Hot Stories
Home   /   Hot Stories  /   เอกอัครราชทูตมาเลเซียเข้าพบจุฬาราชมนตรี อำลาหลังหมดวาระ

เอกอัครราชทูตมาเลเซียเข้าพบจุฬาราชมนตรี อำลาหลังหมดวาระ

           สำนักข่าวอะลามี่ : เมื่อเวลา11.00น ของวันที่ 3 กรกฎาคม 2560 ที่ห้องประชุมสำนักจุฬาราชมนตรี ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร ดาโต๊ะ นาซีเราะห์ บินติ ฮุสเซน เอกอัครราชทูตมาเลเซีย ประจำประเทศไทย เข้าพบ จุฬาราชมนตรี ท่านอาศิส พิทักษ์คุมพล และ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ และ ผู้บริหารคระกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย เพื่ออำลาในโอกาสครบวาระการปฎิบัติหน้าที่ในประเทศไทย


           ในโอกาสนี้ จุฬาราชมนตรี กล่าวต้อนรับในนามของสำนักจุฬาราชมนตรี และสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ให้การต้อนรับ ดาโต๊ะนาซีเราะห์ บินติ ฮุสเซน เอกอัครราชทูต สหพันธ์รัฐมาเลเซีย ประจำประเทศไทยในวันนี้

           ท่านอาศิส กล่าวว่า ราชอาณาจักรไทย กับสหพันธ์รัฐมาเลเซีย ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างกัน ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2500 เป็นเวลาเกือบ 60 ปี ที่ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาโดยตลอด เนื่องจากมาเลเซียเป็นเพื่อนบ้าน ที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศไทย และมีผลประโยชน์ร่วมกันในหลายๆด้าน โดยเฉพาะด้านสังคม ศาสนาและวัฒนธรรม ไทยกับมาเลเซีย มีความใกล้ชิดกัน ในระดับท้องถิ่น  ที่มีการไปมาหาสู่กัน ในฐานะเครือญาติมีการแลกเปลี่ยนการเยือน ของผู้นำศาสนาของทั้งสองประเทศในทุกระดับ การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการศึกษา

             ตลอดระยะเวลา ดาโต๊ะนาซีเราะห์ บินติ ฮุสเซน ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหพันธ์รัฐมาเลเซียประจำประเทศไทย ท่านได้ให้ความสำคัญกับมุสลิมในทุกระดับชั้นในการไปเยี่ยมเยือน และร่วมงานและยังให้การสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ยังความปลาบปลื้มแก่มุสลิมไทยเป็นอย่างยิ่ง

            " ข้าพเจ้าขอขอบคุณ ดาโต๊ะ นาซีเราะห์ บินติ ฮุสเซน และขอพรจาก อัลลอฮ ได้ทรงโปรดประทานสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ แด่ท่าน และขอให้ประสบความ แต่ความสุขความเจริญตลอดไป"จุฬาราชมนตรี กล่าว 

           ขณะที่ ดาโต๊ะนาซีเราะห์ กล่าวขอบคุณที่ให้การต้อนรับ พร้อมกล่าวประทับใจคนไทยตลอดการทำงาน 6 ปี ในประเทศไทย ซึ่งในวันนี้ได้นำคณะเจ้าหน้าสถานทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย มาเข้าพบและแนะนำตัว เพื่อให้ทั้งสององค์กรสามารถประสานกันอย่างใกล้ชิดในโอกาสต่อไป

           พร้อมกันนี้ยังกล่าวว่า ประเทศมาเลเซียในฐานะประเทศที่ใกล้ชิด พร้อมจะให้ความร่วมมือกับองค์กรศาสนาทั้งสำนักจุฬาราชมนตรีและสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย