เผยธุรกิจฮาลาล มาแรง ติด 1/8 เทรนด์ธุรกิจใหม่เอเชีย
สหพันธ์การตลาดแห่งเอเชีย Asia Marketing Federation (AMF) และ สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย จัดทำรายงานพิเศษ “ 8 เทรนด์การตลาดแห่งเอเชียที่น่าจับตามองในปี 2561” โดยสังเคราะห์สภาพแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงของตลาดในภูมิภาค ภายใต้การริเริ่มของ เฮอมาวัน การ์ตาจายา กูรูด้านการตลาดชั้นนำของเอเชีย แนวโน้มที่น่าสนใจ ประกอบด้วย
1. ดิจิทัลเทคโนโลยี และ IoT (.Digital technology and IoT cast a profound impact on marketing practices ) ส่งผลกระทบอย่างสูงกับการปฏิบัติทางการตลาด โดยเฉพาะธุรกิจแบบ consumer-to-consumer business ได้โอกาสทางการขายเพิ่มขึ้นมหาศาลผ่านออนไลน์ ขณะที่นักการตลาดพัฒนาการสื่อสารกับผู้บริโภคแบบตัวต่อตัวเข้าถึงทุกคนได้พร้อมกัน ปลดล็อกรูปแบบการตลาดเดิมๆ อุปกรณ์ใหม่
อาทิ Smart TV, PCs, Smartphones, Tablets, Drones, Virtual Reality, Personal Robots แพร่หลาย เป็นโอกาสให้นักการตลาดนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) ใช้เป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาสินค้าและบริการให้มีแม่นยำ มีประสิทธิภาพสูงทั้งด้านเวลาและการลงทุน
การตลาดเอเชียกำลังก้าวสู่ยุคการตลาดดิจิทัลเต็มรูปแบบด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีใหม่ทั้ง Internet of Things (IoT) ecosystem การเข้าสู่ยุค cloud-based era และโซลูชั่นใหม่ทางการสื่อสาร เช่น fixed mobile convergence (FMC) เชื่อมต่อระบบโทรศัพท์พื้นฐานและโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นหนึ่งเดียว เปิดโอกาสให้โมเดลธุรกิจใหม่ๆ
2.การผสานกันอย่างกลมกลืนระหว่างหัวใจผู้ประกอบการและการตลาด “Entrepreneurship” ( The integration of entrepreneurship and marketing is inevitable) เป็นกุญแจความสำเร็จทางการตลาด ในยุค VUCA (volatility, uncertainty, complexity, and ambiguity) บริษัทขนาดกลางและเล็กยิ่งต้องนำ entrepreneurial marketing หรือ การตลาดเชิงผู้ประกอบการมาใช้ ทั้งการมุ่งสร้างสินค้าใหม่ เปิดตลาดใหม่ เห็นโอกาสใหม่ และ สร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้าและรูปแบบการตลาดใหม่เพื่อชนะใจผู้บริโภค
3.พลังของคนรุ่นใหม่ผ่านออนไลน์และโซเชียลมีเดีย (Influence of younger generation with online and social media culture is unstoppable ) แพลตฟอร์มสำคัญส่งผลการเติบโตของธุรกิจทุกส่วน โดยใช้ร่วมกับ Content Marketing โดยเฉพาะผู้บริโภค Gen Y และ Z แม้คนในสังคมใช้โซเชียลมีเดียมากขึ้นแต่มีความเป็นปัจเจกนิยมมากขึ้นเช่นกัน เป็นจุดกำเนิดของ Celebgrams หรือ ผู้บริโภคที่ผันตัวมาเป็นผู้นำความคิดทางออนไลน์
4.บริษัทต่างๆ เริ่มหันมาพิจารณาเรื่องผลตอบแทนทางการตลาด หรือ return-on-marketing (ROM) อย่างจริงจัง ( Companies are getting more concerned about their return-on-marketing (ROM) ในยุคนี้มีเครื่องมือเทคโนโลยีการวิเคราะห์การตลาดที่ซับซ้อน รวมถึงการนำข้อมูล Big Data มาใช้ ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมีประสิทธิภาพสูง บริษัทได้รับ Hit Rate จำนวนมากและแม่นยำ นำไปสู่ผลตอบแทนทางการตลาดที่สูงและมีประสิทธิภาพกว่า
5.การขยายตัวของตลาดฮาลาล ( Halal market is getting bigger) ครอบคลุมตั้งแต่หมวดอาหาร ความงาม แฟชั่น ท่องเที่ยว การเงินและการธนาคาร โดยมีปัจัยมาจากกำลังซื้อของประชากรมุสลิมที่มีมากในทวีปเอเชีย ( 60% ของประชากรมาเลเซีย) และ 4 ใน 5 ประเทศ ที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลกอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ อินเดีย ปากีสถาน อินโดนีเซีย และ บังคลาเทศ
6.ยุคแห่งการสร้างประสบการณ์ของผู้บริโภค (Customer experience era is here to stay ) ทุก Touch Points เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง รวมทั้งเทรนด์ Omni-Channel หรือ การผนวกช่องทางออนไลน์กับออฟไลน์เข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อสำคัญมาก เช่น บนเว็บไซต์ โมบาย หน้าร้าน การบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า การรับชำระเงิน เพื่อสร้างประสบการณ์ซื้อขายที่ดีให้ลูกค้า
7.การเกิดขึ้นของ Fintech นำไปสู่สังคมไร้เงินสด (Fintech is proliferating resulting in a more advanced cashless society ) ที่แท้จริงธุรกรรมการเงินจะสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ผ่าน online transactions และ mobile payment gateways ที่ปลอดภัยและทันสมัย ฟินเทคจะแข็งแกร่งขึ้นและส่งผลกระทบสูงต่อระบบธนาคาร ที่ต้องทบทวนความพร้อมให้บริการทางดิจิทัลและรองรับธุรกิจที่เป็น digital base
8. การเติบโตของกลุ่ม Young Entrepreneurs ( Number of young entrepreneurs is increasing) นักศึกษามหาวิทยาลัย และคนรุ่นใหม่ ทำธุรกิจในรูปแบบต่างๆ และ เทรนด์การเติบโตของผู้ประกอบการอิสระรุ่นใหม่ที่เพิ่มมากขึ้น นำไปสู่การเติบโตของธุรกิจออนไลน์ การแสวงหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์
อย่างไรก็ดี อัตราความล้มเหลวของ Start Up นั้นสูงมากเช่นกัน สิ่งสำคัญ คือ การตั้งเป้าหมายทางสังคมที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี
ที่มา : http://asiamarketingfederation.org/