“ปิยะเวท” เร่งฟื้นฟูศักยภาพ
สู่โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำเมืองไทย
สำนักข่าวอะลามี่: โรงพยาบาลปิยะเวท เร่งฟื้นฟูธุรกิจ หลังเครือบางประกอก 9 เข้ามาซื้อกิจการ บริหารแบบเบ็ดเสร็จ ปรับปรุงทั้งระบบ พัฒนาบุคลากร ขยายตลาดเจาะกลุ่มอาหรับ และประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน หวังเรียกเรทติ้งคืน ติดอันดับต้นๆ โรงพยาบาลเอกชนเมืองไทย
นายแพทย์วิทิต อรรถเวชกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลปิยะเวท กล่าวภายหลังจากที่โรงพยาบาลในเครือบางประกอก 9 เข้ามาซื้อกิจการและบริหารแบบเบ็ดเสร็จ ตั้งแต่ 4 มกราคม 2559 หรือประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา ว่า สิ่งที่เรามุ่งเน้นเป็นอันดับหนึ่ง คือ เรื่องของการพัฒนาคุณภาพของโรงพยาบาลให้ได้รับมาตรฐานสากลภายในปี 2559 นั่นหมายถึงว่า เราจะต้องปรับเปลี่ยนในเรื่องของโครงสร้าง ให้เป็นมาตรฐานสากล JCI
นอกจากนี้ยังจะเร่งปรับปรุงเรื่องโครงสร้างของอาคาร ให้มีความทันสมัยทั้งภายในและภายนอก รวมถึงการพัฒนาบุคลากร เช่น เสริมบุคลากร เสริมพยาบาล แพทย์ เสริมอาจารย์แพทย์เข้ามา เพื่อที่จะทำให้คุณภาพของการบริการของเราสู่มาตรฐานสากล และนำเข้าเครื่องมือแพทย์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ป่วยทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
นายแพทย์วิทิตกล่าวอีกว่า สำหรับในเชิงของธุรกิจ เราได้มีการวางแผนทางธุรกิจจะต่อยอดจากของเดิม ซึ่งคนที่ใช้บริการของ รพ.ปิยะเวท เป็นคนไทย 50% และต่างชาติที่นิยมมาใช้บริการคือประเทศในกลุ่มอาหรับ GCC 50%
“ สำหรับตลาดกลุ่มอาหรับ อาทิเช่น โอมาน คูเวต การ์ต้า โดยเฉพาะที่โอมาน เราได้พาร์ทเนอร์ ซึ่งชวนเราไปเปิด มีศูนย์กายภาพบำบัดขนาดใหญ่มาตรฐานสากล บนพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร ได้รับความนิยมในเกณฑ์ดี และเติบโตได้ดี นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสถานที่รักษาต่อเนื่องเรื่องโรคหัวใจ กระดูกเข่า ข้อ หลังจากที่ผู้ป่วยมารักษารักษาที่นี่ เมื่อถึงเวลากลับประเทศ ก็สามารถไปทำกายภาพ ซึ่งเป็นการรักษาอย่างต่อเนื่องได้เลย ”
นายแพทย์วิทิต กล่าวอีกว่า ขณะนี้เราได้เตรียมขยายไปยังตลาดอื่นๆ เช่น ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่ใหญ่ อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับกับโอกาสและพาร์ทเนอร์ ในแต่ละประเทศนั้นๆ ที่ให้ความสนใจมุ่งมั่นและเข้มแข็ง
อย่างไรก็ตามโรงพยาบาลจะเพิ่มลูกค้าในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น ซึ่งหลังจากเข้ามาบริหารก็เดินสายเยี่ยม และสร้างความสัมพันธ์กับโรงพยาบาลที่อยู่ในประเทศต่างๆ เช่นในประเทศ เมียนมาร์ ลาว เขมร เวียดนาม และมีเป้าหมายลูกค้าจากสิงคโปร์ (มีค่าบริการค่อนข้างสูง แต่ในด้านคุณภาพของเราสู้ได้แน่นอน) เช่น การทันตกรรม และด้านความงาม
“ สำหรับในประเทศเมียนมาร์ ขณะนี้เรากำลังรอใบอนุญาต เพื่อเปิดโพลีคลินิกมีแพทย์ประจำ ทั้งแพทย์คนไทยและแพทย์พม่าจะทำงานร่วมกัน ซึ่งตอนนี้สถานที่ของเราพร้อมแล้ว ”
นายแพทย์วิทิต กล่าวถึงแผนการนำพาธุรกิจโรงพยาบาลปิยะเวท ในระยะ 3-5 ปีข้างหน้าว่า โรงพยาบาลปิยะเวท เป็นโรงพยาบาลที่อยู่ในเครือของโรงพยาบาลบางปะกอก ปัจจุบันเรามีโรงพยาบาลโรงประกอก 9 อยู่ฝั่งธนบุรี โดยตั้งเป้าวางสัดส่วนลูกค้า ที่เป็นคนไทย 50% ต่างชาติซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มอาหรับ 50 %
ด้าน คุณพิชญ์ จันทรกมล รองกรรมการผู้จัดการบริษัท กำกับดูแลกลุ่มการบริหาร โรงพยาบาลปิยะเวท กล่าวว่า โรงพยาบาลปิยะเวท เป็นโรงพยาบาลที่มีความเป็นมืออาชีพด้านทางการแพทย์ครบวงจร
สำหรับลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่ก็เป็นชาติมุสลิม แต่อีกส่วนหนึ่งก็เป็น จีน ออสเตรเลีย ยุโรป และอเมริกา
สำหรับชื่อของโรงพยาบาลปิยะเวท นับเป็นโรงพยาบาลเอกชนเก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศไทย อายุมากกว่า 24 ปี ผ่านการบริหารมาหลายบริษัท และล่าสุดเรา (เครือบางประกอก 9) ซึ่งลูกค้าในกลุ่มประเทศอาหรับค่อนข้างจะรู้จักดีในอดีต เนื่องจากมีทีมทำการตลาดมานานร่วม 10 ปี เพียงแต่ช่วงหลังเป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายธุรกิจ ดังนั้นเราจะต้องฟื้นความสัมพันธ์นี้กลับมา
“ หลังจากที่เราเข้ามาบริหาร เราต้องเร่งบูรณะอาคารสถานที่ใหม่ มีการปรับโครงสร้าง ด้านภาพลักษณ์ ด้านอาคาร รวมถึงการใช้สอยพื้นที่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด พื้นที่ทั้งหมด 20 กว่าไร่ แต่ปัจจุบันเราใช้จริงไม่ถึงครึ่ง และเรายังมีโครงการต่อเนื่อง เพื่อต้องการขยายตลาด รวมถึงอำนวยความสะดวกให้กับคนที่มาใช้บริการให้มากขึ้น ”
สำหรับธุรกิจในเครือ เรามีโรงพยาบาล 5 สาขาใหญ่ ประกอบด้วย โรงพยาบาลบางประกอก 1 อยู่ที่สุขสวัสดิ์ เป็นที่แรก, บางประกอก 3 อยู่พระประแดง, บางประกอก 8 อยู่ถนนกาญจนาภิเษก และ บางประกอก 9 ถนนพระราม 2 รวมถึงโรงพยาบาลปิยะเวท ถนนพระราม 9 แต่ที่ใหญ่คือ บางประกอก 9 และ โรงพยาบาลปิยะเวท
คุณพิชญ์ กล่าวว่า สำหรับสถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาในลักษณะรักษาสุขภาพ มีตัวเลขเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตัวเลขมวลรวมของตลาดเฉพาะกลุ่มจากประเทศตะวันออกกลาง น่าจะมีร่วมหมื่นล้านบาท ในส่วนของโรงพยาบาลปิยะเวช มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 500-700 ล้านบาทเท่านั้น
“ เราเริ่มพัฒนาโรงพยาบาลเพื่อเปิดให้บริการให้มากขึ้น ปัจจุบันเรามีเตียงคนไข้ประมาณ 100 เตียง ขณะที่ศักยภาพของโรงพยาบาลสามารถรองรับได้มากถึง 300-350 เตียง จากนี้ไปเราวางโรดแมปไว้ภายใน 3-5 ปี เราจะพัฒนาให้ติดอันดับโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในเมืองไทยให้ได้ ” คุณพิชญ์ กล่าว.