"สะแปอิง บาซอ-มะแซ อุเซ็ง"เตรียมมอบตัวกลับมาตุภูมิ
โดย : ไชยยงค์ มณีพิลึก
สำนักข่าวอะลามี่: สะพัด"สะแปอิง บาซอ -มะแซ อุเซ็ง" เตรียมกลับไทย หลังหลบหนีกบดานจากกรณีถูกออกหมายจับคดีความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนใต้ ล่าสุด" ยาเซร์ ปาร์ต๊ะ" แกนนำพูโลภาคพื้นยุโรปสั่งสลายกำลังพร้อมเปิดศูนย์ประสานงานยุติไฟใต้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยาเซ ปาต๊ะห์ แกนนำกลุ่มพูโลภาคพื้นยุโรป ซึ่งตั้งสำนักงานอยู่ในประเทศเยอรมัน ต่อสู้กับรัฐบาลไทย เพื่อการแบ่งแยกดินแดนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มานานนับสิบปี ได้สั่งสลายกลุ่มพูโลภาคพื้นยุโรป และยุบสำนักงานตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา และได้เดินทางกลับมายัง จ.ยะลา โดยการประสานงานของ นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
โดย นายยาเซร์ ปาต๊ะห์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะมีการเดินทางกลับมาตุภูมิได้มีการเจรจากับรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ผ่านทาง นายภาณุ อุทัยรัตน์ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง มาโดยตลอด ขณะเดียวกันได้การสลายกลุ่มพูโลภาคพื้นยุโรป เพื่อกลับมาร่วมแก้ปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งเร็วๆนี้ จะได้นำกลุ่มพูโลภาคพื้นยุโรปที่อยู่ในต่างประเทศกลับมาตุภูมิด้วยจำนวนหนึ่ง
"ขณะนี้ได้เปิดศูนย์ประสานประชาอาสาพัฒนาแก้ปัญหาสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2554 ที่ผ่านมา โดยจะใช้ศูนย์แห่งนี้ เป็นที่พบปะกับผู้นำฝ่ายต่างๆในพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน"นายยาเซร์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นอกจากการเดินทางกลับประเทศของ นายยาเซร์ ปาต๊ะห์ แล้ว หน่วยข่าวความมั่นคง ยังได้รับการติดต่อจากแกนนำของขบวนการบีอาร์เอ็นฯ ว่า นายสะแปอิง บาซอ อดีตผู้จัดการโรงเรียนธรรมมูลนิธิ และ นายมะแซ อุเซ็ง อดีตอุสตาสโรงเรียนสัมพันธ์วิทยา ซึ่งเป็น 2 แกนนำ ซึ่งถูกระบุว่า เป็นเจ้าของแผนบันได 7 ขั้น ในการตั้งรัฐปัตตานีดารุสลาม และมีคดีความมั่นคง ดดยถูกตั้งรางวัลนำจับคนละ 5 ล้านบาท จะเข้ารายงานตัวกับตัวแทนหน่วยงานของรัฐภายในเดือนตุลาคม ที่จะถึงนี้เช่นกัน
สำหรับคนทั้ง 2 กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และ สภาความมั่นคงแห่งชาติ ระบุว่า เป็นแกนนำระดับสูงของขบวนการบีอาร์เอ็นโคออดิเนต และอยู่เบื้องหลังการก่อความไม่สงบที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2547
สำหรับ นายยาเซร์ ปาต๊ะห์ แกนนำกลุ่มพูโลภาคพื้นยุโรป ไม่มีหมายจับในคดีอาญา เป็นเพียงเป็นผู้ที่มีรายชื่อแกนนำขบวนการพูโล ส่วน นายสะแปอิง บาซอ และ นายมะแซ อุเซ็ง มีหมายจับตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในข้อหาก่อความไม่สงบ แต่ไม่มีหมายจับในคดีอาญาอื่นๆ เช่น วางระเบิด หรือ ฆ่าผู้อื่น
ดังนั้นทั้ง 3 คน จึงอยู่ในข่ายที่สามารถเข้าสู่ขบวนการของกฎหมายมาตรา 21 แห่ง พ.ร.บ.ความมั่นคง คือ รายงานตัวกับ กอ.รมน. เพื่อเข้าสู่ขบวนการตรวจสอบ ซักถาม และ ฟื้นฟูจิตใจ ตามระเบียบของ ม.21 ที่ใช้เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบ
พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า การเดินทางกลับมาเพื่อร่วมแก้ปัญหาความไม่สงบของ นายยาเซร์ ปาต๊ะห์ นั้น ทาง กอ.รมน. รับทราบมาโดยตลอด และเห็นด้วยที่จะให้บุคคลในต่างประเทศที่มีความเห็นขัดแย้งกับรัฐไทยเดินทางกลับมาเพื่อพูดคุยกัน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ตามแผน “พาคนกลับ” บ้าน ส่วนในเรื่องของ นายสะแปอิง บาซอ และ นายมะแซ อุเซ็ง ถ้าเป็นไปได้จริง จะทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นมีหนทางในการแก้ไขได้ด้วยสันติวิธี
แต่อย่างไรก็ตามกลุ่มพูโลอีกกลุ่มหนึ่งที่มี นายคัสตูรี่ มะโกตา เป็นผู้นำ ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ในประเทศสวีเดน ได้ออกมาประณาม และแสดงความไม่เห็นด้วยกับการสลายตัวของกลุ่มพูโลภาคพื้นยุโรป โดยระบุว่า ไม่เป็นไปตามแนวทางการต่อสู้ของขบวนการ และก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2554 ที่ผ่านมา นายคัสตูรี ได้ส่งจดหมายผ่านทางเว็บไซต์ของขบวนการพูโลถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้เปิดการเจรจากับขบวนการพูโลในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย