สรุปค่าขึ้น-ลง หลีเป๊ะ 50บาท/คน
ผู้ว่าฯนั่งหัวโต๊ะชี้ขาดทุกฝ่ายขานรับ
สำนักข่าวอะลามี่: จากกรณีที่มีการโต้แย้งเรื่องการเรียกเก็บค่าบริการเรือขึ้น-ลง เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูลระหว่างนักท่องเที่ยวกับผู้ประกอบการ จนทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวจังหวัดสตูลได้รับผลกระทบ
ซึ่งต่อมามีตัวแทนผู้ประกอบการเรือเฟอร์รี่ และ เรือสปีดโบ๊ท ที่วิ่งจาก ปากบารา –เกาะหลีเป๊ะ ได้ยื่นหนังสือผ่านศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดสตูล ให้ตรวจสอบการเรียกเก็บเงินดังกล่าว
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (11 เม.ย. 60 ) นายภัทรพนธ์ รัตนพิเชฏฐชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมที่ห้องประชุมโต๊ะพญาวัง ศาลากลางจังหวัดสตูลเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างชาวเลย์ กับ ผู้ประกอบการเรือเกาะหลีเป๊ะ
โดยการประชุมได้มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งที่ประชุมมีมติว่า เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการและชาวเลย์ จากเดิมที่เรียกเก็บ ขึ้น-ลงหัวละ100บาท นั้น ที่ประชุมมีมติว่า ให้จัดเก็บปกติ แต่ให้ลดราคาลงทั้งขึ้น-ลง เกาะให้เหลือเป็นคนละ 50 บาทจนกว่า การซ่อมแซมโป๊ะจะแล้วเสร็จหรือภายใน 45 วัน
นายสามารถ เจริญฤทธิ์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดสตูลกล่าวว่า ความจริงเรื่องการจัดเก็บค่าเรือประมงให้กับผู้ประกอบการชาวเลย์นั้น มีการประชุมร่วมกันประกอบด้วยจังหวัดสตูล กรมอุทธยาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ประกอบการเรือสปีดโบ๊ท และ ผู้ประกอบการเรือประมงชาวเลย์ เมื่อประมาณ 3-4เดือนที่ผ่านมา
“ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สืบเนื่องจากมีผู้ประกอบการบางรายไม่ยอมทำตามมติที่ประชุม โดยขายตั๋วในราคาถูกกว่า แต่ผลักภาระค่าเรือเล็กขึ้น-ลง เกาะหลีเป๊ะ ซึ่งเป็นรายได้ของชาวเลย์ ให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวไม่รู้ จึงมีการโต้เถียงกัน จนนำไปสู่การขยายความ ทำให้เกิดภาพลักษณ์ในทางไม่ดีกับธุรกิจการท่องเที่ยวสตูลโดยเฉพาะเกาะหลีเป๊ะ ”
นายสามารถ กล่าวอีกว่า การประชุมในวันนี้ทุกฝ่ายรับทราบถึงที่มาที่ไป จึงมีมติว่ายังคงเก็บค่าโดยสารเรือเล็กของชาวเลย์ ในการขนถ่ายผู้โดยสารจากเรือสปีดโบ๊ท ขึ้น ลงเกาะปกติ แต่ให้ลดราคาลงจากเดิม เหลือคนละ25บาท ซึ่งหากรวมขึ้น-ลง เป็น 50บาท/คน จนกว่าโป๊ะจะแล้วเสร็จ หรือประมาณ 45วัน
“ หลังจากที่โป๊ะ เสร็จ ผู้ประกอบการรายใด จะไปจอดที่โป๊ะ แล้วให้เรือประมงถ่ายลูกเรือ หรือ นักท่องเที่ยวลงเกาะ ก็ยังจ่ายปกติ ในราคา 25 บาท/คน ส่วน เรือสปีดโบ๊ท ที่จะจอดหน้าหาด ก็จ่ายให้กับเรือชาวเลย์ปกติเช่นกัน ทั้งนี้การที่เรามาจอดหน้าหาด เราเน้นการอำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยวและความปลอดภัย ที่ไม่ต้องขึ้นลงเรือเล็ก ซึ่งอาจสร้างความลำบากอีกทั้งยังเป็นการลดขั้นตอนให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย”
อย่างไรก็ตาม นายสามารถ ยังย้ำว่า สำหรับค่าขึ้น-ลง เกาะหลีเป๊ะ นี้ ความจริงผู้ประกอบการเรือสปีดโบ๊ท ได้รวมในราคาขายตั๋วอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นการสร้างภาระให้กับนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด
นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวสตูล กล่าวอีกว่า สำหรับการท่องเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งผู้โดยสารมาจาก 3 เส้นทางประกอบด้วย เส้นทางแรกภูเก็ต –เกาะพีพี-เกาะลันตา-หลีเป๊ะ เส้นทางที่สอง หาดปากบารา (สตูล)-หลีเป๊ะและ เส้นทางที่3 จากเกาะลังกาวี(มาเลเซีย)-หลีเป๊ะ ในปีนี้ คาดว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวอยู่ที่ประมาณ 8 แสน –หนึ่งล้านคน