Hot Stories
Home   /   Hot Stories  /   โรงพยาบาลเสรีรักษ์ เตรียมขยายกิจการสู่” ระบบอินเตอร์เนชั่นแนล”

โรงพยาบาลเสรีรักษ์ เตรียมขยายกิจการสู่ ระบบอินเตอร์เนชั่นแนล

++++++++++++++

              สำนักข่าวอะลามี่ :  โรงพยาบาลเสรีรักษ์ เตรียมแผนระยะยาวต้อนรับ AEC  พัฒนาศักยภาพบนพื้นที่18 ไร่ พัฒนาบุคลากร รองรับการขยายสู่โรงพยาบาลอินเตอร์เนชั่นแนล

           
         
             นายแพทย์มานิตย์ ศิริกังวาลกุล  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเสรีรักษ์ กล่าวถึงการพัฒนาโรงพยาบาลเสรีรักษ์หลังจากวันนี้ก้าวสู่ปีที่ ว่า ในปี 58 เราจะขยายและมีการก่อสร้างอาคารเพิ่มอีก 1 หลัง จะมีเตียงผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 60 เตียง เป้าหมายตั้งใจจะเป็นโรงพยาบาลที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกด้าน เพื่อบริการพี่น้องประชาชนในพื้นที่มีนบุรีและเขตใกล้เคียง เป็นโรงพยาบาลที่ทันสมัย ในราคาที่ยอมรับได้

            โรงพยาบาลมีหลายระดับ ซึ่งเราจับกลุ่มตลาดลูกค้ากลุ่ม B+  รวมถึงกลุ่ม C +  ในปีนี้ประเทศเรากำลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ทางโรงพยาบาลเอง ก็เตรียมพร้อมที่จะบริการทางการแพทย์ เนื่องจากโรงพยาบาลของเรา มีพื้นที่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ เริ่มมีคนไข้จากต่างชาติ เข้ามาใช้บริการ คิดว่าในอนาคตอาจจะต้องเปิดอินเตอร์เนชั่นแนล (ในแผนกต่างประเทศด้านบริการ) ซึ่งเราก็มีการพัฒนาบุคลากรของเราในด้านการบริการ ความเชี่ยวชาญ รวมถึงด้านภาษาของพนักงาน

            นายแพทย์มานิตย์ กล่าวถึงการบริหารโรงพยาบาล ว่า แม้ว่าเราจะอยู่ในกลุ่ม โรงพยาบาลรามคำแหง สินแพทย์ และ วิภาวดี  แต่การบริหารงานค่อนข้างอิสระ ปัจจุบันเทคโนโลยี ทำให้เราไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายแพทย์ ยกตัวอย่าง เช่น ทางโรงพยาบาลมีการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ถือเป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ค่อนข้างสูงของเรา ในการตรวจวินิจฉัยความผิดปกติในร่างกาย ในกรณีที่แปลผลยาก เราจะใช้วิธีคอนเฟอเรนท์ ถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ปรึกษาหารือกัน หรือ กรณีที่เกินศักยภาพของเรา เช่น คนไข้เข้ามามีภาวะหัวใจวาย หรือหลอดเลือดหัวใจตีบ เนื่องจากโรงพยาบาลเราไม่มีเครื่องฉีดสีเข้าไปตรวจในเส้นเลือด เราก็จะติดต่อเครือข่ายของเรา และไปได้อย่างรวดเร็ว

            สำหรับในกลุ่มของเรามีโรงพยาบาลใหญ่ 6 โรง เช่น รามคำแหง สินแพทย์ เสรีรักษ์ วิภาวดี วิภาราม (สี่แยกพัฒนาการ) สุขุมวิท และโรงพยาบาลขนาดเล็ก เช่น  วิภารามปากเกร็ด วิภารามชัยปราการ ในอนาคตเครือข่ายของเราจะขยายออกไปอีกมาก

            สำหรับระยะยาวเออีซี เข้ามานายแพทย์มานิตย์ กล่าวว่า หลายคนกลัวว่าจะเกิดปัญหา แต่เขากลับมองว่าไม่น่าจะกระทบ ทั่งนี้โดยธรรมชาติของคน จะเคลื่อนย้ายจากที่ด้อยกว่าไปสู่ที่ดีกว่า สำหรับในภูมิภาคอาเซียน  ประเทศสิงคโปร์ เป็นประเทศที่ดีกว่าเรา ถามว่า หมอไทยเราอยากไปอยู่สิงคโปร์ไหม ถามว่าใครอยากไป เมื่ออยู่เมืองไทยเป็นเมืองที่เป็นสวรรค์อยู่แล้ว อยู่สิงคโปร์ เกาะเล็ก มีกฎกติกามาก เขาจะมาประเทศเราไหม เขาก็ไม่มา อาทิเช่น ถ้าผ่าตัดได้ 50,000 บาท มาเมืองไทยได้ 10,000 บาท

            อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนย้ายแรงงานน่าจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจโดยเฉพาะ ในแง่การตลาด ผู้ป่วยอาจเคลื่อนย้ายมารักษาในประเทศไทยมากขึ้น  เช่น ปัจจุบันคนมาเลเซีย หันไปรักษาตัวที่สิงคโปร์ แม้ว่ามาเลเซีย จะมีการพัฒนาการรักษาที่ก้าวหน้าขึ้น แต่ค่ารักษาพยาบาล ก็จะแพงมากกว่าเรา แต่ยังถูกกว่าสิงคโปร์ การบริการสู้เราไม่ได้ ตรงนี้น่าจะเป็นตลาดเพื่อนบ้านที่น่าสนใจ

             “ตอนนี้เราเตรียมความพร้อมที่จะเปิดบริการเป็นอินเตอร์เนชัลแนล แต่ยังรอโอกาสอยู่ คำว่า อินเตอร์เนชั่น อาจจะบริการพวกคนต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในเมืองไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแถบมีนบุรี เป็นเมืองที่ขยายอยู่แล้ว จะเป็นเมืองที่จะมีผู้คนเข้ามาอยู่อาศัยมาก ในอนาคตถ้ารถไฟฟ้าเปิดให้บริการเชื่อว่าเมืองมีนบุรีจะมีการเปลี่ยนแปลง และการอพยพของผู้คนที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานที่นี่มากขึ้น

              นอกจากนี้ 
จุดเด่นของโรงพยาบาลเสรีรักษ์ว่า เรามีแพทย์ที่เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ เช่น  เรื่องกระดูก เราสามารถผ่าตัดกระดูกสันหลัง  โรคข้อต่างๆ ได้ เรามีเครื่องมือที่ทันสมัย”นายแพทย์มานิตย์  กล่าวและว่า

            ในระยะยาวเราเตรียมสู่โรงพยาบาลที่สมบูรณ์แบบ คือการบริการทุกอย่างครบวงจรในจุดนี้  โดย คนไข้เดินเข้ามาก็สามารถที่จะดูแลได้ครบ เราตั้งเป้าจะไปจุดนั้น จึงต้องลงทุนในเรื่องของอาคาร สถานที่ รวมถึงด้านเทคโนโลยี บุคลากร มั่นใจว่าภายใน 5 ปี เราสามารถไปถึงจุดนั้นได้

            ปัจจุบันโรงพยาบาลเสรีรักษ์ มีพื้นที่ทั้งหมด 18 ไร่ เราจะลงอาคาร และเพิ่มเทคโนโลยีให้มากขึ้น ปัจจุบันมีเตียงผู้ป่วย 147 เตียง แต่ถ้าเปิดตึกใหม่จะมีประมาณ 200 กว่าเตียง ด้านบุคลากรทางการแพทย์ เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกว่า 40 ท่าน และแพทย์พาร์ทไทมอีกหลายร้อยคน พยาบาล 130-140 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับต่างๆกว่า 500 คน ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี และทุกคนก็ภูมิใจ และสามารถเติบโตได้

            ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเสรีรักษ์กล่าวถึงความคาดหวังของการบริหารโรงพยาบาล เรามีวิธีคิด เวลาทหารออกรบ จบแล้วยังมาสร้างอนุสาวรีย์ไว้  ในฐานะที่เป็นแพทย์และพยาบาล ในฐานะที่เราได้เกิดมาเป็นแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้าน

            “ วันหนึ่งก็ต้องผ่านไป ชีวิตเราจะไม่เหลือ เราอยากจะฝากอนุสาวรีย์ไว้ เพื่อให้คนรุ่นหลัง คนที่อยู่เวลาเขามีปัญหาเรื่องสุขภาพ เขาก็จะนึกถึงเรา เมื่อมีสุขภาพดีก็มาเช็คอับ  เป็นความฝันอันสูงสุดของเรา”

              นายแพทย์มานิตย์  กล่าวอีกว่า โรคภัยไข้เจ็บมีวิวัฒนาการ ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีปัญหาเรื่องสุขภาพหรือเป็นชาวบ้านทั่วไป คุณมาหาเรา คุณมาแล้วออกไป คุณต้องประทับใจ นี่คือเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ ดังนั้ เราต้องสร้างความร่วมมือ บุคลากรภายในองค์กร อยากให้ประชาชนที่นึกถึงสุขภาพ หรือถ้าเวลาเจ็บป่วยต้องนึกถึงเรา เข้ามาแล้วไม่ผิดหวังจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราภาคภูมิใจ

           

   ตีพิมพ์ครั้งแรก: นิตยสาร  ดิ อะลามี่ ฉบับสิงหาคม 2558