ชมรมธุรกิจท่องเที่ยวไร่เลย์  ฟันเฟืองเล็กๆสู่การพัฒนาท่องเที่ยวยั่งยืน

           สำนักข่าวอะลามี่ : หากกล่าวถึงกระบี่ “ ไร่เลย์”  คืออีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ มักจะนิยมมาเยือนและไปสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติ

           แต่ในความสวยงามและการยังคงถึงธรรมชาตินั้น คงมิอาจยั่งยืน หากไม่ผ่านการคิดและทบทวน รวมถึงกระบวนการความร่วมมือของผู้ประกอบการทั้ง19 ราย ที่ตระหนักและเห็นถึงความสำคัญในการร่วมกันรักษาความเป็นธรรมชาติเอาไว้

          นายสมบูรณ์ หง้าฝา เจ้าของธุรกิจโรงแรม ในฐานะประธานชมรมธุรกิจท่องเที่ยวไร่เลย์  บอกว่า ไร่เลย์ เป็นพื้นที่พิเศษและถูกบรรจุในปฏิทินการท่องเที่ยว อยู่ในพื้นที่ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จ.กระบี่ แม้ว่าจะเป็นพื้นที่เกาะ แต่ก็ห่างจากแผ่นดินใหญ่ไม่มากนัก แต่นั่นการเดินทางไปหาดไร่เลย์ สามารถเดินทางได้ทางเดียวคือ โดยทางเรือ

            “ ช่วงไฮซีซั่น จะใช้เรือโดยสารขนาดเล็กหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า เรือหัวโทง โดยนักท่องเที่ยวสามารถมาใช้บริการและขึ้นเรือจากท่าเรืออ่าวน้ำเมา “

             สมบูรณ์ กล่าวว่า หาดไร่เลย์ เป็นที่รู้จักดีในหมู่นักท่องเที่ยว สำหรับไร่เลย์นั้น จะแบ่งออกเป็น หาดไร่เลย์ตะวันออก (หาดน้ำเมา) และหาดไร่เลย์ตะวันตก ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว เพราะที่นี่น้ำทะเลใส หาดทรายสวย และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามแห่งหนึ่งของกระบี่

              สำหรับกิจกรรมสำคัญของนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนที่นี่ส่วนใหญ่จะนิยมปีนหน้าผา เพราะที่หาดไร่เลย์ มีผาหินปูนจำนวนมากมายสามารถทำได้ทั้งปี ซึ่งบริเวณที่นิยมปีนผา คือ ไร่เลย์ฝั่งตะวันนออก อ่าวต้นไทร และ เขาแถวถ้ำพระนางใน

              จากสถานการณ์การท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลง ทำให้ผู้ประกอบการบนหาดไร่เลย์ ก็ขยายตัวเพิ่มขึ้น ในขณะที่สภาพภูมิประเทศ ซึ่งเป็นเกาะ ยังมีที่ดินเท่าเดิม ทำให้สภาพสิ่งแวดล้อม เริ่มเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย

               “ ปัจจุบันหาดไร่เลย์ มีผู้ประกอบการจำนวน 19 ราย มีห้องพักรองรับนักท่องเที่ยวประมาณ 1,000 ห้อง มีให้เลือกหลากหลายราคาแตกต่างกันไป ตั้งแต่ราคา 1200-1,500 บาท จนถึงห้องที่หรูหรา ราคาแพงสุดราคาคืนละ1แสนบาท ”

              สมบูรณ์ เล่าให้ฟังว่า หากจะย้อนหลัง 30 ปีที่ผ่านมา จากห้องพักที่ทำจากวัสดุในท้องถิ่น เรือนไม้ไผ่ ราคาคืนละไม่กี่สิบบาท ได้เริ่มมีความเปลี่ยนแปลงหลังจากนักท่องเที่ยวจากยุโรปเดินทางมาพักผ่อนมากขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการก็มีการพัฒนารูปแบบของห้องพักไปเรื่อยๆจนแทบไม่เหลือภาพเก่าๆเลย อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการบนหาดไร่เลย์ ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดยังเป็นคนท้องถิ่น ซึ่งในจำนวนนี้มีทุนจากต่างถิ่นบ้างแต่ก็เพียง2-3รายเท่านั้น

              หลังจากการเติบโตของหาดไร่เลย์ ผู้ประกอบการจึงได้รวมกลุ่มจัดตั้งชมรมธุรกิจท่องเที่ยวไร่เลย์  ขึ้นมา เพื่อมาร่วมบริหารจัดการไร่เลย์ เพราะเราเล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงหาแนวทางให้เกิดการท่องเที่ยวแบบหยั่งยืน

               “ ปัจจุบันนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ทำให้ความเป็นส่วนตัวของนักท่องเที่ยวบนหาดไร่เลย์ เริ่มหายไป ขณะที่มีการใช้ทรัพยากรเพิ่มขึ้น ทำให้สภาพแวดล้อมเริ่มถูกทำลายมากขึ้นเช่นกัน”

              สมบูรณ์ บอกว่า ปัจจุบันมีผู้คนมาเยือนหาดไร่เลย์วันละ2,000-3,000 คน ทำให้มีขยะมากถึง 5-6 ตัน/วัน ซึ่งขยะเหล่านี้จะเก็บส่งขึ้นฝั่งทุกวัน เพื่อไม่ให้เกิดขยะตกค้าง นอกจากนี้ ยังจัดจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณหน้าหาด (บีชการ์ด) การร่วมกันความสะอาดและการจัดทำป้ายแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและถนนบริเวณรอบเกาะ ซึ่งเป็นงบประมาณที่ทางชมรม จัดสรรเองแทบทั้งสิ้น

               วันนี้ หาดไร่เลย์ ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ยังเป็นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสำคัญของกระบี่ เพราะหากประเมินการลงทุนบนเกาะวันนี้คาดว่าไม่น้อยกว่า 5 พันล้านบาท ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ได้สร้างเศรษฐกิจชุมชนด้วยการจ่างแรงงานท้องถิ่นร่วม 2,000 คน ในจำนวนนี้รวมถึงคนขับเรือ ซึ่งจัดอยู่ในภาคบริการและการท่องเที่ยวของไร่เลย์ด้วย

              ในวันนี้ “หาดไร่เลย์” ยังคงเป็นปลายทางของนักท่องเที่ยว ที่มาเยือนกระบี่ และยังมีมนต์เสน์ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว....ที่รอการมาเยือน