วุ่นหนัก..!! นักท่องเที่ยวอิหร่าน ถูกธนาคารไทยปฏิเสธรับแลกเงิน อ้างคำสั่งแบงก์ชาติ
สำนักข่าวอะลามี่ : นักท่องเที่ยวชาวอิหร่านเผชิญอุปสรรคและความยากลำบากในการเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทย หลังเคาเตอร์ธนาคารต่างๆ ในสนามบินสุวรรณภูมิ ไม่รับแลกเงิน ระบุคำสั่งแบงก์ชาติงดให้บริการผู้ถือสัญชาติอิหร่าน และเกาหลีเหนือ ตามนโยบายแซงชั่นของสหรัฐฯ
แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายรับส่งประจำสนามบินสุวรรณภูมิ ของบริษัทท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่ให้บริการลูกค้าชาวอิหร่าน เปิดเผยว่า ขณะนี้นักท่องเที่ยวชาวอิหร่านซึ่งเดินทางมาไทยและลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่สามารถแลกเงินตรากับเคาเตอร์ธนาคารต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในสนามบินได้
“ เมื่อนักท่องเที่ยวอิหร่านไปขอแลกเงินดอลลาร์เป็นเงินไทยพร้อมยื่นหนังสือเดินทางตามระเบียบการแลกเงิน ก็จะถูกเจ้าหน้าที่ประจำเคาเตอร์ธนาคารต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในสนามบินปฏิเสธให้บริการ โดยอ้างว่าประเทศของพวกเขาถูกขึ้นทะเบียนแซงชั่น”
จากการตรวจสอบพบว่า เคาเตอร์ธนาคารไทยพานิชย์ ในสนามบินสุวรรณภูมิ ถึงขนาดแสดงเอกสารภาษาอังกฤษให้นักท่องเที่ยวอิหร่าน โดยมีความหมายในภาษาไทยว่า “ ขออภัยอย่างยิ่ง ประเทศของท่านอยู่ภายใต้มาตรการแซงชั่นทางเศรษฐกิจ เราจึงไม่สามารถให้บริการธุรกรรมทางการเงินแก่ท่านได้ ” เจ้าหน้าที่บริการนักท่องเที่ยวคนเดิมระบุ
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ขณะนี้ นักท่องเที่ยวชาวอิหร่านประสบอุปสรรคและความยากลำบากในการเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยอย่างมาก โดยเฉพาะขาเข้า เนื่องจากส่วนใหญ่พกเงินตราต่างประเทศแต่ไม่สามารถแลกเป็นเงินไทยได้
“ สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมากับกรุ๊ปทัวร์นั้นจะโชคดีกว่า เนื่องจากมีรถรับส่ง แต่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาด้วยตนเองซึ่งต้องแลกเงินเพื่อใช้เป็นค่าพาหนะ หรือค่าอาหารสำหรับเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวนั้นก็จะประสบความยากลำบากมากกว่า”แหล่งข่าวกล่าวและว่า
นอกจากนั้นในขาออกเพื่อเดินทางกลับประเทศ นักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้ออาหารหรือของฝากเพิ่มเติมระหว่างรอขึ้นเครื่องที่สนามบิน ก็ยังต้องเผชิญอุปสรรคดังกล่าวเช่นกัน
ด้าน นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยหรือแบงก์ชาติ บอกกับผู้สื่อข่าวที่ไปสอบถามเรื่องนี้ว่าตนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว อีกยังย้อนถามผู้สื่อข่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อไหร่ พร้อมทั้งออกตัวว่าความจริงตนยังไม่ควรให้ความเห็นเพราะยังไม่ทราบที่ไปที่มาว่าเขาไปแลกที่ไหน สถานรับแลกเปลี่ยนเงินตราหรือกับทางธนาคาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เกิดเหตุดังกล่าวได้สอบถามไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่รับสายได้ยืนยันว่า เป็นมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทยจริง ที่ได้สั่งไปยังทุกธนาคารของไทย โดยเป็นมติที่ออกมาราวกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และเริ่มบังคับใช้เมื่อต้นเดือนสิงหาคมนี้
นอกจากนั้นเมื่อผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบกับทางคอลเซ็นเตอร์ของธนาคารไทยพานิชย์ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (9 ส.ค.) เจ้าที่หน้าผู้ให้บริการก็ได้ยืนยันว่า เป็นคำสั่งของแบงก์ชาติ โดยฝ่ายกำกับควบคุมแจ้งให้เจ้าหน้าที่ธนาคารงดให้บริการธุรกรรมทางการเงินแก่บุคคลผู้ถือสัญชาติอิหร่านและเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นไปตามมาตรการแซงชั่นของสหรัฐฯ รอบใหม่
ก่อนหน้านี้ Mr. Mohsen Mohammadi เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ประจำประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ “ สำนักข่าวอลามี่ “ หลังจากมารับตำแหน่งใหม่ ถึงสถานการณ์ต่างๆในอิหร่านหลังจากปลอดล๊อคจาการบอยคอต ว่า หลังจากที่อิหร่านพูดคุยเรื่องนิวเคลียร์ เป็นที่เรียบร้อย ส่งผลให้ให้อิหร่าน กลายเป็นแหล่งที่บุคคลสำคัญจากประเทศต่างๆมาเยือนจำนวนมาก
“ ในจำนวนนี้มีหลายประเทศจากยุโรป หนึ่งในจำนวนนั้นคือประเทศจีน โดยได้ลงนาม เซ็นต์สัญญามากถึง 17 ฉบับ นอกจากนี้ยังมีประเทศอิตาลี่ ลงนามร่วมกัน ถึง 15 ฉบับ และประเทศฝรั่งเศสอีก 20 ฉบับ “
Mr. Mohsen กล่าวถึงการสร้างความสัมพันธ์ ในภูมิภาคอาเซียน หลังจากปลดล๊อคการบอยคอตในครั้งนี้ โดยเฉพาะกับประเทศไทยที่มีความสัมพันธ์และเป็นกันมานาน ทั้งนี้ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา มีผู้ใหญ่จากไทยไปเดินทางไปเยือนอิหร่าน ซึ่งเป็นคณะใหญ่ 3 คณะ ในจำนวนนี้ รวมถึง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี โดยการเดินทางในครั้งได้มีการลงนามสัญญาถึง 6 ฉบับ อาทิเช่น เรื่องข้าว นาโนเทคโนโลยี เทคโนโลยีด้านยา รวมถึงการกำหนดใช้มาตรฐานเดียวกัน
มีรายงานว่า สำหรับนักกท่องเที่ยวอิหร่าน ที่เดินทางมาเมืองไทยเพราะหลงไหลในประเทศไทย ตัวเลขนักท่องเที่ยวอยู่ที่ประมาณ 200,000 คน/ปี โดยส่วนใหญ่มาที่กรุงเทพและพัทยา นับเป็นตัวเลขการท่องเที่ยวที่มาอุดช่องโหว่ช่วงโลว์ซีซันของประเทศไทยได้ในระดับหนึ่ง เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ จะเดินทางเข้าประเทศไทยตลอดทั้งปี
ขอบคุณข้อมูลจาก เดอะ พับลิคโพสต์
http://www.publicpostonline.net/15001
