ชาติ จินดาพล

มิสเตอร์คอนเนคชั่น แถวหน้าเมืองไทย

        เส้นทางชีวิตของคนที่แตกต่างกันไป กว่าจะเป็นนักธุรกิจผู้มากด้วยประสบการณ์ต้องผ่านการทดสอบมากมาย วันนี้เขามีบทบาทในวงการธุรกิจมุสลิม จนมีการกล่าวขานกันว่า เขาคือ ..มิสเตอร์คอนเนคชั่น ..แถวหน้าของเมืองไทย

          ในแวดวงสังคมมุสลิม น้อยคนจะไม่รู้จัก “ ชาติ จินดาพล ” แต่ยังมีบางมุมความเป็นตัวตนที่น้อยคนจะรู้ว่าเขาเป็นใคร นิตยสาร ดิ อะลามี่ ฉบับนี้ นำท่านมาทำความรู้จักในมุมมองและวิธีคิดในฐานะนักธุรกิจแถวหน้าอีกคนของมุสลิมไทย ซึ่งหลายคนอาจจะรู้จักเขาในนาม “ มิสเตอร์คอนเนคชั่น ”

          ชื่อของ “ ดร. เซอร์.ชาติ จินดาพล ” เป็นที่รับรู้และรู้จักกว้างขวางมากขึ้น หลังจากเขาได้พบกับ พิเชษฐ สถิรชวาล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และช่วยกันทำงานทางการเมืองจนทำให้พรรคไทยรักไทยสามารถปักธงได้ในจังหวัดพังงา คือนายกฤษ สีฟ้า อดีตผู้แทนราษฎรจังหวัดพังงาคนเดียวในภาคใต้ของพรรคไทยรักไทย ในสมัยนั้น

           และเขาเองเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ พิเชษฐ สถิรชวาล ผันตัวเองเข้ามาในสังคมมุสลิม ด้วยการได้รับการคัดเลือกให้เป็น “ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ” เมื่อประมาณปี 2548

           จากนั้น “ชาติ” ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเลขาฯ ทำงานควบคู่กับ พิเชษฐฯ ในช่วงเป็นเลขาธิการฯได้ระยะหนึ่งก็ปลีกตัวออกมาเพราะต้องไปทำธุรกิจส่วนตัว แต่ก็ยังเข้าไปหารือและช่วยงานตามที่ถนัด

           “ ในตอนนั้น ได้ช่วยวางเป้าหมายไว้หลายอย่าง โดยเฉพาะการผลักดันสินค้าฮาลาลไทย ไปยังต่างประเทศ แต่เสียดายที่ คุณพิเชษฐ สิ้นสุดการเป็นเลขาธิการคณะกรรมการกลางฯ เสียก่อน เมื่อมีกลุ่มใหม่เข้ามาบริหาร ก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรอีกเลย ” ชาติ จินดาพล กล่าวและว่า

            ในขณะที่เป็นผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เราได้ประสานขอการสนับสนุนงบประมาณจาก ท่านอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในขณะนั้น (คุณประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์) ในยุคที่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาล จัดงาน “เวิล์ดฮาลาลกรองเกรซ”  ที่สยามพารากอน เมื่อปี 2553 งานดังกล่าว ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องกับวงการฮาลาลโลก มาร่วมงานมากกว่า 20 ประเทศ ทำให้ประเทศไทยได้เป็นที่รับรู้ และรู้จักในแวดวงฮาลาลระดับโลกมากขึ้น

            ต่อมาในช่วงที่ พิเชษฐ สถิรชวาล เป็นผู้แทนการค้าไทย ในสมัยรัฐบาลที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ “ ชาติ จินดาพล ” ได้ติดตามไปทำงานในฐานะที่ปรึกษาผู้แทนการค้าไทย

         “ สำหรับบทบาทสำคัญที่ดำเนินการในฐานะที่ปรึกษาผู้แทนการค้าไทย คือ ทำหน้าที่เจริญสัมพันธ์ไมตรี และทำการค้าทั้งในและต่างประเทศ  และการจัดตั้งสำนักงานผู้แทนการค้าไทยใน 6 มณฑลรัฐ ประเทศจีน โดยมีเป้าหมายว่าจะจัดตั้ง 1 มณฑล 1 สำนักงาน “ ชาติ กล่าวและว่า

           นอกจากนั้นยังได้ประชุมร่วมกับรัฐบาลปากีสถาน ทั้งที่เมืองการาจี และเมืองอิสลามาบัด เพื่อเจริญสัมพันธ์ทางการค้า และยังเดินทางไปประเทศอิหร่าน ทำแผนพัฒนาความร่วมมือระหว่างไทยกับอิหร่าน ในที่สุด นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรับมนตรี ในยุครัฐบาลพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา ได้ต่อยอดและลงนามความร่วมมือในการเปิดสายการบินของอิหร่าน กรุงเทพ-เตะหะราน มาจนถึงทุกวันนี้

            ชาติ จินดาพล เป็นที่รู้จักกว้างขวางทำให้เขาหันมาทำธุรกิจอย่างจริงจังด้วยการจดทะเบียน บริษัท ไทย โกลบอล อินเตอร์เทรด จำกัด โดยเขานั่งในตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร ดำเนินธุรกิจกาค้าและส่งออกสินค้าไปทั่วโลก อีกทั้งดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาด้านการค้าการลงทุน และทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ อีกด้วย

            “ จากประสบการณ์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย และในฐานะที่ปรึกษาผู้แทนการค้าไทย ทำให้เราได้พบกับนักธุรกิจในระดับนานาชาติ ได้มองเห็นโอกาส จึงทำให้มีออเดอร์สินค้าส่งออกไปยังต่างประเทศจำนวนมาก ”

              แม้จะพ้นจากการทำงานให้กับรัฐบาล แต่ด้วยสายสัมพันธ์กับต่างชาติที่สั่งสมมานานชาติ จินดาพล ได้จับธุรกิจส่งออกสินค้าไทยไปต่างประเทศ โดยเฉพาะการส่งสินค้าไทยไปยังประเทศอาหรับ เช่น ประเทศบาร์เรน สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ โอมาน และเอธิโอเปีย  

              นอกจากนี้ บริษัท ฯ ยังเป็นตัวกลางประสานให้ให้ผู้ค้าพบกับผู้ซื้อโดยตรง โดยบริษัทฯหน้าที่เป็นนายหน้าเพื่อติดต่อด้านการค้า อีกทั้งยังนำนักลงทุนเข้ามาในประเทศไทย รวมถึงยังมีการนำคู่ค้าจากประเทศต่างๆ มาจับคู่ทางธุรกิจ อีกด้วย

             ในฐานะนักธุรกิจ เขามองจุดอ่อนและจุดแข็งของประเทศไทยว่า จุดแข็ง คือ ประเทศไทยมีความสมบูรณ์ มีสินค้าและวัตถุดิบด้านอาหาร โดยเฉพาะอาหารฮาลาลจำนวนมาก และเป็นที่ต้องการของทั่วโลก แต่จุดอ่อนก็คือ รัฐบาลจะต้องเข้ามาสนับสนุนภาคเอกชนและฮาลาลไทยอย่างจริงจัง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยมีกระทรวง และกรม จำนวนมาก ที่รับงานด้านฮาลาลจากรัฐบาล ทำให้เกิดการแข่งขันแย่งชิงกันสร้างผลงานจนขาดเอกภาพ

             ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลสนับสนุนอุตสาหกรรมฮาลาล อย่างมีกระบวนการและแบบบูรณาการในการทำงาน โดยจัดตั้งหน่วยงานฮาลาลกลาง ที่ขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจุบันมีการส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวเชิงฮาลาล ตามมา ดังนั้นเพื่อป้องกันการเข้าใจผิดอย่างกรณีการร้องเรียนเรื่องเครื่องหมายฮาลาล ทั้งนี้รัฐบาลควรเป็นเจ้าภาพ

             “ ผมอยากให้ดูตัวอย่างประเทศผู้ส่งออกสินค้าฮาลาล ในหลายประเทศ อาทิเช่น อาเจนติน่า ออสเตรเลีย บราซิล แคนนาดา และอื่นๆ ประเทศเหล่านี้ไม่ใช่ประเทศมุสลิม แต่เขากลับเป็นผู้ส่งออกสินค้าฮาลาลรายใหญ่ของโลก ประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน เราสามารถพัฒนาไปสู่การเป็นผู้ส่งออกสินค้าฮาลาลรายใหญ่ได้ หากมีการพัฒนาที่ถูกทิศถูกทาง ”  

              ชาติ กล่าวย้ำถึงบทบาทของ บริษัท ไทย โกลบอล อินเตอร์เทรด ที่เขาบริหารทุกวันนี้ยังมีการสานสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยการจับมือกับนักธุรกิจในดูไบ นำสินค้าไทย ส่งกระจายไปทั่วทั้งอาหรับ

              สำหรับในประเทศกัมพูชา เราจับมือกับกลุ่มผู้นำในประเทศกัมพูชาและนักธุรกิจกัมพูชา ลงทุนในด้านต่างๆ อาทิเช่น การลงทุนด้านพลังงานไฟฟ้า การก่อสร้าง คาดว่าในปี 61 เราจะมีการลงนามสัญญา 2 โครงการ

              “ และล่าสุด เราจับมือกับ บริษัท อะลามี่ คอร์ปอเรชั่น หรือ ACORP ผู้บริหารพื้นที่ ฮาลาลโซน ร่วมกับ PWT ในโครงการตลาดต่อยอด AEC Trade Center เพื่อนำสินค้าในฮาลาล โซน สร้างโอกาสการค้าและการส่งออกสินค้าไปไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ” ชาติ กล่าว

                หากจะย้อนดูประวัติของ “ชาติ จินดาพล “ เขาเกิดที่ตำบลโคกกลอย อำเภอตะกั่วทุ่งจังหวัดพังงา พ่อเป็นคนในตระกูล “จินดาพล” ที่ได้เข้ามารับอิสลาม และแต่งงานกับแม่ ปักหลักใช้ชีวิตที่พังงา

                 เส้นทางชีวิตของ ชาติ จินดาพล ไม่ได้ราบเรียบหรืออาจพูดได้ว่าถึงขั้นลำบากก็ว่าได้หลังจากเขากำพร้าพ่อตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชน ทำให้ชีวิตในวัยเด็กต้องดิ้นรนเพื่อให้ชีวิตอยู่รอด และมีส่วนกระทบถึงด้านการเรียน เขาจึงต้องออกจากโรงเรียนเพียงชั้น ม.2 

             “ หลังจากออกจากโรงเรียน ก็มาทำงานหาเลี้ยงชีพและหวังช่วยครอบครัว โดยติดตามญาติเข้ามากรุงเทพ ปักหลักอยู่ย่านบางกะปิ และได้เดินทางไปค้าขาย เป็นพ่อค้าเร่ในภาคอีสานหลายปี จากนั้นได้กลับไปยังภูเก็ต แต่ยังวนเวียนกับการขายของให้กับนักท่องเที่ยวตามชายหาด เป็นสินค้าประเภทแว่นตา นาฬิกา ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ”

               การขายสินค้าตามชายหาดให้กับนักท่องเที่ยว ทำให้เขาได้พัฒนาด้านภาษาอังกฤษ จนสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี และยังทำให้ได้พบกับบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกหลายคน

               ชาติ บอกว่า การเป็น “ พ่อค้า ” ขายสินค้าให้กับนักท่องเที่ยวตามชายหาด การได้พบปะผู้คนที่หลากหลาย ทำให้ได้เปลี่ยนมุมมองของชีวิตได้กว้างไกลขึ้น เขาเริ่มมองไปสู่ระดับโลก และมีความคุ้นชินกับการปฏิสัมพันธ์กับชาวต่างชาติ ซึ่งส่งผลต่อการทำธุรกิจในเวลาต่อมา

              จากโลกที่เปิดกว้างขึ้น ทำให้ได้มองเห็นถึงช่องทางธุรกิจมากขึ้น จากการขายของให้กับนักท่องเที่ยวตามชายหาดภูเก็ต เขาได้ผันตัวเองไปทำธุรกิจเป็นนายหน้าขายที่ดิน วิ่งรอกกรุงเทพฯ-ภูเก็ต

             “ ที่ดินผืนแรก ที่ผมขายได้เป็นที่ดินแถบย่านบางกะปิ โดยขายให้กับเศรษฐินีเจ้าของร้านอาหารช่อชะมวง ที่โด่งดังเมื่อกว่า 20 ปีก่อน ผมได้รับคำแนะนำให้ได้มาพบกับเธอ ได้เข้าไปพบและบอกขายที่ดิน และท่านก็ได้ตกลงซื้อที่ดินที่ผมนำเสนอขาย ที่ดินผืนนี้คืองานชิ้นแรกที่ผมทำสำเร็จ ” ชาติ กล่าว

               ด้วยสภาพที่เมืองภูเก็ต เป็นเมืองที่มีการขยายตัวรวดเร็วและเป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังของโลก ส่งผลให้ธุรกิจนายหน้าค้าที่ดินของ ’ชาติ จินดาพล’ เฟื่องฟูไปด้วย เขามีรายได้เป็นกอบเป็นกำ สร้างฐานะให้ดีขึ้นตามที่คาดหวัง

              แม้ในวัยเด็กต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน แต่เมื่อประสบผลสำเร็จ ส่วนหนึ่งผมก็ไม่ลืมที่จะศึกษาต่อ ซึ่งเขาก็ได้กลับไปเรียนต่อการศึกษานอกโรงเรียนจนจบชั้น ม.6 จากนั้น ก็เรียนต่อในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ใช้เวลาเรียนอยู่หลายปี ซึ่งเรียกได้ว่า “...การศึกษายังไม่สาย หากต้องการจะเรียน..”

              ด้วยเป็นนักธุรกิจที่มีสายสัมพันธ์กับต่างประเทศ และทำงานทางสังคมมายาวนาน ทำให้เขาได้รับการแต่งตั้งตำแหน่งสำคัญ นั่นคือ “ อัศวินแห่งมอลต้า ” หรือตำแหน่ง “ เซ่อร์ “ ในปี 2557 ตำแหน่งนี้ได้รับจากรัฐบาลมอลลต้า สำหรับคนที่ทำคุณประโยชน์แก่ประชาชนในประเทศต่างๆ ทั่วโลก Knight Of Malta

              การนำประสบการณ์และการมีโอกาสทำงานทางการเมือง องค์กรศาสนา นำมาเติมเต็มและเสริมศักยภาพของสินค้าไทยและธุรกิจมุสลิมไปสู่ตลาดโลก

               นี่คือส่วนหนึ่งของการสนทนากับ  “ ชาติ จินดาพล ” จากเด็กกำพร้าที่ขาดโอกาส ต้องต่อสู้ดิ้นรนถีบตัวเองเพื่อหาเลี้ยงชีพ และจากประสบการณ์ที่หลากหลายทำให้เขาก้าวสู่การเป็นนักธุรกิจ จนเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป เรียกได้ว่า ... “มิสเตอร์คอนเนคชั่น แถวหน้าของเมืองไทย” ก็ว่าได้

ตีพิพม์ครั้งแรก : นิตยสาร ดิ อะลามี่ ฉบับกันยายน 2561