มาเลเซียขึ้นบัญชีดำ 250รายชื่อพัวพันนักรบ IS
สำนักข่าวอะลามี่ : มาเลเซียขึ้นบัญชีดำ 250 รายชื่อนักรบชาวมาเลเซียที่ไปร่วมรบกับกลุ่มขบวนการ IS ในอีรัคและซีเรีย เผยจับกุมได้แล้ว 50 ราย ขณะที่หน่วยงานความมั่นคงของไทย จับตามุสลิมบางกลุ่ม หลังพบมีแนวคิดสนับสนุน IS
หลังจากที่ พล.ต.อ. Khalid Abu Bakar ผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย แถลงว่า ในห้วง มี.ค.- เม.ย.60 ที่ผ่านมา ทางการมาเลเซีย ได้ปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมายใน 5 รัฐจับกุมผู้ต้องสงสัยว่า เป็นสมาชิกกลุ่ม IS ได้ 6 คน เป็นชาวมาเลเซียเพศชาย 4 คน หญิง 2 คน อายุระหว่าง 26-41 ปี
โดยเชื่อว่าชาย 2 คน ได้ลักลอบนำอาวุธจากภาคใต้ของไทยเข้ามาเลเซียและมีแผนที่จะก่อเหตุวินาศกรรมโจมตีมัสยิดของนิกายชีอะห์ในรัฐปีนัง ผู้ต้องสงสัยบางส่วนได้ปลุกปั่นให้คนมาเลเซียเดินทางเข้าร่วมรบกับกลุ่ม ISในซีเรียและอิรักผ่านสังคมออนไลน์
ทั้งนี้ ผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นหญิงถูกจับที่สนามบินในตุรกี โดยได้รับการประสานจากตุรกี
อย่างไรก็ตาม ทางการยังเร่งติดตามตัวนาย Muhammad Muzaffa Arieff Junaidi อายุ 27 ปี และ นาย Rantau Panjang จากรัฐกลันตัน ซึ่งเชื่อว่าได้หลบหนีการจับกุมเข้าทางภาคใต้ของไทยพร้อมอาวุธเมื่อ 22 มี.ค.2560 ที่ผ่านมา
แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคงของไทย เปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นความชัดเจน เนื่องเพราะได้รับการประสานจากสันติบาลมาเลเซีย แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความความมั่นคงของไทยถูกกำชับให้เปิดเผยข่าวสารให้น้อยที่สุด เพราะไม่อยากให้มีการตื่นตระหนกและหวั่นว่าจะกระทบเรื่องความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
“ จากการติดตามและประสานงานกับทางสันติบาลมาเลเซีย ทราบว่าทางการมาเลเซีย ได้ขึ้นบัญชีดำชาวมาเลเซียประมาณ 250 คน ซึ่งมีพฤติกรรมสงสัยพัวพัน และในจำนวนนี้พบว่าเข้าร่วมรบกับกลุ่มขบวนการ IS ด้วย”
อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์รบในอีรัคและซีเรียขณะนี้ เริ่มมีปัญหาทำให้นักรบเหล่านี้เริ่มเดินทางกลับประเทศ และมีรายงานว่าทางการมาเลเซียจับกุมผู้ต้องสงสัยไปแล้วมากกว่า50 คน เพียงแต่ไมได้เปิดเผยผ่านสื่อเท่านั้น
แหล่งข่าวระบุว่า จากการหารือกับฝ่ายความมั่นคงและต่างประเทศ หลายฝ่ายกังวลมากกับสถานการณ์ในมาเลเซีย เพราะมีการขยายตัวและมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่มีแนวคิดแบบ IS จำนวนมาก จนหวั่นว่า จะเป็นแห่งเพาะเชื้อกลุ่ม IS ในภูมิภาคอาเซียน
เขากล่าวว่า ที่ผ่านมามีการตรวจสอบเส้นทางการเดินทางของนักรบในภูมิภาคเอเชีย ทั้ง จากมาเลเซียและอินโดนีเซีย ส่วนใหญ่จะใช้ช่องทางเดินทางผ่านสนามบินตุรกี ก่อนจะเดินทางต่อไปยังอีรัคและซีเรีย แต่สำหรับคนไทย ไม่ยืนยันชัดเจนว่าไปร่วมรบกับกลุ่มขบวนการ IS หรือไม่ เพียงแต่ติดตามพฤติกรรรมและพบว่ามีปลายทางไปที่สนามบินตุรกีเท่านั้น
นอกจากนี้ หน่วยงานความมั่นคงของไทย ยังได้ติดตามพฤติกรรมของมุสลิมในประเทศไทยบางกลุ่ม ที่มีพฤติกรรมสนับสนุนแนวคิดของกลุ่มขบวนการ IS แต่ยังไม่พบว่ามีคนไทยเข้าไปร่วมรบกับกลุ่มขบวนการ IS แต่อย่างใด