ช๊อค....” ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ”หัวใจวายตาย
สำนักข่าวอะลามี่ : (30 พ.ย.60) ในห้องประชุมศูนย์การประชุมไบเทค บางนา ช่วงบ่ายของวันนี้ บรรยากาศเงียบและอึมครึมเป็นพิเศษ หลังจากที่ รศ.ดร.ปกรณ์ ปรียากร ” ประธานจัดงาน Thailand Halal Assembly 2017 ประกาศบนเวทีว่า “ เราเสียบุคคลสำคัญ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ”
รศ.ดร.ปกรณ์ ปรียากร” ได้โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว ว่า วันนี้เป็นวันแห่งความโศกเศร้าที่สุดอีกวันหนึ่งในชีวิต ผมเป็นประธานจัดงาน Thailand Halal Assembly 2017 ซึ่งท่าน ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ จะมาเป็นประธานในพิธี,
“ เมื่อวานนี้ผมโทรศัพท์ไปแจ้งเรื่องที่ท่านจะต้องมาเป็นประธาน แทนรองนายกรัฐมนตรี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ดร.สุรินทร์ บอกเมื่อวานตอนบ่ายจะกลับไปนครศรี แล้วจะกลับมาเช้าวันนี้ โดยจะมาถึง ไบเทค เวลา 14.00 น.” รศ.ดร.ปกรณ์ กล่าวและว่า
พวกเราเตรียมการทุกอย่างเพื่อต้อนรับ เวลา 13.40 น. มีผู้มาแจ้งว่า ดร.สุรินทร์ เข้า รพ.รามคำแหง มีอาการเจ็บหน้าอก
“ พวกเราตกใจมาก แต่ก็แก้ปัญหาเกี่ยวกับพิธีการเปิดงาน โดยท่านจุฬาราชมนตรี ทำหน้าที่เป็นประธาน “
พิธีผ่านไป จนมาถึงคิวที่ผมจะต้องกล่าวเปิดงาน ระหว่างนั้น ดร.วินัย ดะห์ลัน วิ่งมาบอกว่า ดร.สุรินทร์ เสียชีวิตแล้ว คงต้องประกาศให้ผู้เข้าร่วมงานทราบ. ผมตกใจอย่างมากตัวเย็นเฉียบ ขาสั่น ไม่รู้จะพูดอย่างไร
หลังจากระงับความรู้สึกได้ จึงถึงคิวที่ผมจะต้องขึ้นเวที
พอขึ้นเวทีจึงประกาศบอกกับที่ประชุมว่า “ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ” จากพวกเราไปแล้ว
ทำให้แขกที่อยู่ในห้องประชุมไบเทคบางนา จำนวนมาก เงียบ และตกใจกับข่าวดังกล่าว ซึ่งหลังจากทราบข่าวทำให้บรรยากาศในห้องประชุมกลายเป็นเงียบขรึม และต่างก็แสดงความเสียใจกับการจากไปของ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ
ขณะ นางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ น้องสาว กล่าวว่า ดร.สุรินทร์ พี่ชาย เพิ่งเดินทางกลับจากไปเยี่ยมแม่ ซึ่งป่วยเข้ารับการผ่าตัดที่ รพ.ใน จ.นครศรีธรรมราช กลับถึงกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 29 พ.ย. จนกระทั่งวันนี้ ( 30 พ.ย.) ขณะนั่งคุยกับภรรยา ที่ อพาร์ตเมนต์ย่านรามคำแหง ดร.สุรินทร์ บ่นว่าเจ็บหน้าอก ก่อนจะฟุบลงไป ภรรยาจึงเรียกรถพยาบาลนำส่ง รพ.รามคำแหง
โดยขณะที่นำส่งโรงพยาบาล มีแพทย์มากับรถฉุกเฉินด้วย จนไปถึงโรงพยาบาลรามคำแหง มีการช่วยชีวิตด้วยวิธีต่างๆ ประมาณ 1 ชั่วโมง สุดท้าย ดร.สุรินทร์ ได้ถึงแก่อนิจกรรม ในช่วงเวลา 15.07 น. วันที่ 30 พ.ย. 60 ท่ามกลางความโศกเศร้าของภรรยา บุตรชาย ญาติพี่น้อง
ขณะที่ ฟารีด พิศสุวรรณ หลานชาย ดร.สุรินทร์ กล่าวว่า ข้อความสุดท้าย ที่ได้คุย กัน เมื่อค่ำวานนี้ ว่า “ ทุกคนอย่าอยู่เพื่อทำประโยชน์ส่วนตนให้อยู่เพื่อทำประโยชน์ส่วนรวม" ซึ่งคำพูดดังกล่าว เร็วไป ไม่คิดว่า จะกลายเป็นคำสั่งเสีย
ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ หรือ ชื่อเป็นมุสลิมว่า อับดุล ฮาลิม บิน อิสมาอิล พิศสุวรรณ ( Abdul Halim bin Ismail Pitsuwan) เป็นนักการเมืองชาวไทยมุสลิม ในอดีตเคยดำรงตำแหน่ง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลชวน หลีกภัย และตำแหน่ง เลขาธิการอาเซียน
สุรินทร์ พิศสุวรรณ เกิด วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2492 ที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีบิดาเป็นครูสอนศาสนาอิสลาม ศึกษาระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดบ้านตาล ศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช และ โรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช
เขา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแคลร์มอนต์ สหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ. 2515
ปริญญาโท สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (พ.ศ. 2517) และปริญญาเอกด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (พ.ศ. 2522) เริ่มอาชีพนักวิชาการในตำแหน่งอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ระหว่าง พ.ศ. 2518-2529
ดร.สุรินทร์ ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 ที่โรงพยาบาลรามคำแหง ด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน สิริอายุได้ 68 ปี
สำหรับพิธีศพ เดิมจะทำพิธีตามหลักศาสนาอิสลาม ที่บ้านย่าน ต.ท่าอิฐ จ.นนทบุรี แต่ญาติแจ้งว่า ขณะนี้กำลังปรึกษากัน และอาจนำศพกลับไปที่บ้านเกิด จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากมารดากำลังป่วย และรักษาตัวอยู่ที่นั่น.
“ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ “ คือคนที่ผลักดันตัวเองจากเด็กบ้านนอก ก้าวสู่ตำแหน่งสำคัญในระดับชาติ และก้าวสู่บุคคลสำคัญในระดับอาเซียนและเป็นที่ยอมรับของผู้คนทั่วโลก