โจรสลัดปล้นเรือน้ำมัน2พันตัน /วางระเบิด ก่อนหลบหนี
สำนักข่าวอะลามี่: “เรือลาภิน บางกอก” สัญชาติไทย ถูกโจรสลัดปล้นน้ำมันเตากว่า2พันตันและน้ำมันดีเซล5ตัน ขณะแล่นเรือผ่านน่านน้ำประเทศมาเลเซีย เผยก่อนหลับหนีได้วางระเบิดแสวงเดครื่องบนเรือ ล่าสุดกองเรือภาคสองและตำรวจน้ำสตูล กำลังเร่งกู้
มีรายงานว่า ช่วงค่ำที่ผ่านมา(วันที่ 15กุมภาพันธ์2558) เจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ชุดทำลายวัตถุระเบิด หรือ อีโอดี จากทัพเรือภาคที่ 2 และ ตำรวจภูธรจังหวัดสตูล พร้อมชุดตำรวจน้ำ ชุดกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ชุดพิสูจน์หลักฐานจังหวัด ด่านศุลกากร ได้รับแจ้ง้ว่ามีเรือสัญชาติไทยถูกโจรสลัดปล้นและวางระเบิดในเรือ จึงไกนำนำเรือตรวจการณ์มุ่งหน้าเข้าตรวจสอบเรือ “ลาภิน บางกอก” ซึ่งวิ่งเข้ามาลอยลำเรือบริเวณห่างจากหลังเกาะเขาใหญ่ ประมาณ 5 ไมล์ทะเล ทางแหลมชี หมู่ที่ 2 ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า เรือลำดังกล่าวถูกโจรสลัดปล้นสินค้า นำทรัพย์สินของลูกเรือ และขนถ่ายน้ำมันเตา 2 พันตัน และน้ำมันดีเซล จำนวน 5 ตันหลบหนีไป ขณะแล่นผ่านน่านน้ำทะเลประเทศมาเลเซีย โดยเบื้องต้นทางลูกเรือและกัปตันเรือยืนยันว่าเป็นกลุ่มโจรสลัดจากอินโดนีเซีย โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์.2558 ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดทำลายวัตถุระเบิดไม่สามารถดำเนินการเก็บกู้ได้ เนื่องจากอยู่ในเวลากลางคืน การทำงานยากลำบากต้องรอให้เช้าวันพรุ่งนี้การมองเห็นในการเก็บกู้จะง่ายกว่า ในขณะที่ พ.ต.อ.โสภณ ปานสมทรง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล ได้เชิญตัวลูกเรือ 4 คน ขึ้นให้ปากคำ โดยมี พ.ต.อ.นิพล เหมสลาหมาด รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดรอการสอบปากคำ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานจัดส่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากเป็นคดีนอกเขตความรับผิดชอบ เบื้องต้นยังไม่มีการประเมินมูลค่าความเสียหายแต่อย่างใด
ปฎิบัติการวันที่สอง ยังไม่สามารถกู้ระเบิดได้
ผู้สื่อข่าว สำนักข่าว อะลามี่ รายงานจากพื้นที่ ล่าสุด เมื่อ วันที่ 16 ก.พ. 57 สถานการณ์ล่าสุดการเข้ากู้ระเบิดแสวงเครื่องชนิด ทีเอ็นที แสวงเครื่อง ที่กลุ่มโจรสลัด ผูกติดไว้กับสะพานเดินเรือ หลังบุกขึ้นปล้นเรือ นำทรัพย์สินของลูกเรือและขนถ่ายน้ำมันเตา 2 พันตัน และน้ำมันดีเซล จำนวน 5 ตันหลบหนี ไป
โดยขณะนี้ เรือ“ลาภิน บางกอก” ยังคงลอยลำเรือบริเวณห่างจากหลังเกาะเขาใหญ่ ประมาณ 5 ไมล์ทะเล ทางแหลมชี หมู่ที่ 2 ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล การเข้ากู้ระเบิดเป็นไปด้วยความลำบาก โดยทางเจ้าหน้าที่ชุดทำลายวัตถุระเบิด หรือ อีโอดี จากทัพเรือภาคที่ 2 และ ตำรวจภูธรจังหวัดสตูล พร้อมชุดตำรวจน้ำ ชุดกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ชุดพิสูจน์หลักฐานจังหวัด ด่านศุลกากร วางแผนกัน และ ให้เรือ ของทหารเรือภาคที่ 3 ตำรวจน้ำ เจ้าหน้าที่ขนส่งทางน้ำ ลอยลำอยู่ห่างๆเพื่อความปลอดภัยในการเข้ากู้ระเบิด
สำหรับบรรยากาศล่าสุดยังไม่มีความคืบหน้ายังเป็นเพียงการทำหน้าที่ของทางชุดทำลายวัตถุระเบิด หรือ อีโอดี จากทัพเรือภาคที่ 2 และยังต้องวางแผนการทำงานให้รอบคอบเพราะวัตถุระเบิดชนิดนี้มีความรุนแรงและต้องการความระมัดระวังในการกู้อย่างปลอดภัย
ขอบคุณภาพจาก สปริงนิวส์