"อัสนาวี มุคุระ "ผู้นำมุสลิมกระบี่ มือบริหารยุคใหม่
โดย เอกราช มูเก็ม
บรรณาธิการบริหาร
สำนักข่าวอะลามี่: หากจะกล่าวถึง กระบี่ หลายคนรู้จักในฐานะเมืองท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน ซึ่งในความเป็นกระบี่ มีพลเมืองที่เป็นชุมชนมุสลิมกว่าครึ่ง " นิตยสาร ดิ อะลามี่" ฉบับนี้ เราขอแนะนำ " อัสนาวี มุคุระ" ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดกระบี่ และมุมองการบริหารองค์กร สู่การยอมรับ ไม่เพียงในองค์กรศาสนา แต่ยังหมายรวมถึงองค์กรภาครัฐและท้องถิ่นในกระบี่อีกด้วย
" กระผมในฐานะประธานคณะกรรมการอิสลามคนปัจจุบัน และคณะ จะทำงานต่างๆสำเร็จได้นั้น จะต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน ไม่มีองค์กรใดที่จะทำงานโดยลำพังได้ หากขาดความร่วมมือร่วมใจจากท่าน แน่นอนงานทุกอย่างก็จะล้มเหลว " นั่นคือประโยคแรกที่ " อัสนาวี มุคุระ " ได้กล่าวหลังจากที่ท่านขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2554 ที่ผ่านมา
อัสนาวี มุคุระ ในวัย 58 ปี นับเป็นผู้บริหารองค์กรศาสนาที่มีวิสัยทัศน์คนหนึ่ง ที่น่าจับตา โดยได้รับโล่พระราชทานผลงานการปฏิบัติงานดีเด่น ประจำปี 2555 จากกระทรวงมหาดไทย และรางวัลผลงานดีเยี่ยม ในปี 2556 เป็นเครื่องการันตีการทำงาน
" ผมไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ ผลงานและความสำเร็จทั้งหมด เกิดจากความร่วมมือของกรรมการ และอนุกรรมการ ตลอดเจ้าหน้าที่ และความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ " ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงที่มาของความสำเร็จดังกล่าว
เขายังกล่าวถึงแนวทางการบริหารองค์กร ว่า ยึดหลักการทำงานตามที่ได้ประกาศวิสัยทัศน์ การทำงาน ประจำปี 2554-2560 ที่ดำรงตำแหน่งว่า "...จะมุ่งส่งเสเริมภาวะผู้นำ จัดให้ทุกมัสยิดเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ และเผยแพร่ศาสนาทุกระดับอย่างทั่วถึง จัดระบบข้อมูลสารสนเทศด้วยระบบไอทีที่ทันสมัย.."
จังหวัดกระบี่มีประชากรทั้งหมดกว่า 5 แสนคน ในจำนวนนี้เป็นผู้นับถือศาสนาอิสลาม หรือ ชาวมุสลิม ประมาณ 2.5 แสนคน หรือกว่า 50% มีมัสยิดที่จดทะเบียนถูกต้อง 198 กว่าแห่ง และกำลังยื่นจดทะเบียนอีกกว่า 20 แห่ง รวมแล้วกว่า 220 แห่ง
อย่างไรก็ตามการทำงาน ที่ประสบผลสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน รวมถึงสมาคมสตรีมุสลิมกระบี่ และระบบการสื่อสารที่ครอบคลุม โดยเรามีสถานีวิทยุชุมชนเป็นของคณะกรรมการอิสลามฯ เอง 1 คลื่น และยังมีสถานีวิทยุชุมชน ที่เป็นเครือข่ายอีก 8 แห่ง นอกจากนี้ สำนักงานกรรมการอิสลามจังหวัดกระบี่ นับเป็นจังหวัดแรก จาก 39 แห่งทั่วประเทศที่จัดทำระบบข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ทุกมัสยิด โดยจะรวบรวมข้อมูลรายชื่ออิหม่าม กรรมการมัสยิด ตลอดจนข้อมูลพื้นฐานของสัปบุรุษ เพื่อเป็นฐานข้อมูลของประชากรในท้องถิ่น
นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับองค์กรภาคส่วนต่างๆ ในระดับจังหวัด อาทิเช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด องค์กรภาครัฐอื่น หรือรัฐวิสาหกกิจ ตลอดจนภาคเอกชน ในการประสานความร่วมมือ เพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียว ไม่ให้เกิดความแตกแยก
" ความสำเร็จอย่างหนึ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นหนึ่งเดียวขององค์กรทุกภาคส่วนในกระบี่ คือ การจัดงานเมาลิดกลางจังหวัด ซึ่งปีนี้จัดมาเป็นปีที่ 33 แล้ว นับเป็นกิจกรรมขึ้นชื่อของจังหวัดอีกด้วย " อัสนาวี กล่าวและว่า
สำหรับการบริหารองค์กร เราจะให้ทุกคนที่เป็นกรรมการได้มีบทบาทและมีความสำคัญ ด้วยการมอบหมายให้แต่ละฝ่ายทำงานด้วยใจอาสา ทำให้งานหลายอย่างประสบความสำเร็จ แม้ว่าอาจมีความขัดแย้งบ้าง แต่ทุกอย่างผ่านกระบวนการประชุมผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด โดยใช้หลักการศาสนา และใช้มติที่ประชุมเป็นหลัก ทำให้ทุกฝ่ายยอมรับในหลักการ
อัสนาวี กล่าวถึงศักยภาพของกระบี่ ว่า นับเป็นเมืองการท่องเที่ยวขึ้นชื่อของประเทศไทย ในฐานะที่มุสลิมเป็นประชากรครึ่งหนึ่งของจังหวัด ซึ่งเกี่ยวข้องกับแหล่งท่องเที่ยวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นจึงเป็นอีกนโยบายของกรรมการอิสลามประจำจังหวัด จะเข้าไปปลูกจิตสำนึกของประชาชนให้รักษาธรรมชาติ เพราะธรรามชาติเหล่านี้เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงประทานมาให้
ทุกวันนี้ประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดกระบี่ มักจะใช้โซเชียลมีเดีย โปรโมทการทำงาน ซึ่งเขามองว่า เป็นการรายงานให้ประชาชนในพื้นที่รู้ว่า เขาทำอะไรบ้าง อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้กรรมการและผู้นำชุมชนแต่ละคนได้รับรู้ เพื่อจะได้ตื่นตัวในการทำงานมากขึ้น ซึ่งถือเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่ง โดยใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ค มาสร้างประโยชน์ในการทำงาน.
ดังนั้นในฐานะที่เป็นคนพื้นที่ ต้องช่วยกันดูแล โดยเฉพาะผู้นำมัสยิดและผู้นำชุมชน ตลอดจนเยาวชนต้องปลูกฝังเรื่องการรักษาธรรมชาติ ซึ่งจะเห็นว่าบางชุมชนเช่นชุมชนมุสลิมบ้านเกาะลาง เป็นชุมชนต้นแบบที่ยังคงรักษาอัตลักษณ์ความเป็นมุสลิมและรักษาธรรมชาติได้เป็นอย่างดี
