึ้น ในวันที่24พ.ย.นี้ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงสังคมและเปลี่ยนแปลงองค์กรศาสนาหรือไม่ อยู่ที่ผู้นำหรืออิหม่าม การเลือกตั้งหากสร้างสรรค์และอยู่ในครรลองของกติกา ก็สามารถยอมรับได้ แต่หากกระบวนการที่ไม่โปร่งใส ผิดวิธีอันนี้ จะกระทบกับความน่าเชื่อถือขององค์กรศาสนาในระยะยาว

ศึกกรรมการกลางฯลามกทม.

                การเลือกตั้งคณะกรรมการอิสลามในครั้งนี้ปฎิเสธไม่ได้ว่า สนามที่ถูกจับตามากที่สุดคือ กรุงเทพมหานคร อันสืบเนื่องมาจากการขัดแย้งก่อนหน้านี้ ระหว่างคณะกรรมการกรุงเทพมหานครกับคณะกรรมการบริหารชุดเก่าที่มี พิเชษฐ สถิรชวาล เป็นเลขาธิการฯ เมื่อมีการฟ้องร้องถอดถอดกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร 26คน ออกจากตำแหน่ง หลังจากที่มีการวินิจฉัยว่า คณะกรรมการอิสลามกรุงเทพมหานคร ไม่ปฎิบัติตามคำวินิจฉัยของ อดีตจุฬาราชมนตรี (สวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์)  แต่สุดท้ายเรื่องยืดเยื้อมากว่า2ปี ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ล่าสุด กระทรวงมหาดไทย มีหนังสือเร่งรัดให้ถอดถอน กรรมการอิสลามกรุงเทพมหานคร ทั้ง26 คน แต่ในที่สุด คณะกรรมการอิสลามประชุมวิสามัญ โดยมีมติให้ถอนคำร้องดังกล่าว

               การดำเนินการของคณะกรรมการกลางอิสลามถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการอุ้ม พรรคพวก โดยใช้มติเสียงข้างมาก  ขณะเดียวกัน กลุ่มอำนาจเก่า ทั้งในคระกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานครและในคณะกรรมการกลางฯชุดนี้มองว่านี้เป็นเกมทางการเมือง  ที่สกัดกลุ่มอำนาจเก่าให้พ้นทาง ด้วยเหตุผลไม่พอใจส่วนตัว

             จากนั้นไม่นานก็มีการเอาคืน โดย คณะกรรมการอิสลามกรุงเทพมหานคร สั่งปลดอิหม่ามเฟาซัน  พ้นเก้าอี้อิหม่ามต้นสน โดยวงในระบุว่า เพราะอิหม่ามเฟาซัน เป็น1ในกลุ่มของ พิเชษฐ ที่เป็นคู่แข่งเก่า

              สองเหตุการณ์นี้แม้จะต่างกรรมต่างวาระ แต่ทั้งหมดหากมองความเชื่อโยงล้วนเป็นเรื่องเดียวกัน เพียงแต่ต่างกรรมต่างวาระ จึงนำไปสู่การตั้งทีมใหม่หวังล้มคณะกรรมการกรุงเทพมหานคร ที่เป็นชุดเก่า ที่มีนายอรุณ บุญชม เป็นประธานฯ และมีสมัย เจริญช่าง เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

ชู“มัรวาร สะมะอุน”นั่งประธานกทม.คนใหม่

                ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มใหม่ที่จะลงชิงชัยในสนามเลือกตั้งกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร เป็นที่ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่า เลือกตั้งครั้งนี้จะมี2ทีม คือทีมเก่าที่มีสมัย เจริญช่าง เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง กับทีมใหม่ ที่มี ภักดี มะแอ อดีต เพื่อนซี้ของสมัย โดยจับมือกับ นายพัฒนา  หลังปูเต๊ะ หรือ อิหม่าม เฟาซัน แห่งมัสยิดต้นสน นายวุฒิวัย หวังบู่ อิหม่าม มัสยิดอัล อิดฮาร์ด มีนบุรี   โดยมติที่จะชู นายวินัย (มัรวาน()สะมะอุน อิหม่ามมสยิดกะมาลุ้ลอิสลาม เป็น ประธานคณะกรรมการอิสลามกรุงเทพมหานคร เป็นคู่แข่ง

                อิหม่ามวุฒิวัย หวังบู่ บอกว่า ที่ผ่านมาการทำงานของคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร มีลักษณะครอบงำอิหม่าม และชี้นำโดยใช้อำนาจและผลประโยชน์ต่อรองกับอิหม่าม ทำให้อิหม่าม แทบไม่มีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมกับคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทมหานครเลย

                ดังนั้นคณะกรรมการอิสลามกรุงเทพมหานครชุดใหม่ หากได้รับการคัดเลือกจะเข้าไปลดช่องว่างในตรงนี้ และจะเพิ่มโอกาสให้มัสยิดสามารถมีบทบาทมากขึ้น โดยจะใช้โมเดลของมัสยิดกมาลุ้ล ที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาชุมชน

                “เราจะแบ่งกรุงเทพมหานคร ออกเป็น6 โซน ซึ่งแต่ละโซนไปเลือกตัวแทนมาเป็นผู้สมัครคณะกรรมการกุงเทพมหานคร เขาเลือกคนของเขามาเป็นผู้แทน ซึ่งหลังจากนั้น จะให้แต่ละโซนไปดูแลมัสยิดของแต่ละโซน โดยเราจะเอาเงินจากการเก็บรายได้จากฮาลาล หลังจากหักค่าบริหารจัดการของสำนักงานฯแล้วไปสนับสนุนมัสยิด เพราะเงินก้อนนี้แม้จะน้อยจะมาก เขาควรได้รับส่วนแบ่งไปพัฒนาชุมชน แต่ที่ผ่านมาเงินก้อนนี้ อิหม่ามไม่เคยรู้ ไม่เคยมีส่วนร่วมแต่อย่างใด”วุฒิวัย กล่าวและว่า

                วันนี้ทีมงานได้หารือและเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า จะส่งตัวแทนลงชิงตำแหน่งคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร เพราะไม่สามารถทนเห็นการทำงานขององค์กรศาสนา ที่ถูกครอบงำจากคนบางคน และบางกลุ่ม แม้ว่าทีมเก่าจะมีอำนาจและกุมสภาพมานานแต่เราเชื่อว่าวุฒิภาวะของอิหม่ามยุคใหม่จะทำให้เกิดกากรเปลี่ยนแปลงในคณะกรรมการอิสลามกรุงเทพมหานคร

“มัรวาน “พร้อมรับเป็นหัวขบวน

                สำหรับ นายวินัย (มัรวาน) สะมะอุน อิหม่ามมัสยิดกะมาลุ้ลอิสลาม นับเป็นนักการศาสนาที่ได้รับการยอมรับทั้งในด้านความรู้ และประสบการณ์ เคยทำงานกับอดีตจุฬราชมนตรี มาหลายสมัยทั้ง อดีตจุฬาราชมนตรี อาจารย์ต่วน สุวรรณศาสน์  นายประเสริฐ มะหะหมัด

                และยังเคยดำรงตำแหน่ง รองประธานกรรมการกลางอิสลามแห่ประเทศไทย อดีตเลขาธิการคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย ก่อนจะลาออกจากตำแหน่ง

                อิหม่ามมัรวาน บอกว่า ตนเองไม่เคยกระสันที่จะมีตำแหน่ง เพราะเคยผ่านพ้นตำแหน่งสำคัญมาแล้วหลายตำแหน่ง ซึ่งตามหลักการศาสนาอิสลาม เราไม่สามารถที่จะยกตัวเองเพื่อมีตำแหน่ง แต่หากเป็นความต้องการของสังคม และมีการสนับสนุนให้ทำหน้าที่ก็เป็นเรื่องของผู้สนับสนุน

                “ หากการเข้ามาทำหน้าที่ในตำแหน่งประธานคณะกรรมการอิสลามกรุงเทพมหานครแล้ว สามารถจะทำประโยชน์กับสังคม และเกิดการเปลี่ยนแปลงขององค์กรก็พร้อมจะเข้ามาทำงาน หากมาอยู่แล้วไม่สามารรถทำประโยชน์ได้ ก็พร้อมจะให้คนอื่นมาทำหน้าที่ต่อไป” อิหม่ามมัรวาน กล่าว

            สนามเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร เป็นที่จับตาว่าจะเป็นโมเดลของการเปลี่ยนแปลง ได้หรือไม่ อยู่ที่ภาวะการเป็นผู้นำของอิหม่าม ทั้งกว่า150คน ที่มีสิทธิ์เลือก ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องจับตาว่า....การเมือง....จะแทรกมากน้อยแค่ไหน