ททท. รุกตลาดฮาลาล เพิ่มนักท่องเที่ยว-เพิ่มรายได้ เข้าไทย
สำนักข่าวอะลามี่: ททท.ทำตลาดเชิงรุก ติดอาวุธความคิดผู้ประกอบการบุกตลาดฮาลาล หาช่องทางเพิ่มรายได้ และจำนวนนักท่องเที่ยว เข้าประเทศตามยุทธศาสตร์ ปี 2560 ภายใต้แนวคิด WE CARE
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2559 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดการสัมมนา “ HALAL เพื่อการท่องเที่ยว” ณ โรงแรมอัลมีรอซ กรุงเทพฯ เป็นโครงการเพิ่มศักยภาพนักธุรกิจเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อครอบครัวสุขสันต์ ท่องธรรมชาติ คู่รักฮันนิมูน ท่องเที่ยวท้องถิ่น ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
นอกจากนี้การสัมมนา เพื่อยกระดับเพื่อช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจท่องเที่ยว HALAL เป็นหลักศาสนาอิสลาม และ เป็นกลไกธุรกิจหนึ่งที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มและเป็น Key Success ได้
นายวิษณุ เจริญศิลป์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ยึดหลักโมเดลเศรษฐกิจและปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล “ ไทยแลนด์ 4.0” ที่เน้นพัฒนาความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สำหรับ ด้านการท่องเที่ยวจะต้องอาศัยเครื่องมือทางการตลาด 4.0 ได้แก่ คน เครื่องมือ นวัตกรรม เทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และ สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ด้วยการเป็นผู้นำเทรนด์
ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2560 ภายใต้แนวคิด WE CARE ประกอบด้วย 1.ดูแลการผลิตสินค้าจากแหล่งท่องเที่ยวให้มีทั้งนวัตกรรมและคุณภาพที่พร้อมจะแข่งขันได้ 2. สร้างกิจกรรมหรือโครงการเพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ในประเทศไทย และ 3. ผลิตสินค้าที่เหมาะสมกับตลาดต่างประเทศ
นายวิษณุ กล่าวว่า สำหรับจัดสัมมนาครั้งนี้ จะเป็นการแนะแนวทางให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ที่มีความสนใจในตลาดนักท่องเที่ยวฮาลาล ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจร้านอาหาร ที่พัก ร้านขายของที่ระลึก โรงพยาบาล หรือธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยผู้เข้าร่วมสัมมนาจะได้รับทราบถึงแนวทาง การดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวฮาลาล ว่าจะมีความน่าสนใจเพียงใด และต้องมีขั้นตอนการดำเนินธุรกิจอย่างไรบ้าง ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้
เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวในแต่ละครั้งค่อนข้างสูง รวมทั้งใช้เวลาพำนักในประเทศไทย โดยเฉลี่ยมากกว่านักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ๆ แต่ในปัจจุบัน ประเทศไทยยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่เพียงพอต่อความต้องการ เมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวมุสลิมที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยในแต่ละปี
“ หากประเทศไทยมีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เดินทางเข้ามาประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น อันจะส่งผลดีต่อรายได้มวลรวมของประเทศไทย รวมถึงรายได้ของคนในท้องถิ่นเพิ่มมากยิ่งขึ้นเช่นกัน” นายวิษณุ กล่าว
สำหรับผู้ร่วมสัมมนาดังกล่าวประกอบไปด้วยผู้ประกอบการด้านต่างๆที่ไม่ใช่มุสลิมและผู้ประกอบการมุสลิม อาทิเช่น กลุ่มโรงพยาบาล โรงแรม ร้านอาหาร และนักลงทุนทั่วไป ที่สนใจธุรกิจฮาลาล กว่า 100 คน
โดยผู้ร่วมสัมมนาจะได้รับความรู้จากวิทยากร ที่มีความเชียวชาญเฉพาะด้าน อาทิเช่น รศ.ดร.ปกรณ์ ปรียากร ผู้อำนวยการสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย บรรยายเรื่อง “ ยุทธศาสตร์ท่องเที่ยวไทย 4.0 กับการท่องเที่ยวฮาลาลเพื่อความเป็นมิตรแก่นักท่องเที่ยวมุสลิม ”
นอกจากนี้ ดร.อณัส อมาตยกุล อาจารย์ประจำภาควิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และที่ปรึกษา(กฎหมายวารีอะห์) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย บรรยายหัวข้อ “ มาตรฐานฮาลาล ตามหลักชารีอะห์กับวิทยาศาสตร์ และจริยธรรมทางการแพทย์”
คุณไพศาล พรหมยงค์ กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย บรรยายหัวข้อ “ หลักการHalal-Harom โอกาสสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจท่องเที่ยวไทย”
สำหรับเวทีสุดท้ายเป็นการเสวนา หัวข้อ “ HALAL: Key success Business “ โดยผู้เชียวชาญธุรกิจฮาลาล ประกอบด้วย คุณเกษม มูลทรัพย์ รองประธานกรรมการบริหาร โรงแรมอัลมีรอซ โรงแรมระดับสีดาวแห่งแรกที่ฮาลาลเต็มรูปแบบ คุณสวาสดิ์ มิตรอารีย์ นายกสมาคมเฟรนไซน์แห่งประเทศไทยและเจ้าของเจ้าของธุรกิจเฟรนไชน์ Smart Brain คุณคฑาวุธ เลาะหมุด รองผู้อำนวยการ สถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย คุณชลภัสสรณ์ อารียวัฒน์ เจ้าของธุรกิจ Sirida Group และ คุณภาคิณ นิธิโชติการ ประธานกรรมการบริษัท MOS Management Group (Thailand ) ผู้ดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลและสุขภาพ
ดำเนินรายการโดย คุณ คาดียะห์ บิลซอและห์ ฉิมวิเศษ อดีตผู้ช่วยทูตพาณิชย์ ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเมิเรต และกรุงธากา ประเทศบังคลาเทศ.