“อินตันมอลล์” ห้างฮาลาลปัตตานี รีแบรนด์ใหม่สร้างความเชื่อมั่นคาดเปิดได้ทันกลางปี 58
โดย วรัญญา พุ่มเพ็ชร
++++++++++++++++
“ ตระกูลอัลยุฟรี” ผนึกเครือข่ายสหกรณ์อิสลามฯ เข้าเทคโอเวอร์ โครงการ ”วาวบุหลัน มอลล์” พร้อมปรับโครงสร้าง-รีแบรนด์ใหม่ เป็น “อินตัน คอมมูนิตี้ มอลล์” ผุดห้างสรรพสินค้าฮาลาลใจกลางย่านเศรษฐกิจเมืองปัตตานี
ต่วนไซตูน อัลยุฟรี ประธานกรรมการบริษัท ดีอาร์เอส จำกัด พร้อมด้วย ฮาลีมะห์ มะมิงจิ รองประธานกรรมการ บริษัทดีอาร์เอส จำกัด ร่วมให้สัมภาษณ์ นิตยสาร ดิอะลามี่ ถึงโครงการก่อสร้างห้างสรรพสินค้า อินตัน คอมมูนิตี้ มอลล์ บนถนนเจริญประดิษฐ์ ต.รูสมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี
ต่วนไซตูน อัลยุฟรี กล่าวว่า หลังจากเข้าถือหุ้นกับบริษัท โดยผู้ถือหุ้นเดิมเป็นผู้บริหาร เพื่อดำเนินการก่อสร้าง โครงการ “วาวบุหลัน มอลล์” แต่ปรากฏว่าการเงินสะดุด ทำให้โครงการต้องล่าช้าและชะงักไประยะหนึ่ง จึงได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มจากผู้ถือหุ้นเดิม เข้ามาบริหารเองทั้งระบบเมื่อประมาณ 4-5 เดือนที่ผ่านมา พร้อมๆ กับการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ปรับรูปลักษณ์ และรีแบรนด์ใหม่ เป็น “อินตัน คอมมูนิตี้ มอลล์”
“ ในระหว่าง 4 เดือนที่ผ่านมา ได้เข้าไปดำเนินการก่อสร้างต่อจากของเดิมและปรับปรุงรูปแบบของการตกแต่งอาคาร เพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลง สร้างความเชื่อมั่นและดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายในเรื่องของโครงสร้างอาคารภายนอก พร้อมๆ กับจัดการออกแบบตกแต่งภายในอาคารให้มีความสวยงามทันสมัย” ต่วนไซตูน กล่าวและว่า
อย่างไรก็ตาม หากเป็นไปตามแผนคาดว่าจะให้เสร็จทันภายในกลางปี 58 หรืออีกประมาณเดือน7-8 ข้างหน้า จะเปิดให้บริการลูกค้าได้ สำหรับโครงการดังกล่าวจะเป็นห้างสรรพสินค้าแบรนด์มุสลิม เป็นศูนย์การค้าแหล่งช้อปปิ้งมอลล์ ในทำเลย่านเศรษฐกิจของเมืองปัตตานี ใกล้กับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.ปัตตานี)
สำหรับรูปแบบของห้างอินทัน คอมมูนิตี้มอลล์ แห่งนี้ จะจัดแบ่งโซน ต่างๆ จากทั้งหมด 5 ชั้น ประกอบด้วย ชั้น 1 บริการด้านการเงิน เช่นธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม สถานเสริมความงามสำหรับมุสลิมะห์ ชั้น 2 โซนอาหาร บุ๊ฟเฟ่ห์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต สินค้าประเภทแบรนด์เนมทั่วไปที่มีคนรู้จักและได้รับความนิยม
ชั้น 3 จะเป็นตลาดนัดติดแอร์ อุปกรณ์ประเภทไอที ชั้น 4 จัดเป็นห้องประชุมสัมมนาหรู สามารถรองรับได้ 800 คน มีห้องประชุม 2 ห้อง ในโซน A จะเป็นห้องประชุมขนาดเล็กรองรับได้ 250-300 คน ส่วนโซน B จะรองรับได้ประมาณ 400 คน ซึ่งทั้งสองห้องจะมีโปรเจคเตอร์สามารถเชื่อมต่อกันได้
ส่วนชั้น 5 เปิดโล่ง ไม่ติดแอร์ สามารถชมเมืองและบรรยากาศความเป็นธรรมชาติ มีมุมกาแฟ ทั้งนี้ห้างฯ ได้เตรียมพื้นที่อำนวยความสะดวก มีลานจอดรถสามารถรองรับได้มากถึง 150 คัน และในอนาคตคาดว่าจะสร้างลานจอดรถเพิ่ม ซึ่งรองรับได้ถึง 300 คัน
“ ขณะนี้การดำเนินการก่อสร้างฯ เสร็จไปแล้วประมาณ 70% บนพื้นที่ใช้สอยประมาณ 9,700 ตารางเมตร ”
ด้าน นายก่อซี อุเซ่ง ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์อัศศิดดีก จำกัด ในฐานะรองกรรมการผู้จัดการ บริษัทดีอาร์เอส จำกัด กล่าวว่า จากเดิมเครือข่ายสหกรณ์อิสลามแห่งประเทศไทยไปถือหุ้นกับผู้ถือหุ้นใหญ่รายเดิม แต่ภายหลัง สหกรณ์เข้าซื้อกิจการต่อจากผู้บริหารเดิม สหกรณ์กรณ์อัศศิดดิกและกลุ่มของตระกูล”อัลยุฟรี” ได้ลงทุนเพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเดิมเราคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 30 ล้าน ก็สามารถปิดงานและเปิดให้บริการได้ แต่ปรากฏว่า หลังจากนำที่ปรึกษาตรวจสอบโครงการพบว่ามีหลายอย่างที่ต้องดำเนินการ
ดังนั้นจึงได้ยื่นกู้สถาบันการเงินเพิ่มอีก 120 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการทั้งระบบ จากมูลค่าโครงการประมาณ 250-300 ล้านบาท ทั้งนี้หากโครงการแล้วเสร็จจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 400-500 ล้านบาท .