ยางราคตกฮวบแตะที่ 77.50บาท
สำนักข่าวอะลามี่ : เศรษฐโลกผันผวนผู้ซื้องดสั่งนำเข้า ส่งผลให้ราคายางตกต่ำลงมาแตะที่ 77.50 บาท ด้าน สกย.แนะรัฐนำเงิน8,000ล้านออกมาแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ เพื่อซื้ยางเข้าสต๊อค2แสนตันเพื่อพยุงสถานการณ์ราคายางให้มีเสถียรภาพ
นายสุนันท์ นวลพรมสกุล หัวหน้าสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางอำเภอสะเดา (สกย.) สำนักงาน สกย.เขต 1 จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า สถานการณ์ยางขณะนี้ราคาได้ขยับลงมาก โดยราคาตลาดกลางยางหาดใหญ่ เหลือ 77.50 บาท / กก. เหลือมาเท่ากับราคาต้นทุนการผลิต โดยราคาต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 77 บาท / กก. ในขณะที่ตลาดท้องถิ่นรับซื้ออยู่ที่ 75 บาท เท่ากับชาวสวนรยางขาดทุน 2 บาทในขณะนี้
“แนวโน้มสถานการณ์ยางราคาจะเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ และหลังจากนี้ต้องดูสถานการณ์อีกครั้งว่าจะเป็นเช่นไร”
นายสุนันท์ กล่าวอีกว่า ปัจจัยที่ราคายางได้วูบลงขนาดหนัก เนื่องจากปัจจัยทางอุตสาหกรรมยานยนต์หลายแห่งทั่วโลก จีน ยุโรป อิตาลี และ ประเทศ กรีช ประสบปัญหา จึงมีการชะลอการผลิต ตลอดไปจนถึงล้อรถยนต์ อะไหล่รถยนต์ ตลอดถึงคอมพิวเตอร์ เป็นต้น จึงส่งผลกระทบไปหมด ประเทศจีน เป็นเจ้าตลาดรายใหญ่ของไทย จึงชะลอการซื้อยางจากไทย
“เรื่องราคายางเป็นกลไกการตลาด รัฐบาลสามารถสนับสนุนช่วยเหลือได้ระดับหนึ่ง โดยรัฐบาลจะสามารถช่วยเหลือได้ คือ การต่ออายุโครงการสนับสนุนสถาบันเกษตรกรแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่ม งบประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้ได้หมดอายุไปแล้ว รัฐบาลต้องเอานโยบายนี้มาใช้อีกครั้ง ซึ่งจะทำให้ยางอยู่ใน สต๊อกเกษตรกรได้ถึง 200,000 ตัน แล้วจะช่วยสนับสนุนให้ยางมีราคาที่เสถียรภาพ”
นายสุนันท์ กล่าวอีกว่า การที่บรรดาผู้ค้ายาง ตลอดจนถึงสหกรณ์ต่าง ๆประสบภาวะขาดทุนในขณะนี้เนื่องจากระยะเวลา เพราะต้องซื้อน้ำยางสดในราคา 78 บาท / กก. เพื่อทำการแปรรูปแต่เมื่อนำมาแปรรูปเป็นยางแผ่นดิบต้องใช้ระยะเวลา 7 วัน ในขณะนั้นราคายางแผ่นดิบได้ลดลงมาอยู่ที่ 71 บาท / กก. จึงมีการขาดทุนไป 6 บาท / กก. หากเวลาขาขึ้นก็จะมีกำไรที่ดี แต่ในช่วงขาลง ก็ประสบกับภาวะขาดทุน แต่หากซื้อมาขายไปก็ไม่มีปัญหา ซึ่งเป็นกลไกของการตลาด
“ราคายางในขณะนี้ราคาที่เป็นจริงคือ น้ำยางสดจะอยู่ที่ 85 – 90 บาท / กก. ยางแผ่นดิบ 90 -100 บาท / กก. และยางรมควัน 110 – 120 บาท / กก.” นายสุนันท์ กล่าว.