“กระบี่ ฟร้อน เบย์ รีสอร์ท”ปรับกลุยทธ์รุกตลาดมุสลิม
สำนักข่าวอะลามี่ : โรงแรม กระบี่ ฟร้อนท์ เบย์ รีสอร์ท โรงแรมฮาลาลระดับ 4 ดาว ดำเนินธุรกิจก้าวสู่ปีที่ 3 เตรียมปรับกลยุทธ์รุกตลาดมุสลิม วางแผนปีหน้าเจาะตลาดมาเลเซีย อินโดนีเซีย และตลาดอาหรับ มากขึ้น
นายมานิต ดำกุล กรรมการผู้จัดการ โรงแรม กระบี่ ฟร้อนท์ เบย์ รีสอร์ท (Krabi Front Bay Resort) กล่าวถึงการก่อตั้งโรงแรมว่า เจตนาและความตั้งใจคือ เราอยากได้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นมุสลิม เนื่องจากเราประกาศแต่เริ่มต้นว่าเป็นโรงแรมฮาลาล 100 % แม้ว่าที่ผ่านมากลุ่มลูกค้าก็ตอบรับเป็นอย่างดี แต่กลุ่มลูกค้าที่เราต้องการจริงๆ ยังไม่เป็นตามเป้าหมาย
สำหรับโรงแรมกระบี่ ฟร้อนท์เบย์ รีสอร์ท มีพื้นที่ 6 ไร่เศษ ลงทุน 200 กว่าล้านบาท (ไม่รวมที่ดิน) มีห้องพัก 82 ห้อง นอกจากนี้ยังมีอาคารอีกหนึ่งหลัง สำหรับรองรับลูกค้าที่มีงบมาณลดลงมา เพิ่มอีกจำนวน 18 ห้อง รวมห้องพักทั้งหมด 100 ห้อง มีห้องสัมมนา 2 ห้อง มากสุดสามารถรองรับคนได้ประมาณ 200 คน
มานิต กล่าวว่า เดือนตุลาคม ที่ผ่านมา โรงแรมกระบี่ฟร้อนเบย์ฯ เปิดให้บริการครบ 2 ปีพอดี สำหรับในปีที่ 3 จะต้องมีการปรับระบบการทำงานบางส่วน ที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีลูกค้าเข้าพักอย่างต่อเนื่อง แต่เจตนาของเราต้องทำตลาดฮาลาลให้มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความตั้งใจที่มีอยู่แล้วว่า เพราะเราเป็นโรงแรมที่ฮาลาล 100%
“ ถ้ามองในแง่ธุรกิจ หากประกาศตัวว่าเป็นโรงแรมฮาลาล อาจจะส่งผลกระทบกับนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่ง แต่ปัจจุบันแม้เราจะประกาศว่า เป็นโรงแรมฮาลาล แต่นักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่มุสลิมยังมาใช้บริการจำนวนมาก ไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจแต่อย่างใด ”
ก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 เราจะปรับทิศทางของการทำงานโดยจะพยายามเพิ่มช่องทางด้านการตลาดอย่างจริงจัง เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าที่เป็นมุสลิม โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน ทั้งมาเลเซีย อินโดนีเซีย รวมถึงกำลังหาช่องทางดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มอาหรับ ให้มาเข้าพักมากยิ่งขึ้นอีกด้วย จากนั้นในปีที่ 4 เราต้องมาสรุปอีกทีว่าสิ่งที่เราเดินมาถูกทางหรือไม่
“ โรงแรมของเราอยู่ในระดับ 4 ดาว แต่ที่ผ่านมาโรงแรมของเรามีโอกาสต้อนรับบุคคลสำคัญทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิเช่น ท่านจุฬาราชมนตรี อาศิส พิทักษ์คุมพล ท่านพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี รวมถึงมกุฎราชกุมารแห่งรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย เคยรับเกียรติมาพักผ่อนที่โรงแรมของเราหลายวัน ”
อย่างไรก็ตามหากมองภาพรวมตลาดท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่ ยังมีอนาคตโดยเฉพาะจุดเด่นของกระบี่ เรามีมุสลิมถึง 50% และมุสลิมของกระบี่ไม่เหมือนที่อื่น ส่วนใหญ่จะเข้าใจด้านเศรษฐกิจและมีการพัฒนาธุรกิจ เพื่อพัฒนาจังหวัดของตนเอง จึงเป็นจุดเด่นที่จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวมุสลิมจากทั่วโลกมากระบี่ได้ จากประชากรโลกสองพันกว่าล้านคน เราหวังว่ามีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมากระบี่สัก 0.5% ก็เพียงพอแล้ว
“ กระบี่ ฟร้อนเบย์ รีสอร์ท เรามีอาหารฮาลาล และสถานที่ในการรองรับลูกค้ามุสลิม อันนี้คือจุดเด่นในการดึงให้ลูกค้า เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย จีน บรูไน ถ้ามาที่นี่จะสะดวกในเรื่องอาหารการกิน รวมถึงมีโรงแรมที่ฮาลาล มีความสะอาด สามารถปฏิบัติศาสนกิจได้ ”
นายมานิต ยังกล่าวถึงบทบาทความร่วมมือในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของกระบี่ว่า หากปล่อยให้เอกชนทำเพียงลำพังก็คงเหนื่อย ถ้าภาครัฐหรือหน่วยงานจังหวัด และการท่องเที่ยว ต้องมีความเข้าใจตรงนี้
“ ขณะนี้รัฐบาลก็ให้การสนับสนุนเรื่องฮาลาล จังหวัดกระบี่ ททท.การท่องเที่ยวและกีฬา ตลอดจนประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คุณอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ก็ก็ให้การสนับสนุนด้วยดีตลอด และเป็นผู้ผลักดันการท่องเที่ยวเชิงฮาลาลทัวริสซึม ทั้งในระดับจังหวัด และระดับประเทศ
อย่างไรก็ตาม นายมานิต ยังให้ความเห็นว่า การพยายามส่งเสริมตลาดฮาลาล และส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวมุสลิมเข้ามาท่องเที่ยวกระบี่มากขึ้นนั้น ถ้ามองในมิติของภาพรวม นอกจากเราจะทำให้ธุรกิจของเราอยู่ได้แล้ว เราก็ยังจะพยายามที่จะหารายได้เข้าประเทศ และเข้าจังหวัดได้อีกด้วย
เขากล่าว่า สำหรับโรงแรมกระบี่ ฟร้อนเบย์ รีสอร์ท ในระยะยาวเราต้องทำตลาดโดยมุ่งไปที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น เรามีการวางแผนที่ดี เตรียมพื้นที่รองรับ และพร้อมๆ กับการการทำตลาดควบคู่กัน เชื่อมั่นว่าจะทำให้ตลาดกลุ่มเป้าหมายเข้ามามากขึ้นอย่างแน่นอน
หมายเหตุ: ตีพิพม์ครั้งแรก นิตยสารอะลามี่ ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2559